ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลก ราชาคริปโต ตัดวงจรทุนคริปโต EP.5 ระดมกำลังปิดล้อมตรวจค้น 25 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ จุดสำคัญลุยค้นห้องชุดโครงการคอนโดหรูย่านพระราม 9 จับกุมสองผัวเมียชาวจีนยึดเงินสดกว่า 4 ล้านบาท ห้องชุด 3 ห้อง มูลค่ากว่า 44 ล้านบาท รถยนต์หรู 3 คัน หนังสือเดินทางประเทศต่างๆจำนวนมาก แฉแผนประทุษกรรมผู้ต้องหากลุ่มนี้ทำหน้าที่นำเหรียญดิจิทัลที่ได้จากเหยื่อไปฟอกเป็นเงินสดก่อนส่งให้หัวโจกใหญ่ ประสานข้อมูล ปปง.ให้ผู้เสียหายมายื่นขอเฉลี่ยทรัพย์คืนลอตแรก 600 ล้านบาท วันที่ 15 ก.ย.นี้

ปฏิบัติการตำรวจไซเบอร์ไล่ล่าแก๊งจีนเทาราชาคริปโต EP.5 เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ก.ย. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.สอท.2 พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 นำกำลังเปิดยุทธการ Trust No One ล่าข้ามโลก ราชาคริปโต ตัดวงจรทุนคริปโต EP.5 ปิดล้อมตรวจค้น 25 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ในจำนวนนี้มี 2 จุดที่น่าสนใจ จุดแรกเข้าตรวจค้นห้องพักบนชั้น 4 และชั้น 5 ของโครงการ Maitria Residence Rama 9 Bangkok คอนโด มิเนียมหรูย่านพระราม 9 ควบคุมตัวนายจาง ฮั่น หลิน อายุ 54 ปี และ น.ส.โจวหลู่ อายุ 29 ปี สองสามีภรรยาชาวจีน ยึดของกลางเป็นเงินสดกว่า 4 ล้านบาท หนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดหรู 3 ห้อง มูลค่ากว่า 44 ล้านบาท รถยนต์หรู 3 คัน ประกอบด้วยรถปอร์เช่คาเยนน์ รถเบนซ์ และรถเก๋งมินิคูเปอร์ทะเบียนป้ายแดง สมุดบัญชีธนาคาร โทรศัพท์มือถือ ไอแพด กระเป๋าแบรนด์เนม กระสอบสีรุ้งกว่า 100 ใบ และหนังสือเดินทางจำนวนมากมีทั้งประเทศจีน กัมพูชา และวานูอาตู ส่วนจุดที่สองเข้าตรวจค้นห้องพักในโครงการ Whizdom Inspire Sukhumvit คอนโดมิเนียมหรูในซอยสุขุมวิท 101 ย่านพระโขนง ควบคุมตัว น.ส.หลิว เจียหยู ชาวจีน ตรวจยึดเอกสารสำคัญจำนวนมากไว้ตรวจสอบ

...

พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก บช.สอท.เปิดปฏิบัติการ Trust No One ล่าข้ามโลก ราชาคริปโต EP.1 ครั้งนั้นเข้าตรวจค้น 6 จุดย่านศรีนครินทร์ จับกุมนายเซาเซียน ซู อายุ 31 ปี และนางคี ยิ ยี อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาชาวจีนตามหมายจับศาลอาญาฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน ก่อเหตุใช้โปรไฟล์ปลอมตีสนิทผู้เสียหายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ชวนลงทุนในแพลตฟอร์มปลอมสําหรับเทรดเงินสกุลดิจิทัลหรือสินทรัพย์ต่างๆ ลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกม มีผู้เสียหายในไทย 3 พันกว่าราย รวมมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท มูลค่าความเสียหายทั่วโลกกว่า 1 หมื่นล้านบาท พบว่ากลุ่มผู้ต้องหาเล่นแร่แปรธาตุทรัพย์สินในลักษณะลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เปิดบริษัทฟอกเงินโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี จากนั้นขยายผลเรื่อยมาจนเป็นที่มาของปฏิบัติการตัดวงจรทุนคริปโต EP.4 จับกุมชาวจีนหัวโจกใหญ่ 2 คนคือนายอาบิน เย่ และ น.ส.เฝิงเฟย ไข่ ก่อนจะขยายผลมาถึง EP.5 ในครั้งนี้

ผบช.สอท. เผยต่อไปว่า คดีนี้ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. มีความประสงค์ยึดอายัดทรัพย์ทั้งหมดส่งให้ ปปง.ตรวจสอบและเฉลี่ยทรัพย์คืนผู้เสียหาย ได้ประสานข้อมูลกับ ปปง. เพื่อให้ผู้เสียหายมายื่นขอเฉลี่ยทรัพย์คืนในวันที่ 15 ก.ย. และวันที่ 18 ก.ย.จะแถลงผลการปฏิบัติร่วมกันและคืนเงินให้ผู้เสียหายในส่วนทรัพย์ที่สามารถยึดและเฉลี่ยทรัพย์คืนได้ ส่วนทรัพย์สินที่ยึดมายังไม่สิ้นสุดคดี เนื่องจากเจ้าของทรัพย์มายื่นคัดค้าน ปปง.ก็ต้องตรวจสอบการได้มาของทรัพย์สินตามขั้นตอนต่อไป

พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. กล่าวเสริมว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับสำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างขั้นตอนเตรียมประกาศคุ้มครองสิทธิให้กับผู้เสียหายในคดีนี้ โดยการยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิเพื่อเฉลี่ยทรัพย์ที่ตรวจยึดคืนแก่ผู้เสียหายในลอตแรกมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายในคดีพลาดข้อมูลข่าวสารและความเคลื่อนไหว สามารถกดติดตามได้ที่เพจเฟซบุ๊กตำรวจไซเบอร์

ขณะที่ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 กล่าวว่า แผนประทุษกรรมของกลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้า กลุ่มนี้ทำหน้าที่นำเงินที่ได้จากการกระทำผิดที่ถูกแปรสภาพเป็นเหรียญดิจิทัลมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินสด คล้ายกับการฟอกเงิน และกินส่วนต่างค่าดำเนินการ ก่อนจะส่งเงินให้ตัวการใหญ่ใส่เงินในกระสอบสีรุ้งจำนวนมาก อย่างไรก็ตามจากการจับกุมสองสามีภรรยาชาวจีนที่คอนโดหรูย่านพระราม 9 ตรวจสอบพบว่านายจาง ฮั่น หลิน ชายชาวจีนแต่ถือหนังสือ เดินทางประเทศกัมพูชา มีหมายจับจากทางการจีน ถือเป็นการก่อเหตุของคนจีนที่มีหมายจับในประเทศจีนและใช้หนังสือเดินทางประเทศอื่นเข้ามากบดานในไทยเพื่อหลบหนีความผิด