ถังดับเพลิงบึมเสียบอก ม.6 ดับ ขณะชมซ้อมดับไฟ นร.บาดเจ็บ 21คน แจ้ง 2 ข้อหา 3 จนท. (คลิป)

สุดช็อก ถังดับเพลิงระเบิดขณะอบรมซ้อมแผนอพยพหนีไฟในโรงเรียนราชวินิตมัธยม ถังมรณะกลายเป็นตอร์ปิโดบกพุ่งใส่อก “น้องเบนซ์” นักเรียนชาย ม.6 ที่นั่งชมอยู่กระเด็นไกลกว่า 10 เมตร อวัยวะภายในทะลักเสียชีวิตสยอง มีนักเรียนบาดเจ็บอีก 20 กว่าคน ท่ามกลางความขวัญผวาของนักเรียนและครูที่อยู่ในเหตุการณ์ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา 3 วิทยากร ปภ.สามเสนกระทำโดยประมาทมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ส่วนสาเหตุเบื้องต้น น.1 ระบุถังดังกล่าวเพิ่งถูกนำไปบรรจุแก๊สเพิ่มและไม่มีวาล์วเซฟตี้ติดตั้ง ขณะเกิดเหตุวางตากแดดนานจนอุณหภูมิเพิ่มสูง ทำให้แรงดันขยายตัวกระทั่งระเบิด นายกฯเสียใจกับเหตุสลดที่เกิดขึ้นสั่งเยียวยา โลกโซเชียลแห่อาลัย “น้องเบนซ์” โพสต์สุดท้ายในเพจส่วนตัว แนะวิธีออมเงิน “ไห6ใบ”

ถังดับเพลิงบึมระหว่างสาธิต

เหตุสลดที่ไม่คาดคิดในโรงเรียนชื่อดังกลางกรุงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 มิ.ย. ร.ต.อ. อุทัย วังทัน รอง สว. (สอบสวน) สน.นางเลิ้ง รับแจ้งเหตุถังดับเพลิงระเบิดระหว่างซ้อมดับเพลิงมีนักเรียนเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย ในโรงเรียนราชวินิตมัธยม เลขที่ 181 ถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรดา เขตดุสิต กทม.ไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.นางเลิ้ง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรนิติเวช รพ.วชิระพยาบาลและอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมเร่งส่งกู้ภัยรถพยาบาลไปช่วยเหลือ

นร.ชาย ม.6 ดับสยอง 1 ศพ

ที่เกิดเหตุบริเวณทางเดินหน้าห้องเรียนของอาคารเรียน พบศพนายขุมทอง เปรมมณี หรือน้องเบนซ์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6/7 อยู่บ้านเลขที่ 245/19 แขวงสี่แยกมหานาค เขตดุสิต กทม. สวมชุดนักเรียนนอนตะแคงขวา มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ศีรษะหน้าอกถูกแรงกระแทกจนหลังโก่งผิดรูป อวัยวะภายในทะลักออกมากองอยู่กับพื้น แขนขาหักงอผิดรูป ใกล้กันบริเวณลานหน้าเสาธงชาติ มีนักเรียนและผู้ฝึกซ้อมบาดเจ็บร้องด้วยความเจ็บปวดหลายราย เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ส่วนหนึ่งบาดเจ็บเล็กน้อยปฐมพยาบาลในโรงเรียน ที่เกิดเหตุพบถังดับเพลิง CO2 ขนาด 10 ปอนด์ สีแดง มีรอยฉีกขาดเป็นแนวยาว 1 อัน อุปกรณ์ซ้อมดับเพลิงกระจายเกลื่อน

ถังมรณะพุ่งใส่กระเด็นไกล 10 ม.

สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลา 11.00 น.โรงเรียนเชิญเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามเสน มาฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการป้องกันและระงับอัคคีภัย การซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ให้กับเด็กนักเรียน ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เตรียมเปิดถังดับเพลิง CO2 ขนาด 10 ปอนด์ และเตรียมจุดไฟสาธิตวิธีการดับไฟเบื้องต้น  ปรากฏว่าถังดับเพลิงที่วางตากแดดด้านหลังเกิดแก๊สรั่วไหลออกมาจนระเบิดพุ่งใส่นายขุมทอง ผู้เสียชีวิตที่นั่งชมการสาธิตอยู่ด้านหลังกระเด็นไปไกลกว่า 10 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่วิทยากรและนักเรียนที่ชมการสาธิตบาดเจ็บด้วยเช่นกัน เหตุระเบิดครั้งนี้เสียงดังสนั่นไปทั่วโรงเรียนทำให้นักเรียนหลายคนตกใจกลัวอย่างหนัก

แม่ “น้องเบนซ์” ช็อกแต่ไม่ติดใจ

ขณะที่ น.ส.ปลา แสงเพชร อายุ 44 ปี แม่ของน้องเบนซ์ ระบุสั้นๆว่า ยังช็อกและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวไม่ได้ติดใจกับสาเหตุในวันนี้ พร้อมบอกว่า ลูกชายเป็นเด็กดี เรียนเก่ง เป็นเด็กดี ไม่เกเร ภูมิใจในตัวลูกชายมาก โดยยอมรับเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้พูดคุยกับลูกว่า วันนี้ “แม่จะทำไข่พะโล้ให้กินที่บ้านแม่” แต่สุดท้ายลูกชายก็จากไปอย่างกะทันหัน

น.1 สะเทือนใจเห็นสภาพศพ

ต่อมาเวลา 13.50 น. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.เปิดเผยอีกครั้งหลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ว่า เบื้องต้นได้นำตัวผู้เกี่ยวข้องซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่สาธิต 8 ราย ไปสอบปากคำ รวมถึงนำบรรดาครูและบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ไปแยกสอบปากคำเพื่อสอบถามถึงสถานการณ์ และอาจพิจารณาแจ้งข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการสาธิตเมื่อช่วงเช้าเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ตรวจเก็บทั้งหมด เพื่อดูว่ามีถังแก๊สใดบ้าง ทนแรงดันได้หรือไม่ หรือมีถังแก๊สที่ถูกนำมาใช้ซ้ำ และต้องสอบการบรรจุแก๊สที่มาทั้งหมด ผู้มีส่วนที่ต้องรับผิดชอบเบื้องต้น 3 ราย เป็นเจ้าหน้าที่ที่สาธิตการอัคคีภัยในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจไปยังผู้ปกครองของนักเรียนที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ สะเทือนใจกับการที่เห็นสภาพน้องเช่นนั้น

ส่งถังมรณะตรวจสอบมาตรฐาน

ผบช.น.เผยอีกว่า มองว่าไม่มีใครรู้ทั้งเจ้าหน้าที่สาธิต คุณครู นักเรียนว่าอุปกรณ์อยู่ในสภาพอย่างไร แต่ได้ให้เจ้าหน้าที่ พฐ.เก็บไปตรวจสอบทั้งหมด จะประสานไปยังกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อให้ดูว่าตัวถังแก๊สมีมาตรฐานหรือไม่ ส่วนสภาพเหตุการณ์นั้น นักเรียนที่เสียชีวิตไม่ได้ร่วมทดลองแต่นั่งชมการสาธิต คนสาธิตอยู่ด้านหน้า ส่วนถังเเก๊สที่ระเบิดอยู่หลังคนสาธิต และตั้งอยู่กลางแดดทำให้เกิดความร้อน เมื่อถังระเบิดจึงปลิวถูกน้องนักเรียนเข้าช่วงหน้าอก อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างการสาธิตมีครูฝ่ายปกครองคอยดูแลนักเรียนชั้น ม.5-ม.6 ในส่วนของคดี สน.นางเลิ้ง รับผิดชอบในการแจ้งข้อกล่าวหา และนำผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำ ทั้งการสอบปากคำคุณครู พยานที่เกี่ยวข้องในที่เกิดเหตุ รวมทั้งจะเก็บรวบรวมคลิปพยานหลักฐานพิจารณาประกอบการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

