ผู้ว่าฯ “ชัชชาติ” รับลูกปัญหารูปปั้น “ครูกายแก้ว” สั่งปลัดกรุงเทพมหานครติดตามแง่กฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สำนักงานเขตตรวจสอบทุกด้านและรวบรวมข้อกังวลที่ประชาชนร้องเรียน หากพบข้อเดือดร้อนจะนำไปพิจารณาหาแนวทางดำเนินการที่เหมาะสม ด้านเลขานุการผู้ว่าฯ กทม.นำปลัด กทม.และคณะเข้าคุยกับผู้บริหารโรงแรม ตรวจจุดที่ตั้งรูปปั้นพบไม่สูงเกินกฎหมายกำหนด ชี้เป็นสิทธิของเอกชนที่ทำได้ แนะให้สร้างสิ่งปิดบังรูปปั้นเพื่อความสบายใจของผู้พบเห็น ขณะเดียวกันยังมีคนที่ทำธุรกิจมาไหว้ขอพรครูกายแก้วไม่ขาดสาย ชี้ไหว้เพื่อเป็นกำลังใจในการทำมาหากินไม่ใช่งมงาย สภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย นำตัวแทนกลุ่มพุทธศาสนิกชน อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ผู้บริหารโรงแรมเดอะ บาซาร์ ย้ายรูปปั้นครูกายแก้ว ยื่น 3 ข้อเรียกร้อง แต่เห็นด้วยที่โรงแรมจะทำสิ่งปิดบังลดความน่ากลัวลง

จากกรณีกลุ่มตัวแทนชาวพุทธ ออกมาเรียกร้องให้ย้ายรูปปั้น “ครูกายแก้ว” ออกจากลานข้างโรงแรมเดอะ บาซาร์ แบงค็อก บริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร กทม.เนื่องจากเห็นว่าการนำรูปปั้นลักษณะเหมือนซาตานมาตั้งให้คนทำพิธีประหลาด มีการกล่าวอ้างว่าเป็นบรมครูผู้เรืองเวทย์ สร้างความเชื่อให้คนหลั่งไหลไปบูชาเป็นการเผยแพร่สิ่งไม่เป็นสิริมงคล อาจทำให้เกิดความวิตกกังวล ความหวาดกลัวเกิดขึ้นต่อขวัญและกำลังใจของประชาชน พร้อมทั้งมีการเรียกร้องไปถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ให้ใช้อำนาจหน้าที่สั่งย้ายรูปปั้นประหลาดไปไว้ในที่มิดชิดหรือทำลายทิ้ง

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวที่ศาลาว่าการ กทม. กรณีคณะราษฎรไทยแห่งชาติยื่นหนังสือขอให้ย้ายรูปปั้นครูกายแก้วว่า ได้สั่งการให้ปลัด กทม.ติดตามในแง่ของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นยังไม่ได้มีความผิดในแง่ข้อกฎหมายต่างๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่เอกชน แต่ด้วยความสูงของรูปปั้นอาจต้องดูเรื่องความปลอดภัยให้รอบคอบ รวมถึงสั่งการให้สำนักงานเขตตรวจสอบ รวบรวมข้อร้องเรียนหรือข้อกังวลของประชาชน เพื่อเข้าพบและหารือกับเจ้าของรูปปั้น หากรูปปั้นดังกล่าวก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญ ประชาชนแจ้งปัญหาเข้ามาได้ กทม.จะรับเรื่องไว้และพิจารณาประกอบกับข้อกฎหมายหรือข้อบัญญัติต่างๆ หาแนวทางดำเนินการอย่างเหมาะสมต่อไป

...

