“ดีเจเพชรจ้า” พร้อมทนายความหอบหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวนดีเอสไอตามนัดหมาย ถูกสอบรวดเดียว 2 ชั่วโมงเศษ เคลียร์หมดทุกประเด็น ยืนยันเส้นทางเงิน 50,000 บาทเป็นการรับงานโปรโมต-รีวิวในฐานะลูกจ้าง ก่อนเดินทางไปแจ้งความที่ บช.สอท.เอาผิดเพจ “กองป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันทางเทคโนโลยี หรือกปปพ.” หลังถูกโพสต์รูป-ข้อความระบุเจ้าตัวกับลูกชายเตรียมหนีไปฮ่องกง

จากกรณีพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นัดหมายดีเจเพชรจ้า-นายวิเชียร กุศลมโนมัย เข้าให้ปากคำในฐานะพยานครั้งที่ 1 ในคดีพิเศษที่ 42/2566 เพื่อสอบสวนในกรณีการฟอกเงินและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดีแชร์ลูกโซ่ ฟอเร็กซ์-3 ดี หลังพบหลักฐานเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ อดีตผู้บริหารคนสำคัญ อยู่ระหว่างรับโทษจำคุกในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เนื่องจากพบการโอนเงิน 50,000 บาท เข้าบัญชีธนาคาร ดีเจเพชรจ้า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.61 เป็นเหตุให้ดีเอสไอออกหมายเรียกให้เข้าชี้แจงถึงการทำธุรกรรมดังกล่าว

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 09.35 น. วันที่ 18 ส.ค. ดีเจเพชรจ้า-นายวิเชียร กุศลมโนมัย พร้อมด้วยที่ปรึกษากฎหมาย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน และเปิดเผยก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า วันนี้มีความพร้อมในการเตรียมเอกสารสำหรับการชี้แจงกับพนักงานสอบสวน เป็นเอกสารเกี่ยวกับยอดเงิน 50,000 บาท ส่วนหลักฐานที่ยืนยันความบริสุทธิ์ใจนั้นมีแน่นอน จะมอบและให้การ กับพนักงานสอบสวน สำหรับยอดเงินดังกล่าวเป็นยอดเงินที่ฝากมาเพื่อโปรโมตเพจโชว์รูมรถยนต์ แต่นายอภิรักษ์ โกฎธิ ให้คนอื่นติดต่อตนมาแทน สำหรับยอดเงินดังกล่าวตนแจ้งกับกรมสรรพากรไว้แล้ว

...

“ผมรู้จักนายอภิรักษ์เพียงแค่ครั้งเดียวจากการทำธุรกรรมยอดเงิน 50,000 บาท หลังจากนั้นผมไม่เคยติดต่อกัน ยืนยันไม่เคยกดติดตามอินสตาแกรมของนายอภิรักษ์เลย” ดีเจเพชรจ้ากล่าวก่อนเดินเข้าห้องพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำในฐานะพยานตามนัดหมาย

กระทั่งเวลา 12.00 น. หลังดีเจเพชรจ้าเข้าให้ปากคำในฐานะพยานกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษนานกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าตัวออกมาเปิดเผยว่า ตนเข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ในฐานะพยานนัดแรกพร้อมมอบหลักฐานครบถ้วน หลังจากนี้ไม่ต้องมาอีกแล้ว อีกทั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอระบุ ตนให้การที่เป็นประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะเรื่องเงิน 50,000 บาท เป็นการรับงานโปรโมต-รีวิวในฐานะลูกจ้างเท่านั้น เมื่อ 5 ปีที่แล้วตนทำรายการเรื่องรถยนต์อยู่แล้ว ทำให้ในช่วงนั้นจะมีทั้งแบรนด์โชว์รูมรถยนต์ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์และอื่นๆติดต่อมาตลอด แต่กรณีนี้เป็นเพียงครั้งเดียวที่โชว์รูมดังกล่าวติดต่อตนมาให้โปรโมต แต่ไม่ใช่บริษัท RKK_Supercars_Club ที่ติดต่อเข้ามา เป็นบุคคลที่ติดต่อมาแทน ส่วนใหญ่เวลามีใครติดต่อให้เรารีวิวอะไร ก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เพราะเขาเป็นผู้ว่าจ้าง ส่วนหนังสือว่าจ้างนั้นไม่มี ทั้งหมดให้การกับเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าเจ้าหน้าที่ดีเอสไอแสดงรูปภาพบุคคลอื่นๆให้ชี้แจงหรือไม่ ดีเจเพชรจ้าระบุว่า ทั้งหมดอยู่ในสำนวนแล้ว ขณะนั้นตนไม่รู้จักแชร์ลูกโซ่ฟอเร็กซ์-3 ดี และไม่มีใครมาพูดคุยในเรื่องนี้หรือมาแนะนำชักชวน เพราะไม่เคยสนใจการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนโอเวอร์เกินกว่าสมองคนจะคิด

“หลังให้ปากคำกับดีเอสไอเสร็จสิ้น ผมจะไปแจ้งความเอาผิดกับเฟซบุ๊กเพจหนึ่ง ถือว่าเป็นการจับผู้ร้ายเอง เป็นเพจปลอมเขียนข่าวที่ไม่มีมูลความจริง ที่ยอมไม่ได้คือการนำรูปลูกชายของผมมาโพสต์แล้วบอกว่าผมหนีไปแล้ว ไม่มาให้ปากคำ เลื่อนนัด เป็นต้น ถือเป็นพฤติการณ์หมิ่นประมาทอย่างร้ายแรง” ดีเจเพชรจ้ากล่าว

ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมื่อเวลา 15.00 น. ดีเจเพชรจ้า-นายวิเชียร กุศลมโนมัย พร้อมทนายความ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.สอท. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับเพจ “กองป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการพนันทางเทคโนโลยี หรือ กปปพ.” หลังเพจดังกล่าวนำรูปภาพของดีเจเพชรจ้าและลูก ไปโพสต์ข้อความในลักษณะให้ข่าวเท็จว่าเตรียมหลบหนีไปฮ่องกง และเบี้ยวนัดดีเอสไอ อีกทั้งยังโพสต์ข้อความอื่นซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

เบื้องต้น พล.ต.ต.อำนาจรับเรื่องไว้ตรวจสอบว่าเพจดังกล่าวเป็นเพจปลอมหรือไม่ พร้อมสั่งการให้พนักงานสอบสวน บช.สอท.สอบปากคำผู้เสียหายเพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐานทางสำนวนคดีตามขั้นตอน