สอบ 8 ปภ.สามเสนชุดสาธิต

พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.นางเลิ้ง เผยถึงความคืบหน้าในส่วนของคดีว่า พนักงานสอบสวนนำตัวเจ้าหน้าที่ชุดสาธิตของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขตสามเสน 8 ราย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 7 ราย และหัวหน้าชุดปฏิบัติงาน 1 ราย เบื้องต้นจะสอบปากคำในฐานะพยานก่อน เพื่อสอบถามถึงข้อเท็จจริง อาทิ ประเด็นบริษัทที่ทำหน้าที่เติมถังแก๊สดับเพลิง อายุการใช้งานของถังดับเพลิง สภาพถังดับเพลิงมีการใช้งานมาอย่างไร เป็นถังเก่าหรือใหม่ รวมถึงหลักการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ชุดสาธิต เพราะในขณะที่สาธิต บริเวณดังกล่าวมีแดดแรง ต้องดูว่าเป็นความประมาทหรือไม่ที่นำไปตั้งไว้เช่นนั้น สำหรับการสาธิตดับเพลิงดังกล่าวเป็นการอนุมัติให้เป็นโครงการ มีการขอความร่วมมือกันระหว่างสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เขตสามเสน กทม. และโรงเรียนราชวินิตมัธยม ไม่ใช่กรณีที่โรงเรียนส่งหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปยัง ปภ.เขตสามเสน ส่วนจะมีโรงเรียนอื่นๆเพิ่มเติมในโครงการด้วยหรือไม่ ต้องให้กระทรวงศึกษาธิการชี้แจงรายละเอียด

แจ้งประมาททำตาย–เจ็บ

พ.ต.อ.รัฐธนนท์เผยอีกว่าจะแจ้ง 2 ข้อหา ได้แก่ มาตรา 291 ผู้ใดกระทำโดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และมาตรา 390 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ส่วนการสอบปากคำบุคลากรคุณครู นักเรียนและบุคคลที่เกี่ยวข้องอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ จะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งก่อน-ระหว่าง-หลัง เพื่อพิจารณาประกอบกับคำให้การของเจ้าหน้าที่ชุดสาธิตดับเพลิง และพยานหลักฐานจากเจ้าหน้าที่ พฐ.ต่อไป มีรายงานว่านายณภัทร ลอยเมฆ นาย อรรถพล บุทองรัตน์ และนายชาติอาชไนย บุญเกตุ ทั้ง 3 คนเป็นวิทยากรบรรยายภาคปฏิบัติในที่เกิดเหตุ ถูกแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ก่อนปล่อยตัวไปชั่วคราว และนัดส่งฟ้องฝากขังในวันที่ 24 มิ.ย.

จนท.ชุดสาธิต ช็อก–ร้องไห้

ต่อมาเวลา 16.00 น. นายสุริยชัย รวิวรรณ รอง ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง ติดตามความคืบหน้าคดีพร้อมเปิดเผยว่า ถังดับเพลิงที่ระเบิดเป็นถังที่เตรียมไว้สำรองเวลาเกิดเหตุฉุกเฉิน ถังนี้วางอยู่ด้านหลัง เป็นคนละถังกับที่ให้เด็กใช้ซักซ้อมดับไฟ สารที่เติมในถังดังกล่าวเป็นก๊าซ CO2 หรือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใช้ดับไฟ ปกติถังดับเพลิงพวกนี้มีมาตรฐานการเติมก๊าซตามโรงงานก็มีมาตรฐานในการเติม จะมีเกณฑ์ในการวัด ถ้าแรงดันเกินจะมีตัวเช็กระบบความปลอดภัย ส่วนสาเหตุเกิดจากอะไรต้องไปตรวจสอบกันต่อไป

“ตอนนี้หน่วยงานเข้ามาดูแลเจ้าหน้าที่ทั้ง 8 คนที่อยู่ในเหตุการณ์ ถูกนำตัวมาสอบปากคำ ได้เตรียมเอกสารหลักฐานต่างๆ เพื่อประกันตัวหากมีการแจ้งข้อกล่าวหา เบื้องต้นมีข้อมูลว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งวิทยากรและคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดรู้สึกเสียใจบางคนร้องไห้ มีอาการช็อก และเครียดอย่างเห็นได้ชัดเพราะเป็นบุคลากรที่เข้าไปให้ความรู้เด็กเรื่องวิธีการดับเพลิงเป็นประจำ ต้นสังกัดมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเข้าไปให้ความรู้กับเด็กนักเรียน แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ส่วนสาเหตุต้องสอบสวนอย่างละเอียดต่อไป” นายสุริยชัยกล่าว