เวลา 15.00 น. นายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าฯ กทม. นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร นายพรเลิศ เพ็ญพาส ผอ.เขตจตุจักร เข้าหารือกับตัวแทนผู้บริหารโรงแรมเดอะ บาซาร์ นายภิมุขกล่าวว่า จากการตรวจสอบรูปปั้นครูกายแก้ว สูง 5 เมตร ไม่เกินกฎกระทรวงที่กำหนดไว้ว่า หากมีสิ่งปลูกสร้างสูงเกิน 10 เมตร จะต้องเข้าข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.อาคารที่ต้องขออนุญาต ดังนั้นหากตั้งอยู่ในสถานที่เอกชน ถือเป็นสิทธิ์ที่ทำได้ เพียงแต่ติดปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชนกลุ่มที่คัดค้านที่เดินทางผ่านไปมาและเกิดความไม่สบายใจ มองเห็นแล้วรู้สึกไม่ดี

นายภิมุขกล่าวอีกว่า กทม.ต้องแยกกลุ่มที่ศรัทธาและกลุ่มที่ไม่สบายใจเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ศรัทธาเดินทางมากราบไหว้ได้ เพราะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนกลุ่มที่ไม่สบายใจ กทม.ช่วยแก้ปัญหา เบื้องต้นหารือกับโรงแรม หาสิ่งปิดบังไม่ให้คนภายนอกได้เห็นรูปปั้นที่ชัดเจน เพื่อความสบายใจและจะเข้ามาช่วยดูความถูกต้องในการก่อสร้างต่างๆ หากยื่นแบบมาแล้ว ไม่มีข้อติดขัดทางกฎหมายก่อสร้างได้ จากนี้ กทม.จะตรวจสอบและรวบรวมข้อร้องเรียนหรือข้อกังวลของประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน ยืนยันว่า กทม.พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย แต่ตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่ขัดต่อระเบียบ กทม. หากประชาชนมีข้อร้องเรียนยื่นมาที่ กทม.ได้ ถ้าพบว่าผิดจะเข้ามาพูดคุย

ขณะที่ตัวแทนผู้บริหารโรงแรมเดอะ บาซาร์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับ กทม.ในการสร้างสิ่งปิดบัง เพื่อเป็นการลดกระแสและขอบคุณ กทม.ที่มีแนวคิดอยากจะแก้ไขปัญหา ลดความไม่สบายใจกับทุกฝ่าย ทั้งนี้ โรงแรมยินดีที่จะสร้างสิ่งปิดบัง ขอให้ กทม.พิจารณาแบบก่อสร้างและกรอบเวลาในการขออนุญาต

เย็นวันเดียวกัน ที่โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก กทม. นายศุภาชัย ผ่องสวัสดิ์ ประธานกรรมการสภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย นำตัวแทนกลุ่มพุทธศาสนิกชน อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ผู้บริหารโรงแรมเดอะ บาซาร์ ย้ายรูปปั้นครูกายแก้ว ที่มีลักษณะน่ากลัวออกจากพื้นที่ โดยกล่าวว่า องค์กรชาวพุทธและเครือข่ายสายบุญขอเสนอแนะเพื่อพิจารณา ดังนี้ 1.ไม่ให้คนสักการบูชาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลางเมือง อาจจะทำเป็นรูปปั้นที่แสดงประวัติตามความเชื่อ 2.ถ้าเป็นไปได้ควรเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ 3.ถ้าทำ 2 ข้อแรกไม่ได้ขอให้จัดพิธีบวงสรวงขอขมาโทษพระรัตนตรัยและพรมเทวดาขั้นสูงและไม่เน้นการบูชารูปปั้นนี้ต่อไปโดยนิมนต์พระสงฆ์มาสวดภาณยักษ์จะทำให้บรรดาภูตผีหรือสิ่งไม่ดีที่มาสถิตในรูปปั้นนี้หลีกทางออกไปด้วยพุทธคุณ

