เมื่อวันที่ 24 เม.ย.66 ที่ศาลาว่าการ กทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร กทม. ถึงความคืบหน้ากรณี บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ BTSC ยื่นฟ้อง กทม. ครั้งที่ 2 กรณีไม่ชำระค่าจ้างให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2564 ถึงวันที่ 20 พ.ย.2565 ว่า ได้รับรายงานว่าอัยการสูงสุดส่งข้อมูลคำให้การของ กทม. ต่อศาลปกครองกลางเรียบร้อยแล้ว ต้องรอศาลนัดพิจารณาคดี ส่วนกรณีที่มีการยื่นเอกสารชี้แจงข้อกล่าวหาของคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ของอดีตผู้บริหาร กทม. และ BTSC รวม 13 คนนั้น อย่าไปคิดว่าการกระทำดังกล่าวทำให้เกิดความแตกหักระหว่าง กทม. กับ BTSC เพราะเป็นการให้ข้อมูลตามข้อเท็จจริง กทม.ไม่ได้เพิ่มเติมอะไรลงไป เพื่อให้ศาลเห็นภาพรวม ได้ข้อมูลครบถ้วน ถ้า กทม.ไม่ยื่นอาจจะมีความผิดด้วยซ้ำ เพราะเป็นข้อมูลใหม่ ส่วนจะเป็นประโยชน์กับ กทม. หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล
นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาทั้งในส่วนของข้าราชการ กทม.ได้มีการติดตามความคืบหน้าตลอด ส่วน BTSC หากต้องการขอข้อมูลเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. ทาง กทม. ก็ยินดี ไม่มีการปิดกั้นแต่อย่างใด
ด้านนายไทภัทร ธนสมบัติกุล ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS ติดอยู่ในขบวนรถไฟฟ้า BTS ขณะถึงสถานีปลายทางเคหะ ว่า สจส.ได้กำชับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ให้กำกับดูแลบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (BTSC) โดยเข้มงวดตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบอุปกรณ์ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา รวมทั้งจัดให้มีการซ้อมแผนปฏิบัติการเผชิญเหตุฉุกเฉินทั้งในสถานีและในขบวนรถไฟฟ้าให้พร้อมรับมือการจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างดี โดยต้องแจ้งสาเหตุที่ขัดข้องและระยะเวลาที่ใช้ในการแก้ไข พร้อมแนวทางการปฏิบัติตนขณะเกิดเหตุให้ผู้โดยสารทราบเป็นระยะๆ.
...