“น้องเบนซ์” ทำเพจออมเงิน

สำหรับนายขุมทอง เปรมมณี หรือน้องเบนซ์ นร.ชั้น ม.67 เสียชีวิตในเหตุการณ์ถังดับเพลิงระเบิดระหว่างฝึกซ้อมดับไฟในโรงเรียนราชวินิตมัธยม ได้ทำเพจส่วนตัวสอนให้รู้วิธีการออมเงิน เพจดังกล่าวชื่อ “วางแผนเรื่องเงินๆ” ได้โพสต์ข้อความล่าสุดเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา เป็นบทความเกี่ยวกับการบริหารเงินของตัวผมด้วยวิธีที่ผมค้นเรียกว่า “ไห 6 ใบ” วิธีเหล่านี้แบ่งได้หลายแบบ ใครต้องการไหกี่ใบในการจัดการเงินโดยขั้นต่ำแล้วจะมีไห 4 ใบ “ไห 6 ใบ” หมายถึง การแบ่งเงินก้อนหรือรายได้ของเราออกเป็น 6 ส่วน ดังนี้ 1.ใช้ประจำวัน 2.ออมเงิน 3.ลงทุน 4.การศึกษา 5.บริจาค และสุดท้าย 6.ใช้ตามใจ โดยแบ่งออกเป็นสัดส่วนตามนี้ครับ -55%, 10%, 10%, 10%, 5%, 10% ตามลำดับ ผมได้ปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับตัวผมดังนี้ -55%, 15%, 5%, 5%, 5%, 15% =100% แต่ผมนั้นเปลี่ยนจากการบริจาคเป็นสุขภาพ โดยการจัดเงินแบบนี้ทำให้ผมนั้นเห็นตัวเงินได้ละเอียดยิ่งขึ้นว่าเรามีเงินแต่ละส่วนอยู่เท่าไหร่

ใช้หลักการ “ไห 6 ใบ”

“หลักการ “ไห 6 ใบ” ได้ทำให้ผมจัดการและบริหารเงินที่ได้ต่อเดือนได้เป็นอย่างดี หลักการ “ไห 6 ใบ” เป็นคำตอบที่ใช่สำหรับผมในตอนนี้ที่ดีที่สุด ผมมีเงินออมประจำต่อเดือนที่ต้องแยกทันทีหลังได้เงินเดือน จากนั้นผมจะนำไปจัดสรรไว้ในส่วนต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น วิธีการนี้เหมาะกับผู้คนที่ได้รับเป็นเงินก้อนไม่ว่าจะเป็นต่อสัปดาห์ หรือต่อเดือน ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน ผมอาจลืมบอกไปว่าตัวผมในตอนนี้เป็นนักเรียนธรรมดาๆคนหนึ่งที่มีความสนใจด้านการเงินและการลงทุนรวมถึงความรู้ข่าวสารที่เกี่ยวข้อง และสุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่อ่านเรื่องราวการจัดการเงินของผม ขุมทอง เปรมมณี (เบนซ์) ในบทความถัดไปจะเกี่ยวกับเรื่องใด ขอให้ทุกท่านโปรดตั้งตารอคอยได้เลยครับ” หลังจากที่มีผู้ทราบข่าวการเสียชีวิตของน้องเบนซ์ ได้เข้าไปแสดงความเสียใจกันเป็นจำนวนมาก รวมทั้งชื่นชมการเขียนบทความได้ดีและเก่ง

วชิรพยาบาลแจงอาการ นร.เจ็บ

เวลา 15.00 น. ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์จักราวุธ มณีฤทธิ์ คณบดีแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล เปิดเผยอาการนักเรียนที่บาดเจ็บว่า รพ.วชิรพยาบาล รับผู้บาดเจ็บ 5 ราย รายที่ 1 เป็นนักเรียนชายอายุ 16 ปี ปวดไหล่ขวา รายที่ 2 เป็นนักเรียนชายอายุ 17 ปี เจ็บฝ่ามือขวา และถลอกหน้าแข้งขวา รายที่ 3 นักเรียนชายอายุ 18 ปี ปวดหู รายที่ 4 เป็นนักเรียนหญิงอายุ 13 ปี ปวดศีรษะ เจ็บคอร้าวไปที่แขนซ้าย รายที่ 5 เป็นนักเรียนหญิงอายุ 13 ปี ปวดหู ทั้งห้ารายได้รับการดูแลรักษาจาก รพ.วชิรพยาบาล อาการบาดเจ็บไม่รุนแรง ไม่ส่งผลให้มีอาการหูดับในอนาคตแต่ต้องดูแลใกล้ชิด ขณะนี้อาการคงที่ มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและพยาบาลดูแลสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