นายศุภาชัยกล่าวอีกว่า สภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนาและองค์กรชาวพุทธไม่ใช่คู่ขัดแย้งในเรื่องนี้ แต่ที่ต้องออกมาเรียกร้องเพราะมีพุทธ ศาสนิกชนเกิดความวิตกกังวลหวาดกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีในบ้านเมืองจึงเสนอแนวทางแก้ไข ส่วนโรงแรมจะดำเนินการหรือไม่เป็นสิทธิ์ส่วนตัว ไปสั่งอะไรไม่ได้ คนไหว้ครูกายแก้วก็เป็นสิทธิ์ส่วนบุคคล แต่ต้องให้ความรู้ว่าสิ่งที่ไหว้คืออะไร เทพ เปรต หรืออสูรกาย ต้องมีที่มาอ้างอิง เช่น การกราบไหว้ท้าวเวสสุวรรณ พญานาค พญาครุฑ ล้วนมีสิ่งอ้างอิงตามพุทธประวัติ ส่วนที่จะมีการสร้างโดมครอบรูปปั้น มองว่าอาจจะช่วยปิดบังให้มิดชิดขึ้น จะลดความน่ากลัวลงโดยเฉพาะผู้พักอาศัยในคอนโดฯใกล้เคียง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเย็นยังมีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติมาไหว้ขอพรรูปปั้นครูกายแก้ว ที่โรงแรมเดอะ บาซาร์ แบงค็อก โดยนำดอกดาวเรือง ชุดหมากพลู ธูปสีดำ และน้ำมาวางหน้ารูปปั้น เมื่อสอบถามถึงการเรียกร้องให้ย้ายรูปปั้นออกจากพื้นที่ต่างมองว่าไม่เห็นด้วย เพราะการเคารพบูชาเป็นความเชื่อของแต่ละคน คนที่มามาด้วยใจไม่ได้มีใครบังคับ มาขอพรเป็นกำลังใจในการทำมาหากิน ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนและไม่ได้บูชาสิ่งไม่เป็นมงคล

ในจำนวนนี้มีนายวรภัทร อาจมังกร ผู้ผลิตคราฟต์โซดาซันเดย์อีเวนนิ่ง นำผลิตภัณฑ์ที่ทำกับเพื่อนมาถวายรูปปั้นครูกายแก้ว พร้อมอธิษฐานขอพรให้ธุรกิจที่ทำมีความปังและรุ่งเรือง นายวรภัทรกล่าวว่า อ่านข่าวจากไทยรัฐเห็นนายเจค คอยเนอร์ นักธุรกิจน้ำกระท่อมโซดาชาวอเมริกันนำน้ำกระท่อมมาถวายครูกายแก้วเมื่อ 17. ส.ค.จึงนำคราฟต์โซดามาอธิษฐานขอพรเพื่อเป็นกำลังใจในการทำธุรกิจ

ต่อมาเวลา 19.00 น. นายศุภาชัยนำคณะเดินทางมาที่โรงแรมเดอะ บาซาร์ ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อต่อนายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการประธานกรรมการโรงแรมเดอะ บาซาร์ โดยบอกว่าประชาชนเกิดความกลัวครูกายแก้ว พร้อมเสนอแนวทางแก้ไข นายชาลีอธิบายว่า โรงแรมอยู่ในช่วงของการฟื้นฟู ผู้บริหารจึงมีแนวคิดว่าจะทำอะไรได้บ้างก็ไปเห็นศาลพระพิฆเนศห้วยขวางมีสถานที่เล็กๆ ยังทำได้ พอดีมีผู้ติดต่อเข้ามาขอเช่าพื้นที่จุดนี้เพื่อสร้างสถานที่สักการบูชาให้เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ตอนแรกโรงแรมไม่รู้เหมือนกันว่ารูปแบบไหน ทางผู้สร้างบอกว่าครูกายแก้วไม่ใช่ตามหลักพุทธ ศาสนาเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่เมื่อสร้างแล้วมีคนกลัวอยากให้แก้ไขก็น้อมยอมรับไปปรับปรุง กทม.ก็มาคุย เสนอให้ดูแลทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยจะมีการสร้างโดมครอบรูปปั้น ปิดไม่ให้คนภายนอกเห็น จะทำเป็นประติมากรรมสวยๆ ใช้ทุนสร้างหลายสิบล้าน หากใครอยากสักการะขอให้เข้ามาด้านใน ถือว่าเป็นการยอมกันครึ่งทาง ส่วนที่จะให้ย้ายออกไปเลยคงทำไม่ได้ หากจะรณรงค์ให้คนไม่งมงายในเรื่องนี้ ควรไปดูตามวัดต่างๆที่มีการบูชารูปพญานาคหรือไอ้ไข่ด้วยเพราะจุดนั้นเป็นวัดแต่ที่นี่เป็นสถานที่เอกชน

...