ผู้บริหารที่ลงแถลงข่าวในช่วงนี้ หนีไม่พ้นต้องเจอคำถามภาคบังคับเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ บาทอ่อน เช่นเดียวกับ ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไปของ เอไอเอส
เพราะเอไอเอสเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือ จึงต้องมีการลงทุนติดตั้งโครงข่าย เสาสัญญาณ สถานีฐาน ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ แม้เน็ตเวิร์กมากกว่า 80% จะมาจากผู้ผลิตค่ายจีน อันได้แก่ หัวเว่ย และ ZTE แต่เวลาชำระเงิน กลับต้องชำระเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ ซะงั้น “พอเงินบาทอ่อนแตะ 38 บาทต่อดอลลาร์ฯ มันก็จะแพงพอสมควร แม้จะทำประกันความเสี่ยงเอาไว้ ตอนนี้กำลังดูว่าจะชำระเป็นเงินสกุลอื่นแทนได้ไหม ถ้าเลือกได้อยากชำระเป็นเงินบาท เวลาซื้อมือถือมาขาย เราก็ชำระเป็นเงินบาทนะ แต่ถ้าเป็นพวกอุปกรณ์โครงข่าย ชำระเป็นเงินสกุลดอลลาร์ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว”
พอถามว่าบาทอ่อน สินค้านำเข้าแพง กระทบยอดขายไอโฟน 14 ใหม่ไหม คุณหยู-ปรัธนาส่ายหน้างึกงัก
“เอาเป็นว่าไอโฟน 14 ตอนนี้ของไม่พอขาย แต่ไม่สามารถเปรียบเทียบกับปีก่อนได้นะครับ เพราะปีนี้เปิดขายใกล้เคียงกับที่อเมริกา ผลลัพธ์คือไม่มีของ ส่วนราคาก็แพงขึ้นแบบไม่เกี่ยวกับค่าเงิน”
แต่ลูกค้าที่มีตังค์ เขาพร้อมจ่ายครับ.