“น้องเบนซ์” อวัยวะช่องอกฉีกขาด

ผู้ช่วย ศ.นพ.จักราวุธกล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันได้พูดคุยกับผู้บาดเจ็บ บางส่วนเป็นเพื่อนผู้เสียชีวิต ยังคงมีอาการตกใจ ทีมแพทย์ได้ส่งจิตแพทย์ เข้าไปพูดคุยให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด ส่วนค่ารักษาพยาบาล รพ.วชิรพยาบาล ได้มีการดูแลในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด ส่วนผู้เสียชีวิต เป็นนักเรียนชายอายุ 18 ปี เสียชีวิตที่เกิดเหตุ แพทย์นิติเวชผ่าชันสูตรศพเบื้องต้น พบว่าพบร่องรอยบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณกระดูกต้นแขน และมีแผลฉีกขาดขนาดใหญ่บริเวณหน้าอก อวัยวะภายในทรวงอกฉีกขาด เป็นสาเหตุให้ถึงแก่ชีวิต

ยอดเจ็บ 21 กลับบ้านแล้ว 12 คน

ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เดินทางมายังโรงพยาบาลวชิรพยาบาล พร้อมเปิดเผยว่า จากเหตุที่เกิดขึ้น มีผู้บาดเจ็บทั้งหมด 21 คน กลับบ้านไปแล้ว 12 คน รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 9 คน แบ่งเป็น อยู่ที่ รพ.กลาง 4 คน รพ.วชิรพยาบาล 5 คน ผู้บาดเจ็บทั้งหมดอยู่ในโซนสีเขียว ไม่มีอาการสาหัส จะมีเพียงแค่หูอื้อเท่านั้น แต่ยังไม่ถึงขั้นแก้วหูอักเสบ และบาดเจ็บที่ข้อมือเล็กน้อย ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง นอกจากนี้ ยังได้ส่งทีมนักจิตวิทยาเข้าไปดูแลสภาพจิตใจเด็กๆ เพราะหลายคนยังตกใจส่วนใหญ่จะเป็นคนใกล้ชิดกับเหตุการณ์ ส่วนถังดับเพลิงที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเช็กข้อมูลและพูดคุยกับ ปภ. ได้รับรายงานว่าตามระเบียบการดูแลรักษาหากตามมาตรฐาน ตรวจทุก 5 ปี การตรวจจะเป็นการฉีดแรงดันน้ำเข้าไปเพื่อตรวจสอบ แต่สำหรับชุดถังดับเพลิงที่นำมาสาธิตนั้น จะต้องไปตรวจสอบประวัติว่าได้มาตรฐานหรือไม่ มีการทดสอบหรือไม่

“ชัชชาติ” ระบุเพิ่งเติมน้ำยา

นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า หลังมาดูที่เกิดเหตุและรับฟังการรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากผู้อำนวยการโรงเรียนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่า เหตุเกิดขึ้นระหว่างช่วงปลายของการสาธิตครั้งที่ 3 ถังที่ระเบิดไม่ใช่ถังแก๊ส แต่เป็นถังดับเพลิงขนาด 10 ปอนด์ นำไปเติมน้ำยาที่บริษัทแห่งหนึ่งย่านพัฒนาการ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ถังมีแรงดันมากกว่า 800 PSI แตกต่างจากถังดับเพลิงทั่วไปที่มีแรงดันเพียงร้อยกว่า PSI เท่านั้น ถังดังกล่าวใช้สำหรับการสาธิต ส่วนสารที่อยู่ในถังเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นสารที่มีความเย็นจัด ไม่ฟุ้งกระจาย ใช้สำหรับฉีดไล่ออกซิเจนเพื่อดับไฟ

