เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2565 ก่อนวันสิ้นปีเก่า 2565 หนึ่งวัน ผมกับลูกๆหลานๆยกขบวนกันไปฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดของประเทศไทย “ไอคอนสยาม” ริมฝั่งเจ้าพระยามาเรียบร้อย
เหตุที่เลือกเอาวันที่ 30 ก็เพราะมั่นใจว่าวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งจะเป็นวัน “เคาต์ดาวน์” และจะมีการยิงพลุสลุตถึง 30,000 ดอก ที่ศูนย์การค้าแห่งนี้ร่วมกับการ “เคาต์ดาวน์” ทั่วโลกด้วยนั้น...ผู้คนคงจะแน่นขนัดและล้นทะลักแน่ๆ
ไม่เหมาะแก่ผู้สูงอายุเช่นผมจะไปเบียดเสียดอย่างแน่นอน จึงได้ตัดสินใจไปดูบรรยากาศก่อนของจริงเสีย 1 วัน พอให้เห็นภาพกว้างๆเอาไว้ก่อน เพื่อที่วันจริงจะได้นอนดูทีวีอยู่ที่บ้าน และนึกภาพตามได้อย่างใกล้เคียงมากขึ้นว่าอย่างนั้นเถอะ
อีกประการหนึ่งตัวผมเองก็ไม่ได้ไปไอคอนสยามนานพอสมควรแล้ว ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ไปมาแค่หนเดียว และก็ไปอย่างระมัดระวัง สวมหน้ากากอนามัย 2 ชั้น เดินตัวลีบอยู่ตลอด ไม่ค่อยสนุกเท่าไรนัก
ครั้งนี้จึงตั้งใจไปอย่างเต็มที่ เรียกว่าไปตั้งแต่ห้างเปิดโน่นเลย เพราะกลัวรถติดและกลัวว่าจะไม่มีที่จอดรถหากไปเที่ยงๆบ่ายๆ เนื่องจากได้ข่าวว่าช่วงนี้ ที่นี่ฮิตมากน่าจะเป็นศูนย์การค้าที่มีคนไปเที่ยวมากที่สุดในช่วงปีใหม่ปีนี้
ซึ่งก็เป็นไปตามข่าวร่ำลือทุกประการครับ ผมไปถึงประมาณ 11 โมงเช้าเศษ อยู่ที่โน่นจนถึง 6 โมงเย็น--เดินเที่ยวโน่นดูนี่ไปตลอดทั้งวัน เพื่อจะรอดูไฟตอนหัวค่ำ จึงได้เห็นด้วยตาตนเองว่าผู้คนแน่นมากจริงๆ
ช่วงกลางวันถึงเย็นๆอยู่ในเกณฑ์แน่นพอสมควร หรือแน่นอย่างเหมาะสม คือแน่นแบบยังพอมีที่เดินให้หายใจได้อย่างสะดวกว่างั้นเถิด
แต่ช่วงหัวค่ำนี่ซีโดยเฉพาะด้านชั้นล่างสุดที่เป็นบริเวณที่เขาจัดไว้สำหรับสินค้าศิลปวัฒนธรรม หรือโอทอปจากภาคต่างๆที่เรียกว่า “ย่านสุขสยาม” แน่นมากๆจนรู้สึกได้ถึงความอึดอัด
...
ครั้นเดินเข้าไปได้ถึงประตูที่จะออกไปสู่ริมน้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นลานกว้างใหญ่ที่จะมีการตกแต่งประดับไฟ และจะมีการจุดพลุไฟในวันรุ่งขึ้น...ยิ่งแน่นมาก...แน่นจนผมต้องเปลี่ยนความรู้สึกจาก “อึดอัด” เป็น “กลัว” นิดๆว่างั้นเถอะ
ครอบครัวของเราต้องหยุดปรึกษากันว่าจะ “ไปต่อ” หรือ “พอแค่นี้” ซึ่งในที่สุดก็ตกลงกันว่า “พอเถอะ” เพราะเรามีคนแก่ 2 คน คือผมกับภรรยาและเด็กอีก 2 คน คือหลานวัย 8 ขวบ กับ 4 ขวบ
มีคนอายุกลางคนประเภท 40 กว่าๆ หรือหย่อนๆอยู่ 2 คนเท่านั้น ...ถ้าเกิดอะไรขึ้นคงจะช่วยดูแลผู้สูงอายุและผู้เยาว์ไม่ได้อย่างแน่นอน
ว่าแล้วเราก็ตัดสินใจหันหลังขึ้นบันไดเลื่อนกลับสู่ชั้น 2 ชั้น 3 ที่ยังมีที่ว่างแล้วกลับไปที่จอดรถ...ด้วยความรู้สึกโล่งอกโล่งใจเมื่อรถของเราออกจาก ไอคอนสยาม ได้เรียบร้อยตอน 1 ทุ่มตรงต่อมา
ผมสังเกตว่าในบรรดาผู้คนที่แน่นขนัดนั้นเป็นคนไทยประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ และนักท่องเที่ยวสัก 40 เปอร์เซ็นต์เห็นจะได้
ตีความได้ 2 อย่าง...คืออย่างที่ 1 เศรษฐกิจไทยเราคงดีขึ้นจริง ทำให้คนไทยเราในกลุ่มที่ได้รับผลพวงจากการที่จีดีพีเพิ่มขึ้นในช่วงนี้มาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจกันมาก
อย่างที่ 2 ก็เป็นไปตามข่าวที่ว่า ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเที่ยวฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ในบ้านเราอย่างล้นทะลัก...ไปที่ไหนๆก็แน่นไปหมดรวมทั้งที่นี่ด้วย
ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศอาเซียนหรือเอเชียเรานี่เอง มีฝรั่งผิวขาวแบบคนยุโรปแซมอยู่บ้างจำนวนหนึ่ง
ก็ขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ เพราะต้องยอมรับว่าเท่าที่ผมไปสำรวจมาแล้วตามประสาคนแก่ขยันซอกแซก พบว่าสวยทุกแห่งและแน่นทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัลเวิลด์ สยามพารากอนและทุกสยามในบริเวณเดียวกันไปจนถึงเอ็มโพเรียม+เอ็มควอเทียร์...และสวยสุดแน่นที่สุดคือที่นี่อย่างที่เล่าไว้
เที่ยวด้วยระวังตัวกันด้วยนะครับ ห้ามประมาทเด็ดขาด รวมทั้งเจ้าหน้าที่บ้านเมือง เจ้าหน้าที่ของศูนย์การค้าต่างๆ ฯลฯ ก็ขอให้ช่วยดูแลระมัดระวังเต็มที่จะได้เที่ยวอย่างสนุกและปลอดภัยไร้กังวลไม่มีปัญหาใดๆเกิดขึ้น
อย่าลืมมาเที่ยวกันใหม่นะครับ นักท่องเที่ยวต่างประเทศทั้งหลาย...ประทับใจแล้วอย่าลืมบอกต่อให้เพื่อนคุณ ญาติคุณได้รับรู้รับทราบด้วยว่าไทยแลนด์ยามนี้น่าเที่ยวจริงๆ มาได้ทั้งปีไม่มีเบื่อแน่นอน--ช่วงปีใหม่อีกแค่ 20 วันก็จะถึง “ตรุษจีน” อีกแล้ว...เตรียม รับมือนักท่องเที่ยวจีนด้วยก็แล้วกันลุง!
“ซูม”