ชูวิทย์ ร้องอธิบดีกรมสรรพากร ตรวจสอบการหลบเลี่ยงภาษีของ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย โดยนำเอกสารหลักฐานข้อมูลเกี่ยวกับการหลบเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดิน บ.อสังหาฯ ชื่อดัง มามอบ โดยมีตัวแทนกรมฯ มารับเรื่องแทน รับไปตรวจสอบ
ที่กรมสรรพากร ซอยพหลโยธิน 7 เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 4 ส.ค. 2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักแฉชื่อดังได้นำเอกสารหลักฐานข้อมูลเกี่ยวกับการหลบเลี่ยงภาษีซื้อขายที่ดินของ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ที่มีความเกี่ยวพันกับ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มอบให้แก่ นายลวรรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากรทำการตรวจสอบ โดยมี นายกิตติพล สิงห์ทน หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ รักษาราชการแทน เลขานุการกรม กรมสรรพากร เป็นตัวแทนรับเอกสารดังกล่าว
นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากพฤติกรรมของ นายเศรษฐา เป็นผู้มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหลบเลี่ยงภาษี ตนยืนยันว่าเป็นผู้มีส่วนร่วมกระทำผิด ไม่ใช่ผู้สนับสนุน มีการเปลี่ยนแปลงวิธีการโอนการซื้อขายที่ดินต่อตารางวาให้มีความแตกต่างกัน โดยมีการคัดย่อตามรายชื่อ 12 คน 12 ฉบับ วางค่ามัดจำที่ดิน 50% 51% และ 52% ในโฉนดแปลงเดียวกัน ประเด็นสำคัญที่ตนต้องชี้แจง คือ เรื่องที่คนของพรรคเพื่อไทยออกมาโจมตีตนว่าเป็นการเตะหมูเข้าปากหมา ตนอยากบอกว่าพรรคเพื่อไทยยังมีแคนดิเดตนายกฯ ท่านอื่นคือ คุณอิ๊งค์ กับนายชัยเกษม นิติสิริ ทำไมถึงเอา นายเศรษฐา ขึ้นมาเป็นนายกฯ หากนายเศรษฐาอ้างว่าไม่รู้เห็นกับการซื้อขายที่ดินดังกล่าว มีหน้าที่เซ็นอย่างเดียว ก็ขอให้ดูตัวอย่างของ คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ไม่รู้เห็นการจำนำข้าว และก็มีหน้าที่เซ็นเพียงอย่างเดียว สุดท้ายต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศ
...
นายชูวิทย์ กล่าวต่อว่า การโอนที่ดิน 12 วัน 12 คน นั้นเป็นการสมคบคิดกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เมื่อเป็นเช่นนี้หากเอา นายเศรษฐาไปเป็นนายกรัฐมนตรี รับประกันได้ว่ามีปัญหาแน่นอน นอกจากนี้ตนยังจะแฉเป็น episode นี่แค่ episode แรก 12 คน 12 วัน ยังมี episode การปั่นราคาที่ดิน ปั่นราคาหุ้น ซึ่งตนจะไปร้องเรียนต่อ กลต.ต่อไป การกระทำของ นายเศรษฐา ในฐานะที่ยังเป็นพ่อค้าวานิชก็คิดถึงแต่กำไร ไปร่วมทำนิติกรรมกับผู้ขายที่ดิน เปรียบเสมือนสามีภรรยาตบตีทะเลาะกัน จะเอาคนผิดคนถูกที่ไหนแบบนี้มันต้องผิดร่วมกัน ตนจึงนำเอกสารหลักฐานมาให้อธิบดีกรมสรรพากรตรวจสอบ การซื้อขายที่ดินแปลงเดียวกันนี้มีพี่น้องร่วมกัน 12 คน แต่ในที่ดินแปลงเดียวกันมีราคาแตกต่างกัน มันมีความแปลกไหม บ้างตารางวาละ 4 ล้าน บ้างตารางวาละ 3.6 ล้านบาท แบบนี้ให้คนทั่วไปคิดได้ก็รู้ว่าไม่มีหรอกที่ในที่ดินแปลงเดียวกัน แต่ซื้อกันในคนราคาที่แตกต่างกันได้อย่างไร
นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า การชำระเงินก็มีลักษณะที่ตนเรียกว่าเป็นเงินบวม มียอดที่ไม่เท่ากันซึ่งอาจเป็นเงินที่จ่ายเป็นเงินค่ามัดจำและเงินถึงใคร บริษัท แสนสิริ จะไม่รู้เชียวหรือว่าการแบ่งโอนจะไม่เข้าการหลีกเลี่ยงภาษี จะบอกไม่รู้ได้อย่างไร หากอ้างว่าผู้ขายเป็นผู้ขอให้เปลี่ยนวิธีการโอนเอง ก็อยากจะถามว่าคุณยอมร่วมกับเขาได้ยังไง นี่เป็นคำถามง่ายๆ ที่ตนขอตั้งคำถาม แต่นายเศรษฐาตอบไม่ได้ ตนขอแนะนำให้นายเศรษฐาถอยดีกว่า อย่าดีกว่า หากพรรคเพื่อไทยมาหาว่าตนโจมตี เตะหมูเข้าปากหมา ตนเป็นประชาชนคนหนึ่งที่อยากได้นายกรัฐมนตรีที่บริสุทธิ์ การที่ นายเศรษฐา เป็นพ่อค้ากลับมาเป็นนายกฯ มันมีความแตกต่างกัน หากคุณจะทำแบบนี้ตอนปี 62 ไม่มีใครสนใจ ขณะนั้นที่ดินตารางวาละ 1 ล้านบาท แต่คุณตกลงซื้อขายกันตารางวาละ 4 ล้านบาท ทำไมมันถึงแพงขนาดนี้ ผู้ถือหุ้นเขาจะคิดอย่างไร เพราะเป็นการปั้นราคาที่ดินขึ้นมาเกินจริง
นายชูวิทย์ กล่าวด้วยว่า ตนจึงนำเอกสารใบเสร็จการโอนเงิน 12 วัน 12 คน เอกสารที่เกี่ยวข้องมาให้อธิบดีกรมสรรพากร ตรวจสอบเรื่องการหลบเลี่ยงภาษี หากพบว่าเป็นการกระทำความผิดมีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี เมื่อกระทำความผิด 12 วัน 12 คน ก็เท่ากับำผิด 12 กรรม ต่างกรรมต่างวาระกัน นายเศรษฐาต้องติดคุก ชีวิตพลิกผัน
ด้าน นายกิตติพล กล่าวว่า ทางกรมสรรพากรมีระเบียบขั้นตอนในการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขั้นตอนต่างจากนี้จะนำเอกสารที่นายชูวิทย์มอบให้นั้นไปพิจารณาก่อน ยังไม่สามารถระบุในรายละเอียดได้ ฉะนั้นจะต้องขอพิจารณาเอกสารก่อนว่ามีความครบถ้วนหรือไม่ หากมีข้อสงสัยเจ้าหน้าที่อาจมีการเชิญตัวนายเศรษฐามาให้ข้อมูลได้ต่อไป.
...