สั่งทบทวนแก้ไขการทำงาน

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุของการระเบิด อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าจะใช่สาเหตุที่วางถังไว้บริเวณแดดกลางแจ้งหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ ต้องรอผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ และยังไม่ทราบว่าเป็นถังส่วนตัวที่เจ้าหน้าที่นำมาเองหรือเป็นถังของ กทม. ส่วนเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาจากสถานีดับเพลิงสามเสน อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าถังดังกล่าวจะเป็นถังส่วนตัวหรือถังของ กทม. แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ ต้องเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บรวมถึงเด็กนักเรียน เนื่องจากอยู่ในสภาพเสียขวัญ จำเป็นต้องนำนักจิตวิทยาของกรุงเทพมหานคร เข้ามาดูแลสภาพจิตใจ พร้อมทั้งทบทวนการทำงานว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร ปัญหาเกิดจากถังที่ไม่ได้คุณภาพหรือถังชำรุด หรือเจ้าหน้าที่ขาดความเชี่ยวชาญ อาจดูเหมือนเป็นวัวหายแล้วล้อมคอกแต่จำเป็นต้องทำ จริงๆแล้วการซ้อมดับเพลิงครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดี แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดต้องนำมาแก้ไขปรับปรุง ไม่ใช่จะหยุดการฝึกซ้อมลักษณะนี้เป็นไปไม่ได้

“ตรีนุช” เผย “ตู่ ”เร่งให้มาดูแล

ด้าน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต อีกทั้งนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเป็นห่วง เร่งรัดให้มาดูสถานที่และดูแลเยียวยาผู้ปกครอง ตรวจสอบเบื้องต้น พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและในส่วนของโรงเรียนคณะผู้บริหารทราบว่า เป็นมาตรการของทางโรงเรียน กระทรวงศึกษาธิการ ที่จะสอนสาธิต เรื่องความปลอดภัยให้กับเด็กๆในทุกมิติไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำ CPR ต้องการให้เด็กๆเรียนรู้เรื่องความปลอดภัยเกี่ยวกับอัคคีภัย การเอาตัวรอด แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม หนึ่งกลุ่มฟังบรรยาย หนึ่งกลุ่มสาธิต ในการสาธิตจะต้องใช้อุปกรณ์แก๊ส การสาธิตยังไม่ได้เกิดขึ้น แต่คาดว่าถังแก๊สอยู่กลางแดดแล้วเกิดระเบิดปลิวไปกระแทกน้องผู้เสียชีวิต โรงเรียนได้ประสานกับหน่วยงานทั้งหน่วยงานที่เข้ามาสาธิต เป็นหน่วยงานที่เคยสาธิตหลายโรงเรียนแล้ว แต่ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ถือว่าเป็นทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการสาธิตป้องกันอัคคีภัยอยู่แล้ว

โรงเรียนมีประกัน–กองทุนดูแล

รมว.ศึกษาธิการเผยต่อว่า ส่วนการเยียวยาต้องยอมรับว่าตอนนี้นักเรียนมีอาการตกใจ ได้ประสานกับกรมสุขภาพจิตให้เข้ามาดูแลเยียวยาเด็กๆนักเรียนที่อยู่ภายในเหตุการณ์และมีอาการตกใจผวา ส่วนน้องที่เสียชีวิต โรงเรียนมีประกันและกองทุนที่จะมาช่วยดูแลให้กับผู้เสียชีวิตและครอบครัว ถังดับเพลิงดังกล่าวไม่ใช่ของโรงเรียนแต่เป็นอุปกรณ์ของหน่วยสาธิตทั้งหมด ส่วนเรื่องการเติมน้ำยาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนต่อไป

กำชับ ศธ.จังหวัดดูความปลอดภัย

นายอรรถพล สังขวาสี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สั่งการให้นายสมใจ วิเศษทักษิณ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ นายชนะ สุ่มมาตย์  ผอ.ศูนย์อำนวยการความปลอดภัย ศธ. และนายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์โดยด่วน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนักเรียนที่เสียชีวิต และบาดเจ็บในเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยได้มอบสำนักอำนวยการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เตรียมจัดหาเงินเยียวยาและช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมมอบหมายกองส่งเสริมและพัฒนาการบริหารการศึกษาในภูมิภาค สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประสานแจ้งศึกษาธิการจังหวัดทุกจังหวัดกำชับสถานศึกษาเรื่องการดูแลความปลอดภัยของผู้เรียน

