เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 66 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร ว่า วันที่ 31 ส.ค.66 จะเป็นวันสุดท้ายของการจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หลังเที่ยงคืนของวันที่ 31 ส.ค.เป็นต้นไปจะมีค่าปรับ 10% และค่าเงินเพิ่ม หรือดอกเบี้ยที่เกิดจากการชำระภาษีล่าช้าเกินกว่าเวลาที่กำหนดอีก 1% ต่อเดือน ซึ่งค่าปรับ 10% จะมีจดหมายเตือนประมาณกลางเดือน ก.ย. พอจดหมายเตือนออกค่าปรับจะเพิ่มเป็น 20% พร้อมกำหนดวันชำระ หากพ้นกำหนดยังไม่มาชำระค่าปรับจะเพิ่มเป็น 40% ส่วนเงินเพิ่มจะปรับเพิ่มเป็น 2% สุดท้ายแล้วอาจจะต้องจ่ายค่าปรับกว่า 42% จึงอยากให้ทุกคนมาช่วยจ่ายภาษีกัน
นายชัชชาติกล่าวว่า เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา กทม. ได้ส่งจดหมายแจ้งเตือนประชาชนไปชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไปแล้วประมาณ 1 ล้านราย มีประชาชนมาจ่ายภาษีแล้ว 600,000 ราย คาดว่าภายในวันที่ 31 ส.ค. จะได้เงินจากการชำระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 13,000 ล้านบาท การจ่ายภาษีทำได้ 3 ทาง 1.มาจ่ายที่เขตได้เลย 2.จ่ายผ่านธนาคารกรุงไทยทุกสาขา 3.จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking ขอให้ประชาชนช่วยกันจ่ายภาษี เพราะเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนากรุงเทพฯ
ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ กทม. สามารถจัดเก็บรายได้ถึง 79,458 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 101 เกินเป้าที่ตั้งไว้ 79,000 ล้านบาท คาดว่าปีนี้จะสามารถจัดเก็บรายได้ 90,000 ล้านบาท ส่วนที่เกินมาจะเอาไปใช้ไม่ได้ ต้องนำไปไว้เป็นเงินสะสม ซึ่งปัจจุบันมีเงินสะสมที่ปลอดภาระผูกพัน จำนวน 30,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม รายได้ที่เพิ่มขึ้นมา กทม.จะเก็บไว้เพื่อชำระหนี้ต่างๆ เช่น โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นต้น ขณะเดียวกัน กทม.จะทำบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (เอ็มโอยู) กับกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ เพื่อติดตามเร่งรัดผู้ที่ค้างชำระภาษีรถยนต์ประจำปี คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นอีก 1,000 ล้านบาท.
...