ฝนถล่ม กทม.จมบาดาล ถ.ลาดพร้าว-รัชดา อีกจุดนิคมฯ บางปู ระดับนํ้าสูงครึ่งเมตร

คนกรุงลุ้นระทึกหลังฝนตกข้ามคืน ทำน้ำท่วมถนนหลายสาย รถติดหนึบ-จอดเสียระนาว “ชัชชาติ” รุดดูการระบายน้ำ ยันช่วงเช้าถนนสายหลักแห้งแล้ว ยอมรับฝนตกหนักมาก ปริมาณน้ำฝนสูงสุดที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก 139 มม. เปรียบเหมือนเทน้ำลงท่อ หากน้ำเยอะแต่ท่อมีขนาดเล็กกว่า น้ำมีล้น ต้องใช้เวลาระบาย พอตกค่ำฝนเทมาอีกระลอกใหญ่ ขณะที่เขตส่งออกนิคมอุตสาหกรรมบางปู น้ำท่วมสูงเกือบ 50 ซม. พนักงานต้องเดินลุยน้ำทุลักทุเล แต่ไม่กระทบถึงเครื่องจักรในโรงงาน ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาระบุสัปดาห์นี้ไทยยังเจอฝนหนักหลังร่องมรสุมพาดผ่าน หลายภูมิภาค หลังจากนั้นฝนจะลดเมื่อร่องมรสุมเลื่อนขึ้นไปประเทศเมียนมา ลาวและเวียดนามตอนบน

หลังจากตลอดคืนวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา หลายจังหวัดในภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพ มหานครและปริมณฑล มีฝนตกลงมาอย่างหนัก จากอิทธิพลร่องมรสุมที่พาดผ่านกลางประเทศไทย ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขัง บางแห่งน้ำท่วมสูงถึงหัวเข่า สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน กทม.ที่มีน้ำท่วมสูงในถนนหลายสาย ทั้งนี้ ในเวลา 03.00 น. วันที่ 22 ก.ค.ที่ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร สำนักการระบาย น้ำ กทม. ดินแดง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ไลฟ์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในเขตกรุงเทพฯว่า ฝนเริ่ม

ตกเวลา 22.00 น. (วันที่ 21 ก.ค.) ฝนตกหนักที่สุดช่วงเที่ยงคืน ตรวจวัดได้ที่ถนนรัชดาภิเษก 139 มม. ถนนพหลโยธิน 128 มม. เขตคลองเตย 123 มม. ส่งผลให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขังสูงขั้นวิกฤติ โดยเฉพาะโซนพื้นที่ถนนวิภาวดี ถนนลาดพร้าว ถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลอาญา แยกรัชดา-ลาดพร้าว ถนนห้วยขวาง ถนนสุขุมวิทซอย 71 รถเล็กผ่านไม่ได้ ส่วนระดับน้ำในคลองไม่มีปัญหาสามารถระบายได้ทัน ได้กำชับเจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ ขอให้ประชาชนอดทนหรือหลีกเลี่ยงออกจากบ้านตอนนี้ ช่วงเช้าสถานการณ์จะดีขึ้น

จากนั้นเวลา 07.15 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมหลังตรวจพื้นที่น้ำท่วมบริเวณถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลอาญาว่า เมื่อคืนฝนตกลงมาประมาณ 140 มม. ส่งผลให้น้ำท่วมหนัก จุดนี้มีปริมาณน้ำสูง 40 ซม. ขณะนี้ลดลงไปแล้ว 10-20 ซม. สถานการณ์เริ่มดีขึ้น ตอนนี้นำรถโมบายปั๊มมาดูด 4 คัน น้ำเริ่มลดจนเห็นฝาท่อระบายน้ำบ้างแล้ว แต่ต้องมีคนคอยตักขยะที่มาอุดตันด้วย ที่ระดมสรรพกำลังมาตรงจุดนี้เพราะเป็น จุดที่ต่ำที่สุดและเป็นจุดที่มีฝนตกหนัก ต้องไล่น้ำให้ไหลลงคลองด่วน ทางทิศใต้ลงคลองบางซื่อ ทิศเหนือไปลงคลองเปรมฯ บริเวณห้าแยกลาดพร้าว ถนนวิภาวดีรังสิต ถนนกำแพงเพชร ซอยสุขุมวิท 71 ปรีดีพนมยงค์ แห้งแล้ว ส่วนจุดที่ยังมีน้ำท่วมขัง ปากซอยลาดพร้าว 89 น้ำท่วมสูง 20 ซม. ระยะทาง 200 เมตร แถวพัฒนาการ น้ำสูง 15 ซม. จาก นี้จะนำไปวิเคราะห์จุดอ่อนและนำไปพัฒนา เบื้องต้นบริเวณใดถ้าฝนตกเกิน 100 มม. การระบายน้ำไม่เพียงพอคงต้องเพิ่มระบบระบายน้ำ ลักษณะเหมือนเราเทน้ำลงท่อ หากน้ำเยอะแต่ท่อมีขนาดเล็กกว่าน้ำก็จะมีล้นบ้าง ต้องใช้เวลาในการระบาย ในระยะยาวคงต้องขยายท่อให้ใหญ่ขึ้น ปัญหาคือเมื่อคืนมีรถเสียเยอะ และมีรถติดบนถนนเยอะ บางคนรถเสียต้องจอดทิ้งไว้คงต้องลากไปเพราะกีดขวาง

