สคบ.จับมือภาคเอกชนร่วมพันธกิจป้องปรามมิจฉาชีพ เซ็น MOU กับสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทยสร้างเครือข่ายป้องกันเฝ้าระวังภัย สกัดประชาชนเป็นเหยื่อแชร์ลูกโซ่ เผยปี 65 ร้องเรียนทะลุ 2 หมื่นเรื่อง
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 66 นายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ.ได้เซ็นบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ สมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย (TDIA) เพื่อสร้างองค์กรศูนย์กลางในการถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องข่าวสารในการป้องกันและเฝ้าระวังภัยมิจฉาชีพ และร่วมกันส่งเสริมธุรกิจขายตรง ผลักดันให้มีการสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ซึ่งการประสานงานกันครั้งนี้เพื่อให้ภาคธุรกิจปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นแนวทางที่เข้าถึงนักธุรกิจอิสระให้ปฏิบัติต่อผู้บริโภคด้วยความรับผิดชอบที่ถูกต้อง เป็นไปตามวัตถุประสงค์และเป็นไปตามเป้าหมายการกำกับดูแลธุรกิจขายตรงของ สคบ.
"การเซ็น MOU จะทำให้เกิดธรรมาภิบาลธุรกิจ ทั้ง 2 องค์กรจะร่วมกันให้ความรู้เกี่ยวกับข้อกฎหมาย เพื่อเป็นการย้ำเตือนไม่ให้ผู้ประกอบการและนักธุรกิจอิสระเกิดข้อผิดพลาดในการทำธุรกิจ เมื่อมีผู้บริโภคร้องเรียนมาทางสคบ.กับสมาคมฯ เราก็ได้ร่วมมือกันแก้ไขปัญหา ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรม ถือว่าความร่วมมือครั้งนี้ประสบความสำเร็จ" นายธสรณ์อัฑฒ์ กล่าว
...
สำหรับการกำกับดูแลธุรกิจขายตรงนั้น มีวัตถุประสงค์ไม่ให้ผู้ประกอบการกระทำการแปรเปลี่ยนกิจการไปเป็นแชร์ลูกโซ่ ซึ่งสิ่งที่ถูกต้องนั้นรายได้ต้องมาจากการขายสินค้า ไม่ใช่เป็นการลงทุน อันนี้คือหลักการ และ สคบ.ก็ใช้หลักการนี้ในการตรวจสอบผู้ประกอบการมาโดยตลอด และจากเรื่องร้องเรียนในปี 2565 ที่ผ่านมาประมาณ 2 หมื่นกว่าเรื่อง มีเรื่องที่เกิดจากการทำธุรกรรมออนไลน์กว่า 4,000 เรื่อง โดยมีเรื่องร้องเรียนจากช่องทางการใช้เฟซบุ๊กสูงที่สุด กว่า 2,000 เรื่อง ส่วนหนึ่งจากเรื่องร้องเรียน สคบ.ก็ได้เบาะแสมาจากเครือข่ายของสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ซึ่งมีเครือข่ายมีสมาชิกอยู่ในพื้นที่และใกล้ชิดกับเหตุการณ์จริง ในขณะที่เจ้าหน้าที่ของสคบ.มีจำนวนน้อย การร่วมมือกันครั้งนี้จึงทำให้การทำงานด้านการป้องปรามดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น
นายพงษ์กฤตย์ องค์ศิริวัฒนา นายกสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย และนายณพวัฒน์ สัตย์เพริศพราย เลขาธิการสมาคมอุตสาหกรรมขายตรงไทย ร่วมกันเปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้เล็งเห็นถึงการช่วยป้องกันและระวังภัยจากกลุ่มมิจฉาชีพและแชร์ลูกโซ่ที่ระบาดกันหนัก ซึ่งพันธกิจหนึ่งของสมาคมฯ ก็คือการทำองค์กรให้เป็นศูนย์กลางร่วมกับหน่วยงานของรัฐบาลในการป้องกันและเฝ้าระวังภัย สมาคมฯจึงได้ทำ MOU กับ สคบ. โดยสมาคมฯ จะทำหน้าที่เป็นองค์กรศูนย์กลางถ่ายทอดข่าวสารในการป้องกันและเฝ้าระวังภัย ให้ข่าวสารที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค และร่วมกันส่งเสริมธุรกิจขายตรงที่ดี ผลักดันให้มีการสร้างสรรค์ในสิ่งที่ดีสืบต่อกันไป ทั้งนี้ กรณีแชร์ลูกโซ่และการต้มตุ๋นหลอกลวงผู้บริโภคที่เกิดขึ้นอย่างมากมายซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบกลวิธีการหลอกลวงใหม่ๆ โดยตลอด สมาคมฯได้รับรู้มาจากเครือข่าย ก็จะแจ้งหรือร้องเรียนไปทางสคบ. เพื่อนำข้อมูลไปผลักดันการออกกฎระเบียบ หรือกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผู้เสียหายมากขึ้นได้ ซึ่งถ้าภาครัฐได้ข้อมูลอินไซด์จากผู้ทำงานในด่านหน้าและจับมือร่วมกันจะทำการป้องกันได้
ล่าสุด สมาคมฯ ได้จัดงาน TDIA AWARD 2023 เชิดชูเกียรติยศนักธุรกิจขายตรงขึ้น เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา ณ หอประชุมใหญ่ TOT ถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งถือว่าเป็นการจับมือกันกับภาครัฐร่วมสร้างกิจกรรมเพื่อนักธุรกิจขายตรงและสังคมไทย ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมขายตรงไทยและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสมาคมฯ มีความตั้งใจส่งมอบข่าวสารที่ดี เป็นการแบ่งปันข้อมูลที่ผู้ประกอบการและผู้จำหน่ายอิสระบางคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน โดยได้รับเกียรติจากนายธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการ สคบ. ร่วมปาฐกถาแนวทางการทำงาน สคบ. ปี 2023 และให้ความรู้ป้องกันภัยจากแชร์ลูกโซ่ รวมถึงนางสาวดาลัด รยะสวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเผยแพร่วิชาการและพัฒนาเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคและนายณัชภัทร ขาวแก้ว ผู้อำนวยการฝ่ายรับเรื่องร้องทุกข์กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรง เสวนาพิเศษภายใต้หัวข้อ "สคบ. กับนโยบายส่งเสริมสนับสนุนอุตสาหกรรมขายตรง และกลยุทธ์การป้องกันประชาชนจากภัยมันนี่เกม" ด้วย.