ตัวแทนผู้ประสานงานคณะราษฎรไทยแห่งชาติ หรือ ครช. ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ กทม.ขอให้ใช้อำนาจสั่งกลุ่มบุคคลที่นำ รูปปั้นครูกายแก้วมาตั้งที่โรงแรมริมถนนรัชดาภิเษก บริเวณแยกลาดพร้าว-รัชดา ย้ายรูปปั้นออกจากชุมชน หลังเกิดกระแสที่ทำให้เกิดความเชื่อผิดๆ มีผู้คนไปกราบไหว้บูชาขอพรขัดต่อวัฒนธรรมอันดี เช่นเดียวกับกลุ่มสภาศิลปินส่งเสริมพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ยื่นหนังสือให้ผู้บริหารโรงแรมที่ตั้งรูปปั้นครูกายแก้วพิจารณาย้ายรูปปั้นออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด ขณะที่นักธุรกิจชาวอเมริกันทำน้ำกระท่อมโซดาขาย ได้ยินกิตติศัพท์ครูกายแก้วเลยนำผลิตภัณฑ์มาขอพรให้กิจการรุ่งเรือง ระบุเป็นความเชื่อส่วนตัว

ภายหลังเกิดกระแสฮือฮาเกี่ยวกับรูปปั้น “ครูกายแก้ว” ที่มีลักษณะเป็นคนกึ่งนก มีปีก เล็บยาวสีแดง เขี้ยวสีทอง อ้างว่าเป็นบรมครูผู้เรืองเวทย์ที่มีผู้เคลื่อนย้ายมาตั้งไว้ที่ลานหน้าโรงแรมเดอะบาร์ซ่า บริเวณใกล้แยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก เขตห้วยขวาง กทม. เมื่อเช้าวันที่ 9 ส.ค. แล้วรูปปั้นเกิดติดคานสะพานลอยก่อนถึงสถานที่ตั้ง ส่งผลให้การจราจรช่วงดังกล่าวที่ถนนรัชดาภิเษกขาเข้าเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ เพราะมีรถติดสะสมต่อเนื่องยาวไปจนถึงสะพานพระราม 7

ต่อมามีประชาชนหลั่งไหลไปกราบไหว้ขอพรจากรูปปั้นครูกายแก้ว โดยเชื่อว่าจะเป็นสิริมงคล ก่อให้เกิดโชคลาภ จนมีผู้ออกมาแสดงความเห็นเรื่องนี้ในโลกโซเชียลจำนวนมาก ส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการกราบไหว้หรือบูชารูปปั้นครูกายแก้วเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องความงมงาย ไม่มีความเป็นสิริมงคลทั้งยังเป็นความเชื่อที่ผิดหลักพระพุทธศาสนา รวมถึงเป็นการปั่นกระแสนำรูปแบบของประติมากรรมฝรั่งมาเป็นต้นแบบสร้างขึ้นแล้วใส่เรื่องราวอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์สารพัดเข้าไปเพื่อให้เกิดความงมงาย เกรงกันว่าจะเกิดลัทธิใหม่ให้เป็นที่ปั่นป่วนในสังคม

...

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. กลุ่มสภาศิลปินส่งเสริมพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย พระเถระ ศิลปิน และบุคคลในสังคม เข้ายื่นหนังสือให้ผู้บริหารโรงแรมเดอะ บาร์ซ่า กทม.พิจารณาย้ายรูปปั้นครูกายแก้วออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด โดยจะรวมตัวกันอ่านแถลงการณ์และยื่นหนังสือต่อผู้บริหารโรงแรม ช่วงเย็นวันที่ 18สิงหาคม

ขณะเดียวกัน มีนายพลภาขุน เศรษฐญาบดี ตัวแทนผู้ประสานงาน คณะราษฎรไทยแห่งชาติหรือ ครช. มีหนังสือถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ผู้ว่าฯ กทม. ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2566 ร้องเรียนกรณีมีกลุ่มลัทธิประหลาดนำวัตถุรูปน่ากลัวคล้ายอสูรมาตั้งในที่สาธารณะ มีการจัดให้คนมาทำพิธีประหลาด โดยทราบว่าจะมีการนำสัตว์มาฆ่าบูชายัญ ขัดต่อวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่นและความสงบเรียบร้อยของประชาชน กรณีดังกล่าวสร้างความหวาดกลัวแก่ชุมชน และเป็นที่วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม โดยเห็นว่าคณะบุคคลที่จัดนั้นอาจประสงค์ในการมัวเมาคนที่ไม่อาจแยกแยะดีชั่วให้ไปกราบไหว้เพื่อหวังเงินจากเครื่องบูชา จึงโปรดพิจารณาขอให้นายชัชชาติรับเรื่องเข้าสู่การพิจารณาและใช้อำนาจสั่ง คณะบุคคลที่จัดทำอยู่นั้น ย้ายรูปปั้นครูกายแก้วไปไว้ในที่อันมิดชิดหรือทำลายวัตถุนั้นเสีย พร้อมกับขอทราบความคืบหน้าในการดำเนินการด้วย

อีกด้านเย็นวันเดียวกันที่เดอะ บาซ่าร์ รัชดาภิเษก แยกรัชดา-ลาดพร้าว ผู้สื่อข่าวมาสังเกตการณ์พบมีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามากราบไหว้บูชาครูกายแก้วและขอพรกันไม่ขาดสาย บางคนนำบายศรีมาวางบูชาและนำน้ำมาวางหน้ารูปปั้น ในจำนวนนี้นายเจค คอยเนอร์ นักธุรกิจชาวอเมริกัน นำน้ำกระท่อมโซดาใส่ขวด ที่เป็นผลิตภัณฑ์ของนายเจคมาวางที่รูปปั้นและเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทราบว่ารูปปั้นครูกายแก้วกำลังเป็นกระแสอยู่ในเมืองไทย และเชื่อกันว่าสามารถช่วยเรื่องความสำเร็จ การค้าขาย ประกอบกับกำลังทำธุรกิจเกี่ยวกับน้ำกระท่อมโซดาพอดี เมื่อได้ยินเรื่องนี้ จึงน้ำกระท่อมโซดามาขอพรเพื่อให้ธุรกิจที่ทำเจริญก้าวหน้าขายดิบขายดี รูปปั้นครูกายแก้วอาจจะมีลักษณะคล้ายกับการ์กอยล์ แต่การ์กอยล์มีหน้าตาคล้ายเดม่อนหรือปิศาจ แต่ตนมองว่ามีรูปลักษณ์เหมือนคนมากกว่า จึงรู้สึกเชื่อถือและมีความศรัทธาอันเป็นความเชื่อส่วนบุคคลจึงมาขอพร