ตำรวจไซเบอร์แจ้ง 3 ข้อหา “สุวินัย ภรณวลัย” อดีตอาจารย์ มหาวิทยาลัยดังความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และ พ.ร.บ.เรี่ยไรฯ หลังโพสต์เฟซบุ๊กรับบริจาคทำพิธีสืบชะตาบุคคลสำคัญให้หายจากความเจ็บป่วย ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงมีประชาชนหลงเชื่อโอนเงินเข้าบัญชีกว่า 7 แสนบาท เจ้าตัวอ้างทำไปตามความเชื่อด้วยเจตนาดี
ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญา กรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ภายในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ธ.ค. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. นำกำลังเดินทางไปเชิญตัว รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ จากบ้านย่านพัฒนาการ กรุงเทพฯ เพื่อไปสอบปากคำที่ บก.สอท.1 บช.สอท.
การเชิญตัวอดีตอาจารย์คนดังไปสอบปากคำครั้งนี้ สืบเนื่องจาก รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย ได้โพสต์ข้อความและภาพถ่าย ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ “Suvinai Pornavalai” ในทำนองว่าสามารถทำพิธีกรรมตามความเชื่อของตน อัญเชิญเทพเทวดาเบื้องบนอำนวยพร ให้บุคคลสำคัญของชาติสามารถหายจากอาการป่วยได้ จากนั้นได้เปิดบัญชีรับบริจาค อ้างว่าจะนำเงินที่ได้รับจากการบริจาคไปทำพิธีสืบดวงชะตา ด้วยการทำพานบายศรีถวายและร่วมสวดมนต์
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า หลังเริ่มเปิดรับบริจาคตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงมีประชาชนหลงเชื่อโอนเงินบริจาคเข้ามาในบัญชีดังกล่าวทะลุหลักล้านบาทแล้ว เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจพบได้เชิญมาสอบปากคำอย่างละเอียดว่า เข้าข่ายในการกระทำความผิดหรือไม่ และหากมีความผิดจะเกี่ยวข้องกับกฎหมายข้อใดบ้าง พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูล รวมไปถึงกรณีการเปิดระดมทุนจัดทำพิธีดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้น รศ.ดร.สุวินัยให้ข้อมูลอ้างว่า ทำไปตามความเชื่อของตน ส่วนที่มีผู้บริจาคมาเพราะศรัทธาในความตั้งใจในการทำความดีของตน ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เจ้าหน้าที่จะแถลงรายละเอียดที่ บช.สอท.ให้ทราบต่อไป
...
สำหรับ รศ.ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปัจจุบันเป็นประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย และเป็นหนึ่งในนักวิชาการที่เข้าร่วมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายก รัฐมนตรี เมื่อปี 2549 นอกจากนี้ยังเขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาและม็อบราษฎรอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน
ต่อมาเวลา 17.00 น. ที่ บก.1 บช.สอท. พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. แถลงจับกุมนายสุวินัย ภรณวลัย อายุ 66 ปี หลังโพสต์เฟซบุ๊กเปิดบัญชีรับบริจาคเงินทำพิธีบายศรีขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อชะตาบุคคลสำคัญ จับได้ที่บ้านในซอยพัฒนาการ 44 แขวงและเขตสวนหลวง กรุงเทพฯ พล.ต.ต.วิวัฒน์กล่าวว่า ภายหลังตำรวจสืบทราบข้อมูลได้รับคำสั่งให้ติดตามตรวจสอบและพบว่าผู้ต้องสงสัยมีบ้านอยู่ย่านสวนหลวง เดินทางไปเชิญมาสอบปากคำ เจ้าตัวเป็นอาจารย์เกษียณอายุ ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ระบุว่าตัวเองไร้เจตนาไม่ดี เพียงเพราะมองว่าหากวิทยาศาสตร์ช่วยไม่ได้ ต้องใช้พิธีกรรมเข้าช่วย
จากการสอบปากคำพบว่าเจ้าตัวมีสติเต็มร้อย และไม่พบเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามกฎหมายอาญา ม.112 แต่เข้าข่ายเป็นความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ตามกฎหมายอาญา ม.343 และ ม.344, นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ม.14 (1) โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1แสนบาท และความผิดตาม พ.ร.บ.เรี่ยไร มีโทษปรับ 200 บาท ผู้ต้องหาให้การภาคเสธในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
พล.ต.ต.วิวัฒน์กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบยอดเงินบริจาคพบว่ามียอดเกือบ 7 แสนบาท แต่โอนเป็นค่าใช้จ่ายค่าพิธีกรรมว่าจ้างผู้ทำพิธีที่สำนักงานใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไปแล้ว 3 แสนบาท จากนี้จะตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่ามีความเชื่อมโยงไปบัญชีผู้ใดบ้าง ผู้ที่โอนเงินบริจาคไปแล้ว สามารถมาแสดงเจตจำนงและร้องทุกข์กล่าวโทษที่ บก.สอท.1 ได้หากต้องการเงินคืน พร้อมฝากถึงประชาชนด้วยว่า ขอให้ระมัดระวังการโพสต์ต่างๆที่มีลักษณะก้าวล่วงเบื้องสูงในช่วงเวลานี้