อ.อ๊อด แจงเหตุถังดับเพลิงบึม

ในส่วนของการหาสาเหตุสลดที่เกิดขึ้น วันเดียวกัน รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด นักวิชาการ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ออกมากล่าวถึงกรณีอุบัติเหตุถังดับเพลิง CO2 เกิดระเบิดว่า การซ้อมดับเพลิง เคสนี้มี 2 ส่วน ถังที่บรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ กับถังเคมีที่ใช้ดับไฟและตัวถังเชื้อเพลิงเหลว LPG ในเคสนี้เกิดการระเบิดที่ถังดับเพลิงสีแดง  เป็นถังดับเพลิงที่ใช้คาร์บอนไดออกไซด์ ใส่เข้าไปด้านในและผงเคมีที่ช่วยดับไฟ ปกติถังสีแดงจะทนแรงดันได้ถึง 1,800 PSI หรือเทียบง่ายๆ คือ 126 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร ฉะนั้นถ้าแรงดันมากกว่านี้จะเกิดการฉีกขาด เป็นเพราะแรงดันมากกว่า 126 กิโลกรัม ทำให้เกิดระเบิดหรือมาก 1,800 PSI

สภาพเก่า-อยู่ในอุณหภูมิสูง

 สาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดระเบิดได้มี 2 อย่าง คือถังเก่า ไม่มีการ Maintenance เกิดการขึ้นสนิม ทำให้ภาชนะเหล็กที่อยู่ด้านนอกไม่สามารถทนต่อแรงดันที่ขยายจากด้านในได้ ระหว่างใช้มีการปลด ปล่อยสารคาร์บอนไดออกไซด์ไปบางส่วน หรือแรงดันที่ยังสูงอยู่ทำให้เกิดการฉีกขาด หรือไม่ก็การบรรจุใหม่ เช่นถังเก่าที่พ่นไปแล้วและบรรจุก๊าซใหม่เกินกว่าที่ถังจะรับไหว อีกกรณีคืออยู่ในจุดที่มีความร้อนสูง เช่นวางตากแดดทิ้งไว้ทำให้ถังขยายตัว ส่วนจะเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากความประมาทของผู้ใดหรือไม่ ต้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนต่อไป ถือว่าเป็นบทเรียนและการถอดบทเรียน อย่างไรก็ดีเป็นเรื่องที่ดีในการสอนดับเพลิง แต่อุปกรณ์ที่ใช้สอนจะต้องได้รับมาตรฐานและมีความปลอดภัยด้วย ทั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตและขอให้ผู้ที่บาดเจ็บหายไวๆด้วย มีรายงานว่า สถานะของ CO2 อุณหภูมิมีผลกับแรงดันสภาวะปกติแล้ว Carbon Dioxide : CO2 อุณหภูมิจะติดลบ -50 ถึง -60 เป็นของเหลว ถ้านำไปใกล้ความร้อนหรืออุณหภูมิสูงจะทำให้ขยายตัวแรงดันเพิ่มขึ้น ที่หัวถังจะมีระบบ Safety Valve เพื่อระบายลดความดัน ในส่วนถังภาชนะแรงดันจะขึ้นรูปชิ้นเดียวไร้ตะเข็บ จุดเปราะ หัวถัง หัววาล์ว ต้องป้องกันการกระแทก ภาชนะแรงดัน ต้อวัดความหนา เหลือเท่าไร กัดกร่อนเท่าไร อายุการใช้งาน อัดทดสอบแรงดัน hydrostatic test รับรองการตรวจสอบทดสอบโดยวิศวกร

นายกฯเสียใจกับผู้สูญเสีย

อีกด้านหนึ่ง ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม รับทราบเหตุดังกล่าวแล้ว นายกฯแสดง ความเสียใจกับผู้สูญเสียและผู้บาดเจ็บทุกราย กำชับให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบมีมาตรการที่ปลอดภัย ศูนย์เฉพาะกิจ Fire rescue รายงานเหตุการณ์เป็นลักษณะการซ้อมแผนอพยพหนีไฟถังแก๊สได้เกิดระเบิดขึ้น โดยหน่วยงานสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. เป็นหน่วยงานที่เข้าไปซ้อมแผนอพยพหนีไฟในครั้งนี้ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังจุดเกิดเหตุ และ ผกก. สน.นางเลิ้ง กำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป