“การปราบปรามยาเสพติดเป็นงานที่เราจะช่วยประชาชนที่มีความเดือดร้อนในทุกหย่อมหญ้า โดยเฉพาะครอบครัวลูกหลานติดยาอยากให้หายเป็นคนดีกลับสู่สังคม เราต้องพยายามทำทุกมิติ ส่งสัญญาณเตือนไปแล้วตั้งแต่มอบนโยบายวันที่ 1 ต.ค. เร่งปราบปรามยาเสพติด ตำรวจพัวพันยาเสพติดไม่ได้ อยากให้ปัดกวาดบ้านตัวเองให้ดี ตรวจสอบตำรวจที่พัวพันเกี่ยวข้องยาเสพติดตัดไฟแต่ต้นลม ทำให้เป็นตำรวจสีขาวให้ได้ ใครรู้ว่าไม่ถนัดงานยาเสพติดเปิดโอกาสให้เปลี่ยนสายงานได้หรือนายที่ข้อมูลลูกน้องหย่อนยานพัวพันแจ้งมาเสนอโยกย้ายได้ เพราะต้องการคนทำงานด้วยใจ ทำงานเพื่อประชาชนคนที่เดือดร้อน”
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กำชับนโยบายยาเสพติดเข้มข้นขึ้นอีก หลังเกิดเหตุที่มีอดีตตำรวจที่ถูกคำสั่งให้ออกคดียาเสพติดใช้อาวุธปืนก่อเหตุโศกนาฏ กรรมที่ศูนย์เด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภู เป็นไปตามความต้องการคนไทยเรียกร้องขอให้แก้ไขเรื่องอาวุธปืนอยู่ในมือกลุ่มเสี่ยงและการระบาดยาเสพติดให้เป็นระบบ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ประชุมกำหนดมาตรการแก้ปัญหายาเสพติดและอาวุธปืน กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างความปลอดภัยให้สังคม แม้ที่ผ่านมารัฐบาลประกาศนโยบายยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ แต่เมื่อยังมีเหตุเกิดขึ้น จึงต้องมีมาตรการป้องกันเหตุที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
...
หลังเกิดเหตุ ผบ.ตร. “ถอดบทเรียน” คดีกราดยิงเด็กเล็กและครู ที่มีอดีตตำรวจใช้อาวุธปืนและมีประวัติเสพยาเสพติด เป็นข้อกังขาของประชาชน กำชับทุกหน่วยเร่งปราบปรามยาเสพติดเชิงรุก ทำทุกมิติทั้งป้องกัน ปราบปรามและการบำบัดฟื้นฟูรักษา เอกซเรย์ “ผู้เสพ” พื้นที่เขียว เหลือง แดง สร้างชุมชนยั่งยืนและเร่งปราบผู้ค้า นายทุน ผู้สนับสนุน อายัดทรัพย์สินและกวาดล้างอาวุธปืน ตรวจสอบกลุ่มเสี่ยงที่มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครอง
ผบ.ตร.ส่งสัญญาณตรงไปยัง ผบช. รอง ผบช. ผบก.และ ผกก.หัวหน้าสถานีทั่วประเทศ ให้เวลา 1 เดือนทุกหน่วยทำผลงานชัดเจน ผบ.ตร.จะเป็นผู้ประเมินผลงานในแต่ละพื้นที่ด้วยตัวเอง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดงานร่วมแถลงจับกุมยาเสพติดใหญ่ของ บช.ปส. รับงานใหม่ พล.ต.อ.ชินภัทร สารสิน รอง ผบ.ตร. เข้ามาคุมศูนย์ยาเสพติด ตร. พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. จับกุม 2 เครือข่ายยาเสพติดภาคเหนือที่เตรียมส่งเข้าพื้นที่ชั้นใน ของกลางยาบ้า 11.6 ล้านเม็ด คีตามีน 50 กิโลกรัม ต้นเดือน ต.ค. บช.ภ.5 จับยาบ้า 2.5 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 700 กิโลกรัม
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดปฏิบัติการค้นอาวุธปืนออนไลน์และชุดออนไลน์สืบภาค 2 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. อดีต ผบก.สส.บช.ภ.2 จับอาวุธปืนออนไลน์ บางส่วนขายให้ผู้ร่วมชุมนุม
แสดงให้เห็นว่า หน่วยงานหลักตำรวจทำงานปราบยาเสพติดและอาวุธปืนต่อเนื่อง
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ประกาศสงครามยาเสพติดเต็มรูปแบบและขับเคลื่อนศูนย์ป้องกันปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปส.ตร.) ด้วยตนเอง วางตัว
พล.ต.อ.ชินภัทร ลูกหม้อ บช.ปส. มีประสบการณ์งานยาเสพติดที่สุดในยุคนี้เข้ามาควบคุมภาพรวมงานยาเสพติด ด้วยประสบการณ์ทำงานมวลชนกับยาเสพติดของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ สมัยที่เป็น ผกก.สน.คลองตัน ผบก.น.2 ผบก.อำนาจเจริญ และ ผบช.ภ.3 ทำให้เห็นสภาพปัญหาการปราบปรามยาเสพติดอยู่ที่ “นาย” ขาดความเอาใจใส่ และพื้นที่ปล่อยปละละเลย ไม่เคยเข้าหาชุมชน
หัวใจสำคัญงานตำรวจพื้นที่ ต้องเยี่ยมชุมชนให้รู้จักภาพรวมในพื้นที่จริง อาศัยฐานข้อมูล ระบบไครม์ ผบ.ตร.จะประเมินผลงานว่า พื้นที่ไหนจับกุมได้มากหรือว่าค้นหาผู้เสพได้มากถือว่าเป็นชุมชนที่มีปัญหาด้านยาเสพติด หัวหน้าสถานีตำรวจ ผบก.และ ผบช.เข้าไปขับเคลื่อนด้วยตัวเอง
...
