สี่โมงเช้าวันพ่อ ผมถูกชวนไปดูหนัง..ผู้สร้างเขาใช้คำเรียก โขนภาพยนตร์ ที่โรงหนังในพารากอนครับ ผมตั้งความหวังไว้ ครั้งนี้คงได้สะใจ กับหนุมาน..ที่เคยดูในลีลาโขน..ในแบบของหนัง ที่ฉับไวทันใจ ด้วยเทคนิคดิจิทัล

แค่ฉากแรก ก็ตื่นตาไม่น้อย ว้าวๆ ลืมขนบโขนเดิมๆ ฉาก เปิดตัว “ลิงขาว” ไปเล่นซุกซนกับเหล่านางฟ้า จนกิ่งไม้สวรรค์หัก พระแม่อุมาสาปให้ฤทธิ์หายไปครึ่งหนึ่ง..

เจ้าลิงขาวก็กลายเป็น “ลิงจ๋อย” ร่อนเร่พเนจรป็นนาน กว่าจะมาเจอพระราม (พระนารายณ์อวตาร) ลูบหัวถึงหางสามหน จนฤทธิ์เดชฟื้นคืนอาละวาดได้เหมือนเดิม

เราคุ้นเคย มหากาพย์รามเกียรติ์ โขนเล่นทีละตอน..มาเจอโขนในหนัง ที่ยังรักษาบทเต้นบทร้องแบบโขน..รวบรัดเป็นตอนเดียว..ผู้กำกับกับคนเขียนบทเป็นคนเดียวกัน ขอชมว่าเก่งมาก

เริ่มด้วย “นัยประวัติ” ทศกัณฐ์ ใครฆ่าไม่ตาย เพราะฝากกล่องดวงใจไว้กับพระฤาษี แล้วก็เลือกตอนเด็ดๆเร้าใจ อย่างตอน หนุมานเผากรุงลงกา ตอนหนุมานจองถนน..

ตอนนี้ มีฉากสำคัญ หนุมานแค้นนางสุพรรณมัจฉา ขนหินใต้น้ำทำลายถนน..ตั้งใจจะฆ่า หนังเขาเลือกสุพรรณมัจฉาสวยเหลือกำลัง แค่สบตา ฉากคลั่งจะฆ่าก็กลายเป็นฉากเลิฟซีนในปราสาทใต้น้ำไปเฉยเลย

ผมมีความหลัง ดูโขนพระราชทาน ตอนจองถนนสองรอบ รอบแรกได้ที่นั่งชั้นล่าง ดูฉากนี้ก็รักไปอีกแบบ ครั้งที่สองนั่งชั้นบน ดูฉากรักตอนหนุมานกอดสุพรรณมัจฉา ระทึกไปอีกแบบ

หนังฉากนี้ ดีจริงๆ ไม่เสียแรง ที่ทำออกมาเป็นหนัง แม้ยังลิงๆยักษ์จะออกท่ารำเต้นตีลังกา แบบโขนๆ ไม่ถึงกับดูเป็นหนังสากล แต่ก็กลืนกันไป ดูได้เพลินๆ ไม่ถึงกับง่วงนอน

โรงหนังในพารากอน ห้องน้ำอยู่ไกล ผมใช้เวลาแล้วกลับมา อ้าว...มาถึงตอน ที่ไม่ค่อยได้ดูในโขนทั่วไป

...

เจ้าลิงขาวเจ้าชู้ตัวเก่ง..เล่นบทใหม่ แปรพักตร์จากฝ่ายเทพ.. พระรามกับลูกน้องลิงๆ ไปเป็นฝ่ายมารซะแล้ว

ใครที่เคยดูหนุมานในบทลิงตีลังกา มาดูหนุมาน ใส่ชฎา.. ออกท่ารำ ในลีลามกุฎราชกุมาร ลูกเลี้ยงเจ้าลงกา นำทัพไปรบกับทัพลิงสหายเก่า แล้วก็คงแปลกใจ เจ้าลิงขาวตัวเก่ง เป็นเช่นนี้ไปได้ยังไง

ดูต่อๆไป จึงรู้ว่า ที่แท้หนุมาน รับแผนพระราม..ไปหลอกเอากล่องดวงใจทศกัณฐ์มาขยี้ เจ้าลงกาพอรู้ หัวใจก็สลาย เพราะชอกช้ำนักหนา ก่อนเวลาตายจริง

คอรามเกียรติ์ รู้ดี ตอนนี้ขนบของครูโขน ท่านเรียกตอนยักษ์ล้ม..ไม่นิยมจับตอนมาเล่น เชื่อกันมาแต่โบร่ำโบราณ ว่าไม่เป็นมงคล

เพราะความเชื่อแบบนี้หรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ จึงดูตอนจบโขนภาพยนตร์ลิงขาว ไม่สะใจเท่าที่ควร

หนังเขา ไม่ตั้งใจให้ลิงขาวล้มเจ้าลงกา เลือดกระจาย เหมือนตอนใช้ตรีกะซวกสหัสเดชะ (โอรสทศกัณฐ์) เลือดกระฉูด ที่ดูได้จากตอนต้นๆ

ฉากจบด้วยเพลงแร็ป คงจะถูกใจคนรุ่นใหม่ แต่ผมทำใจกับฉาก ถอดหัวโขน ดูเป็นปรัชญา ทำใจให้ซึ้งได้มากกว่า ตามประสาคนแก่

ดูจบแล้ว ผมก็ปรบมือดังๆให้ทีมผู้สร้าง นักแสดง ผู้สนับสนุน ไปเหมือนคนดูในโรงทุกคน

แต่คิดในใจ โขนภาพยนคร์ ดูสนุกทีเดียวกับคนไทยที่คุ้นกลิ่นอายโขนมาก่อน แต่กับเด็กรุ่นใหม่ คงยังอีกยาวไกลมาก หากจะนึกไปถึงหนังฝรั่งพวกซุปเปอร์ฮีโร่ทั้งหลาย

เอาเป็นว่า เป็นการเริ่มต้นก้าวแรกที่น่าชื่นชม ก็แล้วกัน

ผมหวังว่าก้าวต่อไป เราจะช่วยหนุนให้คนไทยทำหนังไทยไปตลาดโลกได้ เหมือนเกาหลีที่นำหน้าไปไกลแสนไกลสุดกู่แล้ว.

กิเลน ประลองเชิง