หมอทศพรลงพื้นที่ช่วยเหลือ สองชายไร้บ้าน ในชุมชนสุขสว่าง พหลโยธิน 50 แยก 3 พบรายแรกเป็นชายวัย 60 ปี อดีต รปภ.กรมขนส่งทหารอากาศ พิการขาลีบทั้งสองข้างเพราะถูกรถชน สุดอนาถใจต้องใช้ก้นถัดไถแทนการเดิน ส่วนเพิงพักใช้บานประตูเก่ามามุงอาศัยนอน ส่วนอีกรายเป็นชายวัย 75 ปี นำสังกะสี ลังกระดาษและถุงปุ๋ยมามุงเป็นที่พัก มีพระวัดหนองผักชีคอยนำอาหารมาให้ ส่วนห้องน้ำต้องคอยขอชาวบ้านเข้า เบื้องต้นประสานมูลนิธิปันบุญรับเป็นเจ้าภาพช่วยเหลือ จะจัดให้ทั้งคู่มาอยู่ใกล้กัน พร้อมประสานโรงพยาบาลภูมิพลดูแลเรื่องสุขภาพ เหน็บรัฐเรื่อง การเปิดขายที่ดินให้ชาวต่างชาติ บอกคนไทยจำนวนมากยังไม่มีบ้านเป็นของตัวเองเลย
“หมอทศพร” ลงพื้นที่ชุมชนสุขสว่าง พหลโยธิน 50 แยก 3 ช่วยเหลือคนไร้บ้าน หลังได้รับการประสานจากผู้นำชุมชนและข้อมูลจากสื่อมวลชน เปิดเผยขึ้น เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 พ.ย. นพ.ทศพร เสรีรักษ์ ผู้สังเกตการณ์ชุมนุมทางการเมือง สมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางไปที่ชุมชนสุขสว่าง ซอยพหลโยธิน 50 แยก 3 แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือ นายชูเกียรติ หรือเปี๊ยก รักเงิน อายุ 60 ปี อดีตเป็น รปภ.ที่กรมขนส่งทหารอากาศ มีสภาพขาลีบพิการทั้งสองข้าง อาศัยอยู่บนบานประตูไม้เก่า และ นายสุชาติ สังข์ลาว อายุ 75 ปี พักอาศัยอยู่ในเพิงพักทำจากลังกระดาษ เศษถุงปุ๋ย เอามาก่อเป็นเต็นท์ โดยมีนายธมะนันท์ แตงทิม หรือจ่าคิงส์ ผู้นำชุมชน นำคณะลงพื้นที่
ทันทีที่ นพ.ทศพร ไปถึงได้ตรงเข้าไปสอบถามความเป็นอยู่รวมถึงความต้องการของนายชูเกียรติ และนายสุชาติ ก่อนที่ทั้งสองจะบอกว่าสิ่งที่ต้องการคือที่พักอาศัยและเครื่องนุ่งห่ม รวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภค ที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากพระวัดหนองผักชี นำอาหารมาให้รวมทั้งชาวบ้านคอยช่วยเหลือให้เข้าใช้ห้องน้ำ นอกจากนี้ยังร้องขอให้สร้างห้องน้ำเพื่อความสะดวกสำหรับการใช้ชีวิตด้วย
...
นพ.ทศพร กล่าวว่าทำงานเกี่ยวกับคนไร้บ้านมานานพอสมควรเจอปัญหาเช่นนี้เรื่อยๆ กรณีนี้ได้รับการประสานงานจากผู้นำชุมชนและข้อมูลจากสื่อมวลชน หลังจากได้พูดคุยกับนายสุชาติที่อาศัยอยู่ในบ้านสังกะสีใช้เศษสิ่งของเหลือใช้ที่ผู้คนทิ้งแล้วมาสร้างเป็นเพิงพักพบว่ามีความเป็นอยู่ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค มีเสื้อผ้าใส่เพียงชุดเดียว ส่วนนายชูเกียรติต้องนอนในเพิง มีปัญหาเรื่องสุขภาพหลังประสบอุบัติเหตุรถชนจนขาลีบทั้งสองข้าง ต้องใช้การถัดไถก้นแทนการเดิน อยู่ในดงน้ำคร่ำจึงเป็นเรื่องที่ต้องช่วยเหลือ
นพ.ทศพร กล่าวต่อว่า ทั้งสองคนได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้าน รวมทั้งเจ้าของที่ดินในชุมชนที่อนุญาตให้สร้างบ้านพักแบบมีพื้น มีหน้าต่าง ให้ถูกสุขลักษณะ คิดว่าจะให้ทั้งคู่มาอยู่ใกล้กันมีห้องที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงกัด รวมถึงจะมีการตรวจสุขภาพเกี่ยวกับฟันของนายสุชาติ ส่วนการกายภาพของนายชูเกียรติที่ขาลีบ จะนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับโรงพยาบาลภูมิพลว่า จะแก้ไขอย่างไรได้บ้าง ขณะนี้ได้ประสานไปยังมูลนิธิปันบุญและบุคคลที่มีน้ำใจมาให้ความช่วยเหลือ โดยมูลนิธิปันบุญได้รับเป็นเจ้าภาพให้ จะเข้ามาช่วยเหลือดูแลในระยะยาว ทั้งนี้มูลนิธิปันบุญได้ดูแลคนไร้บ้านเป็นจำนวนมาก ประชาชนทั่วไปสามารถสมทบทุนได้ที่มูลนิธิปันบุญ ธนาคารกรุงเทพ เลขบัญชี 6820159397 และธนาคารกรุงไทยเลขบัญชี 5061789369
ผู้สื่อข่าวถามว่า อนาคตคนไร้บ้านในประเทศ ไทยจะมีมากขึ้นหรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลเปิดโอกาสให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อที่ดินในประเทศไทยได้ นพ.ทศพร ตอบว่า คนไทยยังมีบ้านไม่เพียงพอ บางคนตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีบ้านเป็นของตัวเอง ประเทศไทยมีพื้นที่ 320 ล้านไร่ ถ้าเรามีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพน่าจะจัดสรรพื้นที่อยู่อาศัยให้ทุกคนได้มีที่ซุกหัวนอน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ได้ เชื่อว่าหากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่น่าจะแก้ไขปัญหานี้ได้ ทำให้ทุกคนมีที่อยู่อาศัย