กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดงานใหญ่แห่งปี “มหกรรมวิทยาศาสตร์ 2566” ที่ศูนย์ประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 11-20 สิงหาคม กับที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 17-20 สิงหาคมโชว์ศักยภาพผลงานด้านวิทยาศาสตร์ ผลิตภัณฑ์ทั้งใน-ต่างประเทศ ภายใต้ BCG Model หนุนวิทยาศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน พร้อมมอบรางวัล Prime Minister’s Science Award2023 แก่ครูและเยาวชนที่สร้างผลงานด้านวิทยาศาสตร์

 ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2566” ภายใต้แนวคิด “For Bright and Creative Generations” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-20 ส.ค. ณ อาคาร 9-11 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานีและที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 17-20 ส.ค. โดยมี ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงและ ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผอ.องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ(อพวช.)เข้าร่วมงาน

มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ,มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2566,มหกรรมวิทย์,มหกรรมวิทย์ 2566,กระทรวงการอุดมศึกษา,ดอน ปรมัตถ์วินัย,ข่าววันนี้,ข่าวหน้า1นายดอนกล่าวว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2566 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแก่คนไทยทุกช่วงวัย โดยคาดหวังให้คนไทยมีทักษะความรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ที่มีผลกระทบโดยตรงต่อมวลมนุษยชาติทั้งปัจจุบันถึงอนาคต ดังนั้นการส่งเสริมให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ในทุกมิติ จะต้องไม่มีข้อจำกัดใดๆ สามารถเข้าถึงความรู้ที่ไม่จำกัดเฉพาะในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัยหรือในสถาบันต่างๆเท่านั้น เพราะโลกในอนาคตเป็นโลกกว้างที่มีองค์ความรู้หลากหลายสามารถเรียนรู้ได้อย่างไร้พรมแดน จึงกล่าวได้ว่ารัฐบาลมุ่งให้การศึกษาและการเรียนรู้เพื่อคนไทยทุกคน เป็นหลักคิดหลักปฏิบัติที่ต้องเชื่อมโยงการดำเนินงานจากทุกภาคส่วนสู่คนทุกช่วงวัยไปจนตลอดชีวิต

...

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า พร้อมกันนี้ขอแสดงความยินดีและชื่นชมเยาวชนและครูผู้ได้รับรางวัล Prime Minister’s Science Award 2023 ซึ่งเป็นแบบอย่างที่สำคัญในฐานะที่ผู้ที่ประสบความสำเร็จด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม จะเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคคลอื่นต่อไป

ด้าน ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า การจัดงาน มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ มีความยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ มุ่งหวังการพัฒนาสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ เห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในบทบาทต่อการพัฒนาประเทศ รวมถึงเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในฐานะ “พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย”และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” กับสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีคุณูปการต่องานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการศึกษาของประเทศไทย

รมว.การอุดมศึกษาฯกล่าวด้วยว่า งานนี้ยังเป็นเวทีสำคัญในการแสดงผลงานด้านวิทยาศาสตร์ผ่านนิทรรศการและการแสดงผลงานวิจัยที่แสดงถึงศักยภาพของคนไทย มาให้ประชาชนได้เห็นเพื่อให้มีการซื้อขายกัน ตลอดจนเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ๆ เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ BCG Model นำผลงานวิจัยจะได้ไปพัฒนาต่อยอดสู่สังคมได้มากยิ่งขึ้น สำหรับนิทรรศการที่น่าสนใจ ได้แก่ นิทรรศการ ลับ ลวง ล่า พฤกษามรณะ รวมพืชผู้ล่าหายากจากทั่วโลกมาไว้ในงานนิทรรศการ ฉัน เฉิด ฉาย ที่ทำให้ผู้เข้าชมเข้าใจความงามด้วยวิทยาศาสตร์ เพื่อต่อยอดไปสู่ STEAM Career นิทรรศการ “สู่สูญพันธุ์: On the Edge of Extinction” ชมตัวอย่างสัตว์ที่สูญพันธุ์หรือเชื่อว่าอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้ว อาทิ นกเจ้าฟ้าหญิงสิรินธร อีแร้งสีน้ำตาลหิมาลัย เนื้อสมัน กูปรี ปลาฉนากยักษ์ ปลาหางไหม้ไทย หอยเสียมพิษณุโลก นิทรรศการมายาประดิษฐ์ สำรวจโลกของอุตสาหกรรมบันเทิง อันจะส่งเสริมต่อยอดสู่อุตสาหกรรมภาพยนตร์ และนิทรรศการลึกลับกับอาหารไทย นำเสนอศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นครัวโลก สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร.0-2577-9960