หน้า 1 “ไทยรัฐ” ฉบับเช้าวันพุธที่ 29 มีนาคม ลงภาพข่าวเอาไว้ภาพหนึ่ง ข้างๆข่าวซึ่งความจริงก็ไม่ใหญ่นักข่าวหนึ่ง แต่ทั้งภาพทั้งข่าว...ได้เห็นและได้อ่านแล้วก็รู้สึกทั้ง “ดีใจ” และ “เศร้าใจ” ระคนกัน

เริ่มที่ “ภาพ” ซึ่งเห็นแล้วชวนให้ “ดีใจ” กันก่อน...เป็นภาพการแถลงข่าวของ ททท.หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย...มีนักร้องหมายเลข 1 ของประเทศไทย “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ ยืนยิ้มหราอยู่กลางภาพที่มีเด็กๆชนบท 2-3 คน ห้อมล้อม

สำหรับรายละเอียดขยายความภาพนี้ไปอยู่ที่หน้า 8 หรือหน้าเศรษฐกิจโน่นครับ สรุปข้อใหญ่ใจความได้ว่าตามที่รัฐบาลกำหนดให้ปี 2566 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย (อีกครั้ง) นั้น ทาง ททท. โดยผู้ว่าการ ยุทธศักดิ์ สุภสร พร้อมแล้วและลงมือแคมเปญแล้ว

เลือก “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ กลับมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากประเมินแล้วพบว่า “เบิร์ด” สามารถเชื่อมคนทุกช่วงวัยเข้ากันได้เป็นอย่างดี

จึงได้สร้างภาพยนตร์โฆษณาชุด “โมเมนต์ที่ใช้สร้างได้ไม่ต้องรอ” ร่วมกับจีเอ็มเอ็มแกรมมี่และเริ่มทยอยปล่อยออกโซเชียลมีเดียไปบ้างแล้ว สร้างความฮือฮาแก่ผู้ชมอย่างมาก

ท่านผู้ว่าการ ททท.แถลงด้วยว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เบิร์ดมาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้ ททท. แต่เป็นมาแล้ว 3 หน เมื่อ พ.ศ.2548, 2552 และ 2554 ประสบผลสำเร็จเกินเป้าทั้ง 3 ครั้ง

แม้จะยังไม่ได้ดูภาพยนตร์โฆษณาและยังไม่ได้ฟังเพลง ที่เบิร์ดร้องเกี่ยวกับการท่องเที่ยว แต่จากการติดตามชมและฟังเพลง “ฟ้อนทั้งน้ำตา” เพลงล่าสุดที่เบิร์ดร้องให้แก่กระทรวงวัฒนธรรม เพื่อร่วมประชาสัมพันธ์ “ซอฟต์เพาเวอร์” 5 F ของไทยได้อย่างยอดเยี่ยม

...

ผมก็หวังว่าเบิร์ดกับ ททท. จะสามารถดึงคนไทยให้หันมาท่องเที่ยวไทยเพิ่มมากขึ้นได้สำเร็จเช่นเดียวกัน

แต่พอชำเลืองเห็นหัวข่าวหน้า 1 ไทยรัฐ ฉบับเมื่อวานที่ผมเรียนว่าอยู่ข้างๆภาพเบิร์ดแล้วผมก็ใจแป้วขึ้นมาทันที

“มลพิษภาคเหนืออ่วม...ค่าฝุ่นติดอันดับโลกอีก...ชาวบ้านขู่ประท้วง ครม.” นี่คือพาดหัวข่าวทั้งหัวใหญ่หัวรองที่ว่า

จากนั้นก็รายงานอย่างละเอียดยิบเกี่ยวกับค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่วิกฤติหนัก (มาก) ที่ เชียงใหม่ และ เชียงราย

ผมคงไม่ต้องบรรยายซ้ำว่า ทั้งเชียงใหม่และเชียงราย “อ่วม” อย่างไร เพราะท่านผู้อ่านคงได้เห็นภาพจากจอทีวีมาจนชินตาแล้วว่าทั้ง 2 จังหวัดในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คลุ้งไปด้วยควันไฟและค่าฝุ่นพิษพุ่งกระฉูด

เชียงใหม่ดูจะโชคร้ายกว่าเชียงราย เพราะกลายเป็นข่าวระดับโลกติดอันดับ 1 ของเมืองคุณภาพอากาศแย่ของโลกหลายครั้ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และอยู่ในอันดับท็อปเทนของโลกมาเกือบครึ่งเดือนแล้วกระมัง

นอกจากเชียงใหม่ เชียงรายนี่แล้ว บางครั้งก็มีแม่ฮ่องสอนมีพิษณุโลก และอีกหลายๆจังหวัดของภาคอีสานที่ค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 ขึ้นไปอย่างกระฉูดเป็นข่าวหน้า 1 บ้านเรามาโดยตลอด

ไม่เพียงแต่จะเป็นปัญหาต่อการทำให้สุขภาพอนามัยของพี่น้องในจังหวัดดังกล่าวย่ำแย่ลงเท่านั้น ฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ยังเป็นอุปสรรคต่อการชวนเที่ยวไทยของ “เบิร์ด” และ ททท.อย่างแรงอีกด้วย

ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็น “มารผจญ” พี่เบิร์ดว่างั้นเถอะ เพราะแม้คนไทยจะเกิดโมเมนต์ที่ใช่เลย อยากไปเที่ยวเต็มแก่...แต่ใครบ้าง อยากจะไปเชียงใหม่ เชียงราย หรือจังหวัดที่เต็มไปด้วย PM 2.5 สีแดงละครับ

เขียนแล้วก็ปวดใจ เพราะปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่ แต่เป็นปัญหาเก่าที่พูดกันมา ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเกิน 10 ปีเข้านี่แล้ว

เป็น “วาระแห่งชาติ” ก็เป็นแล้ว...และในที่สุดก็ต้องขยับไปเป็น “วาระแห่งชาติ (หน้า)” คือชาติหน้าค่อยแก้เช่นเดียวกับอีกหลายๆ ปัญหาของประเทศไทย!...เฮ้อ!

แต่ก็ไม่เป็นไรนะเบิร์ด เชิญชวนต่อไป ยังมีอีกหลายๆจังหวัดในประเทศไทยที่น่าเที่ยว และไม่มีฝุ่นพิษ...ส่วนจังหวัดเคราะห์ร้ายเชียงใหม่ เชียงราย รออีกนิด ไม่ใช่รอรัฐบาลนะ รอเทวดามาโปรด พอเริ่มมีฝนตกลงมาบ้างเดี๋ยวทุกอย่างก็จะดีเอง.

“ซูม”