กำชับตำรวจต้องไม่ทำงานลำพัง ให้ประสานท้องถิ่น ฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน ผู้นำชุมชนทางธรรมชาติ อาสาสมัครสาธารณสุข เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ช่วยกันในการค้นหา ลงระบบ เพื่อได้เห็นปัญหาว่าพื้นที่อยู่ระดับสีเขียว สีเหลือง สีแดง เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกับครอบครัว สถานประกอบการ สถานบริการ ละเลยไม่ได้
ผบ.ตร.ให้ความสำคัญประกาศสงครามยาเสพติดในอีก 1 ปีที่เหลือ ย้ำว่า “ถ้าหัวหน้าหน่วย ไม่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองจะช้า ถือเป็นความไม่ใส่ใจ บางสถานีค้นหาผู้เสพไม่ได้เลยแสดงว่าตัดสินใจผิด ติดกระดุมเม็ดแรกผิด ไม่รู้ว่าชุมชนไหนเหมาะทำชุมชนยั่งยืน ต้องโทษ ผกก.ถือว่าบกพร่อง”
ผบ.ตร.สั่งตำรวจกวาดบ้านตัวเองให้ดี ตรวจสอบตำรวจที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ต้องสุ่มตรวจ คาดโทษตำรวจ “นอกแถว” และมอบรางวัล “ตำรวจน้ำดี” ทำให้เป็นตำรวจสีขาวให้ได้
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. กล่าวว่า “ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาความมั่นคง มีแนวโน้มทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น เป็นวิกฤติของประเทศ เป็นวาระแห่งชาติที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ทุกหน่วยร่วมกันแก้ไข ถือว่าเป็นวาระเร่งด่วนเรื่องแรกของ ตร.เร่งดำเนินการ กำชับหน่วยให้กวาดบ้านตัวเองให้สะอาด หากมีตำรวจเข้าไปกระทำผิด จะไม่โดนดำเนินคดีเฉพาะตำรวจแต่จะรวมถึงผู้บังคับบัญชาอีก 2 ระดับ ฐานควบคุมลูกน้องไม่ดี ปล่อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ไปกระทำความผิดเสียเอง จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม”
...
“ใครมีข่าวหรือเบาะแสกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ผ่านสายด่วน 191 และ 1599 ตร.จะทำทุกมิติทั้งการปราบปราม การป้องกัน การบำบัดฟื้นฟู ค้นหาผู้เสพ ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงตั้งแต่ระดับ ผบก.จนถึง ผกก.สถานีตำรวจ ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวบ้านสร้างความเชื่อมั่นและร่วมมือให้ข้อมูลยาเสพติด ตำรวจ ฝ่ายปกครองและสาธารณสุข ร่วมมือกันอย่างเข้มข้นปูพรมค้นหาผู้เสพในพื้นที่ คาดว่าใช้เวลา 2–3 เดือน จะทราบว่ามีพื้นที่สีแดงต้องเฝ้าระวังเหตุคลุ้มคลั่งควรแก้ไขอย่างไร ตั้งแต่ระดับครอบครัวจนถึงสถานบำบัดในพื้นที่ รวมถึงมาตรการดูแลของตำรวจ ไม่ใช่ “ไฟไหม้ฟาง” ปีนี้เน้นความพึงพอใจของชาวบ้านเป็นหลัก หากตำรวจลงพื้นที่แล้วชาวบ้านสะท้อนว่าพึงพอใจ จะยึดเป็นหลักในการประเมินผลงานตำรวจในทุกพื้นที่”
เป็นการส่งสัญญาณตรงของ ผบ.ตร.ไปยังหัวหน้าตำรวจทุกหน่วยกับนโยบายปราบปรามยาเสพติดและกวาดล้างอาวุธปืน ให้รางวัลกับหน่วยที่ทำได้ดีและเล่นงานพวก “เกียร์ว่าง” เข้าข่ายถูกโยกย้ายพ้นหน้าที่
ผบ.ตร. รุกหนักตำรวจพื้นที่ตามความต้องการประชาชนกับผลงานปราบ “ยานรก” และอาวุธปืน
ไม่ให้เกิดความสูญเสียจาก “อาวุธปืน–ยา เสพติด” เหมือนอดีตที่ผ่านมา.
ทีมข่าวอาชญากรรม