นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า จากการประชุมผู้บริหาร ที่ประชุมมีการรายงานความคืบหน้าเรื่องการจัดระเบียบหาบเร่แผงลอย เนื่องจากหลังสถานการณ์โควิด มีการเปิดเมืองมากขึ้น เศรษฐกิจเริ่มหมุนเวียน ทำให้กลุ่มผู้ค้าหาบเร่แผงลอยกลับมารุกล้ำพื้นที่ทางเท้ามากขึ้น โดยเฉพาะในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ กทม.จะเพิ่มจุดผ่อนผันในเดือน ก.พ.66 อีก 29 จุด และเดือน พ.ค.66 อีก 50 จุด โดยทั้งหมดจะมีการจัดระเบียบเข้มข้นขึ้น ปัจจุบัน กทม.สร้างจุดหาบเร่แผงลอยต้นแบบ 8 จุด เช่น แถวถนนข้าวสาร แถวเขตบางนา รวมถึงจัดทำศูนย์อาหารสำหรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยบริเวณซอยสังคโลก เขตดุสิต จัดให้มีที่ล้างจานเป็นระเบียบมากขึ้นเพื่อสร้างต้นแบบก่อนจะมีการขยายเพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังเพิ่มมาตรการห้ามรถพ่วงข้างขึ้นไปขายบนทางเท้ารวมถึงในจุดผ่อนผันด้วย เนื่องจากรถพ่วงข้างไม่ได้ขึ้นทะเบียนผู้ค้าในจุดผ่อนผันของ กทม. โดยจะมีการตรวจจับผ่านกล้องวงจรปิดในพื้นที่ หากพบเห็นผู้ฝ่าฝืนจะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจ เข้าไปดำเนินการภายใน 20 นาที และปรับในอัตราสูงสุด
นายชัชชาติกล่าวว่า ที่ผ่านมา เรื่องหาบเร่แผงลอยเป็นเรื่องที่กังวลที่สุด เพราะต้องคำนึงถึงความยากลำบากของคน และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของเมือง ต้องพยายามหาจุดสมดุล ขณะนี้มีการพิจารณาจุดผ่อนผันเพิ่มเติมจากเดิมที่มีอยู่ หากจุดใดมีหาบเร่แผงลอยเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อาจต้องเพิ่มจุดผ่อนผันและควบคุมให้เป็นระเบียบ เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่กระทบชีวิตผู้ประกอบการหาบเร่แผงลอย ซึ่งมีครอบครัวที่ต้องดูแล กทม.จำเป็นต้องคำนึงถึงความเป็นอยู่ของผู้ประกอบการหาบเร่แผงลอยหลังช่วงโควิดควบคู่กับการจัดระเบียบเมือง ทำให้การดำเนินการในบางจุดมีความล่าช้าไปบ้าง.