เกิดเหตุฝ้ากันสาดอาคารเก่าแก่ 3 ชั้น อายุประมาณ 40 ปี ย่านถนนเจริญกรุง กทม. พังถล่มลงมา โชคดีไร้คนเจ็บ-ตาย รถยนต์พังเสียหาย 2 คัน เผยก่อนเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก คาดอุ้มน้ำมากเกินไป-โครงเหล็กผุกร่อนตามกาลเวลาจึงถล่มลงมา 

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 31 ส.ค.66 พ.ต.ท.สิทธิชัย ใจมั่น สว.(สอบสวน) สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุผนังกันสาดติดบังตัวอาคารถล่มลงมา เหตุเกิดบริเวณปากซอยเจริญกรุง 72/5 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมการไฟฟ้านครหลวง และเจ้าหน้าที่สำนักโยธา เขตบางคอแหลม

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณปากซอย พบเป็นอาคารเก่าแก่อายุประมาณ 40 ปี สูง 3 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณริมถนนเจริญกรุง มีแผ่นกันสาดปิดบังตัวอาคารขนาดความสูง 10 เมตร ยาว 25 เมตร ถล่มลงมาโดยรอบตัวอาคารเป็นลักษณะตัวแอล โดยแผ่นฝ้ากันสาดดังกล่าวทำจากแผ่นยิปซั่ม มีโครงเหล็กยึดติดกับตัวอาคาร โดยก่อนเกิดเหตุมีฝนตกลงมาอย่างหนัก คาดว่าตัวแผ่นยิปซั่มและพื้นกันสาดอุ้มน้ำมากเกินไป  ประกอบกับโครงเหล็กมีสภาพผุกร่อนตามกาลเวลา จึงพังถล่มลงมา โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ มีเพียงรถยนต์ 2 คัน ที่จอดอยู่บริเวณใต้อาคารได้รับความเสียหาย ถูกแผ่นกันสาดหล่นทับ ในขณะที่เสาป้ายซอยเจริญกรุง 72/5 เสียหายหักเอน รวมถึงกล้องวงจรปิดของ กทม.ได้รับความเสียหายด้วย

จากการสอบสวน นายวิทยา เกตุแก้ว อายุ 72 ปี ผู้เฝ้าอาคารดังกล่าว ให้การว่า ตนได้รับการว่าจ้างจากเจ้าของตึกให้มาเฝ้าที่อาคารแห่งนี้ เป็นเวลา 2 ปีแล้ว โดยมีหน้าที่เฝ้าดูแลอาคาร ก่อนเกิดเหตุตนกำลังอาบน้ำอยู่ภายในอาคาร ได้ยินเสียงดังโครมครามด้านนอก ทีแรกคิดว่าเป็นพวกรถขยะที่มาเก็บขยะรายวัน กระทั่งได้ยินเสียงดังใกล้ตัวมากขึ้น จึงออกมาดูเห็นมีประกายไฟลุกออกมาจากหน้าบ้าน ด้วยความตกใจคว้าไฟฉายมาหาทางออก พร้อมโทรศัพท์ตามเพื่อนบ้านให้มาช่วยรับตัวออกไป ทำให้รอดมาได้อย่างหวุดหวิด

...

ด้าน นายสายัณห์ กุศลพันธ์ นักจัดการงานโยธาชำนาญการพิเศษ หัวหน้าฝ่ายโยธา สำนักงานเขตบางคอแหลม กล่าวว่า อาคารดังกล่าวมีอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี วัสดุที่ถล่มลงมาเป็นแผ่นกันสาด คาดว่าแผ่นยิปซัมน่าจะอุ้มน้ำ พื้นกันสาดมีน้ำขังอาจทำให้รับน้ำหนักมากเกินไป ทั้งนี้หลังการไฟฟ้าทำการติดตั้งไฟฟ้าเสร็จแล้ว จะเคลียร์เศษซากกันสาด เพื่อเปิดการจราจรบริเวณนี้ต่อไป ส่วนตัวอาคารไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด สำหรับการติดตั้งผนังกันสาดอาคาร ต้องมีการขออนุญาตกับทางเขตอยู่แล้ว จากนี้ต้องไปย้อนตรวจสอบว่า โครงเหล็กได้รับอนุญาตถูกต้องหรือไม่

ขณะที่ พ.ต.อ.วาทิตย์ โรจนไพฑูรย์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร กล่าวว่า เบื้องต้น ทรัพย์สินทางราชการได้รับความเสียหายได้แก่ เสากล้องวงจรปิด ป้ายซอย และสายไฟฟ้า เป็นความเสียหายในทางแพ่ง ที่ทางรัฐจะต้องมีการฟ้องร้องกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ขณะนี้ได้ประสานฝ่ายโยธา สำนักงานเขตบางคอแหลม มาตรวจสอบ ตอนนี้ต้องเร่งต่อไฟฟ้า เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน จากนั้นฝ่ายโยธาจะทำการเก็บซากกันสาดออกจากจุดที่เกิดเหตุ เพื่อเปิดการจราจรตามปกติ สำหรับอาหารหลังนี้เคยเป็นที่ทำการของธนาคารแห่งหนึ่ง และได้ยุบสาขานี้ไปแล้ว ส่วนเจ้าของอาคารขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ อย่างไรก็ตามจะต้องมีการตรวจสอบเพื่อหาผู้รับผิดชอบทางแพ่งต่อไป