“อยากให้อย่ามองเราเป็นฝ่ายตรงข้าม เพราะว่าตำรวจไม่ว่า ทุกรัฐบาลไหนก็จะต้องทำหน้าที่ของเรา ส่วนใหญ่คนไม่เข้าใจก็จะมาลง ที่ตำรวจโดนผลักไปอยู่ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งเราก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่อยากบอกว่า ตำรวจเป็นกลาง” คำพูด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. เรื่อง ชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล

เป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและเห็นใจลูกน้องตำรวจ เพราะอดีตเคยรับผิดชอบงานความมั่นคง ซึ่งปัญหาใหญ่อยู่ที่การควบคุมการชุมนุมประท้วงให้อยู่ภายใต้กฎหมาย ไม่ทำให้สังคมส่วนใหญ่เดือดร้อน

เป็นเรื่องที่ตำรวจส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากมารับผิดชอบ เพราะไม่อยาก เป็น “หนังหน้าไฟ”

มีโอกาสตกเป็น “แพะรับบาป”

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เคยอยู่ในสภาพของผู้ปฏิบัติดูแลผู้ชุมนุมในฐานะตำรวจโรงพัก ตำรวจ 191 และสวมบทบาท ผู้บริหารสถานการณ์ชุมนุม ทำให้เข้าใจถึงหัวอกลูกน้องที่ต้องจากบ้านมาไกล ถูกพูดจายั่วยุ เสียดสี ด่าทอและได้รับบาดเจ็บจากการเข้าสกัดกลุ่มผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งที่จะต้องปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่

เป็นความชัดเจนและตรงไปตรงมาตามสไตล์ของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เป็นตัวแทนเปิดเผยถึงความรู้สึกที่อึดอัดของตำรวจทุกนาย วิงวอนไปที่คนไทย เข้าใจสถานการณ์ชุมนุมประท้วง ไม่ว่าจะเป็นม็อบสีไหน

ย้ำว่า การชุมนุมเป็นสิทธิพื้นฐาน แต่ตำรวจต้องบังคับใช้กฎหมาย ตามหน้าที่ที่กฎหมายมีอยู่ ผู้ชุมนุมสามารถเรียกร้องได้ตามสิทธิ แต่อยาก ให้ผู้ชุมนุมเข้าใจกฎหมายและหน้าที่ที่ผ่านมาพูดคุยกับแกนนำมาโดยตลอด เพื่อทำความเข้าใจกันให้อยู่ในกรอบกฎหมาย เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน เราต่างทำหน้าที่ ผู้ชุมนุมที่เห็นต่างก็ทำหน้าที่ของท่าน ขอให้เข้าใจตำรวจด้วย หากตำรวจไม่ทำตามกฎหมายก็มีความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่”

...

ยืนยันหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมาย ไม่อยากให้เกิดปะทะกัน รักษาสถานที่สำคัญเป็นหลัก

เป็นสิ่งที่ตำรวจต้องทำ

“เราไม่เคยมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อผู้ชุมนุม เน้นการรักษาสถานที่สำคัญ ดูแลความปลอดภัย เราเน้นใช้ในการปกป้องรักษาสถานที่สำคัญ ถ้าไม่บุกมา เราไม่ใช้อยู่แล้ว อยู่ในกรอบกฎหมาย และไม่เคยมีความคิดที่จะใช้อุปกรณ์พิเศษเลย ผมมองในฐานะตำรวจด้วยความเข้าใจเห็นใจ พวกท่านมาด้วย ความเห็นอิสระของท่านได้” เป็นความในใจของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ พูดแทน ความในใจ “ตำรวจม็อบ” อดทนและเสี่ยงอยู่กับการชุมนุมนานหลายปี

สถานการณ์หลังประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ กับท่าทีของกลุ่มมวลชน เคลื่อนไหวชุมนุมขับไล่รัฐบาล หวังผลประโยชน์ทางการเมือง เป็นเรื่องที่ประเมิน ยาก ผู้ดูแลการชุมนุมให้เป็นไปตามกฎหมาย และไม่ให้กระทบผู้คนส่วนใหญ่ใน ประเทศ ตกอยู่ที่ฝ่ายตำรวจ มีหน้าที่รักษากฎหมาย ควบคุมสถานการณ์บ้านเมือง

สุดท้ายหนีไม่พ้นตำรวจเดือดร้อน.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th