ทั้งนี้ ศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพ มหานคร สำนักการระบายน้ำ กทม. ดินแดง รายงานสถานการณ์น้ำในกรุงเทพฯและปริมณฑล ในรอบ 24 ชม. ณ เวลา 07.00 น. วันที่ 22 ก.ค. จุดที่มีปริมาณฝนรวมเกิน 100 มม. ได้แก่ ที่จุดวัดบ่อสูบศาลอาญารัชดา เขตจตุจักร 139.0 มม. จุดวัด สำนักงานเขตพระโขนง 130.5 มม. จุดวัดสถานีสูบน้ำพระโขนง เขตคลองเตย 125.5 มม. จุดวัด สำนักงานเขตสวนหลวง 110.0 มม. กทม.เร่งการระบายน้ำในถนนสายหลักจำนวน 37 แห่ง จุดที่น้ำท่วมสูง อาทิ ซอยสุขุมวิท 71 คลองบางมะเขือ-บ่อสูบน้ำคลองตัน 45-50 ซม. ระยะทาง 1.2 กม. เต็มทุกช่องทาง ซอยเสนานิคม แยกเกษตร ถนนประดิพัทธ์ แยกประดิพัทธ์-สะพานควาย อุโมงค์ลอดพระราม 9 แยกสันติอโศก ระดับน้ำสูง 25-30 ซม. เป็นต้น

กระทั่งช่วงเย็น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บางพื้นที่ใน กทม.ยังไม่สามารถระบายน้ำออกจากถนนได้หมด เช่น ถนนลาดพร้าวขาออก ช่วงซอยลาดพร้าว 23 ไปจนถึงซอยลาดพร้าว 41 มีน้ำท่วมขังเป็นระยะทางเกือบ 5 กม. ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างมาก ประชาชนสัญจรไปมาด้วยความยากลำบาก ขณะที่รถ จยย.ต้องขี่ขึ้นบนทางเท้าเลี่ยงน้ำท่วมสูง ขณะเดียวกัน มีรายงานจากศูนย์ป้องกันน้ำท่วม กทม.ว่า เมื่อเวลา 17.30 น. มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางเขตหนองจอก คลองสามวา บางเขน เคลื่อน เข้าเขตดอนเมือง และมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางใน จ.ฉะเชิงเทรา เคลื่อนตัวทิศตะวันตกเข้าเขตลาดกระบังและหนองจอก ซึ่งมีคำเตือนอาจมีน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ลุ่มต่ำของชุมชนเมืองได้

ส่วนที่บริเวณเขตส่งออกนิคมอุตสาหกรรมบางปู ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ ช่วงเช้าวันที่ 22 ก.ค.ยังคงมีน้ำท่วมขังสูงเกือบ 50 ซม. พนักงานหลายพันชีวิตต้องเดินลุยน้ำออกมาจากโรงงานอย่างทุลักทุเล ขณะที่พนักงานอีกมากมายืนรอรถโดยสารขนาดใหญ่ และรถยกสูงที่บริษัทในนิคมนำมาบริการรับส่งพนักงานเข้าออกกะ เนื่องจากรถยนต์ไม่สามารถเข้าไปภายในได้ จนทำให้มีปัญหาจราจรติดขัดยาวหลายกิโลเมตร โดยมูลนิธิร่วมกตัญญูส่งรถยกสูงพร้อม จนท.และอาสาสมัครไปช่วยสนับสนุน ปชช. บริเวณถนนนิคมอุตสาหกรรมบางปู ทั้งนี้จากการสำรวจจุดน้ำท่วมสูงสุดอยู่ที่ระดับ 60 ซม. ยังไม่มีผลกระทบต่อเครื่องจักรในโรงงาน และหลายบริษัทยังคงเปิดทำการตามปกติ ขณะที่เจ้าหน้าที่ประเมินว่าน่าจะใช้เวลาระบายน้ำหลายชั่วโมง เนื่องจากตอนนี้คลองสายหลักมีน้ำล้นเช่นกัน ประกอบกับอยู่ระหว่างการก่อสร้างคลองลำรางที่ใช้สำหรับระบายน้ำออกคลองใหม่สุขุมวิท ทำให้ระบายน้ำได้ไม่ดี คาดว่าน้ำจะค่อยๆลดระดับลงจนเข้าสู่สภาวะปกติได้ในวันเดียวกันนี้หากไม่มีฝนตกลงมาอีก

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ยังคงมีน้ำท่วมในบริเวณบ้านหนองมะหาด หมู่ 3 และหมู่ 4 ตำบลทับมา อำเภอเมืองระยอง เป็นจุดเดิมที่เคยท่วมเมื่อปีก่อน เช่น หมู่บ้านแดนใหม่ หมู่บ้านอยู่สบาย หมู่บ้านสวนแก้ว หมู่บ้านศักดิ์ทิพย์ 2 ซึ่งอยู่ติดกับคลองทับมา น้ำทะลักเข้าท่วม และมีแนวโน้มระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก เนื่องจากมวลน้ำจากนิคมพัฒนาไหลลงมาผ่านคลองทับมาลงสู่ทะเล ขณะนี้หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่ศาลาอเนกประสงค์ หมู่ที่ 7 ชุมชนห้วยมะหาด ตำบลทับมา มีชาวบ้านประมาณ 20 ครอบครัว มาพักอาศัยชั่วคราว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดโรงครัวปรุงอาหารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้วย นอกจากนี้ยังจัดทำกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม โดยกองทัพเรือภาคที่ 1 ส่งทหารมาช่วยตักทรายบรรจุกระสอบ เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงด้วย

จากนั้นในช่วงบ่าย ยังคงมีน้ำท่วมอยู่ที่บริเวณบ้านหนองมะหาด ถนนหนทาง และหมู่บ้านจัดสรรกว่า 10 แห่ง เต็มไปด้วยน้ำที่ทะลักขึ้นมาตามท่อระบายน้ำ รวมถึงน้ำที่ล้นคลองทับมาเข้าท่วม ขณะที่ นายประเสริฐ วงษ์ศรี นายกเทศมนตรีตำบลทับมา ระบุว่าหากฝนไม่ตกเทซ้ำลงมาอีก คาดว่าระดับน้ำน่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันสองวัน

ด้านนายสัญญา เกิดมณี นายกเทศมนตรี ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลเกาะช้าง ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียล และในที่ประชุมประชาคมหมู่บ้าน แจ้งเตือนประชาชน เจ้าของรีสอร์ต ธุรกิจต่างๆที่ปลูกสร้างอาคาร บ้านเรือน อยู่ตามพื้นที่เสี่ยง เช่น อยู่ติดเชิงเขา พื้นที่ลุ่มต่ำ ติดลำคลอง ระมัดระวังดินสไลด์ น้ำป่าไหลหลาก น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมอาคารบ้านเรือน ช่วงที่เกิดฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายชั่วโมง

ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายอากาศทั่วไปว่าในช่วงนี้ถึงวันที่ 25 ก.ค.2566 ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนในช่วงวันที่ 26-28 ก.ค.ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ทำให้ประเทศไทยมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันตอนบน ภาคใต้ และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรงตลอดช่วง ทำให้บริเวณทะเล อันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2เมตร

อนึ่ง พายุโซนร้อน “ทกซูรี” บริเวณด้านตะวันออกของฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น คาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนบนของประเทศฟิลิปปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบน ในช่วงวันที่ 25-26 ก.ค.2566 หลังจากนั้นจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีนในช่วงวันที่ 27-28 ก.ค.2566