ศาลฎีกาพิพากษายืน สั่ง บ.โตโยต้า ประเทศไทย จ่ายภาษีกว่าหมื่นล้านนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์รุ่นพรีอุส โดยชี้ เป็นชิ้นส่วนครบชุดสมบูรณ์ จึงไม่ได้รับการยกเว้นอากร และลดอัตราอากรนำเข้าตามข้อตกลง JTEPA
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. 65 องค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร สนามหลวง อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา โดยวิธีถ่ายทอดภาพและเสียงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไปยังศาลภาษีอากรกลาง ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ คดีที่บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นโจทก์ฟ้องกรมศุลกากร และกรมสรรพากร
เป็นจำเลยที่ 1-2 ตามลำดับ รวม 10 คดี เรื่องขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และเพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 คิดเป็นทุนทรัพย์รวม 1 หมื่นล้านบาทเศษ
โดยบริษัท โตโยต้าฯ โจทก์ ระบุฟ้องความผิดสรุปเมื่อ ระหว่างปี 2553 ถึง 2555 บริษัท โจทก์นำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์เพื่อนำมาผลิตรถยนต์โตโยต้า รุ่นพรีอุส โดยอาศัยสิทธิตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่องการลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 และมาตรา 14 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 และตามความตกลง (JTEPA) โจทก์จึงขอให้ระหว่างราชอาณาจักรไทยและญี่ปุ่นสำหรับความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจเพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ โดยให้การว่า การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว คดีนี้ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ โดยบริษัท โตโยต้าฯโจทก์ ไม่ต้องชำระภาษี จำเลยทั้งสองยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คดีชำนาญพิเศษพิพากษากลับ ให้บริษัท โตโยต้าฯ หรือโจทก์ แพ้คดี โดยจะต้องชำระเงินค่าภาษีอากรตามการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของหน่วยงานรัฐ
บริษัท โตโยต้าฯ โจทก์ฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ชิ้นส่วนรถยนต์ที่โจทก์นำเข้าเมื่อประกอบเข้าด้วยกันแล้วมีลักษณะอันเป็นสาระสำคัญของรถยนต์โตโยต้า รุ่นพรีอุส และสามารถนำไปประกอบเป็นรถยนต์โตโยต้ารุ่นพรีอุสได้ทันที จึงต้องจำแนกเข้าประเภทพิกัดของชิ้นส่วนที่สมบูรณ์หรือสำเร็จแล้วที่นำเข้ามา โดยถอดแยกออกจากกัน หรือยังไม่ได้ประกอบเข้าด้วยกันในฐานะที่เป็นชิ้นส่วนครบชุดสมบูรณ์ ประเภทพิกัด 8703.23.41 หรือ 8703.23.51 (ตามช่วงเวลาที่นำเข้า) ตามหลักเกณฑ์การตีความพิกัดอัตราศุลกากร ข้อ 1 ข้อ 2 (ก) และ ข้อ 5 ในภาค 1 ท้ายพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2539
...
บริษัท โตโยต้าฯ โจทก์จึงไม่ได้รับยกเว้นอากรและลดอัตราอากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ออกมาเพื่อให้เป็นไปตาม ความตกลง JTEPA และไม่ได้รับสิทธิยกเว้นอากรตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากร และยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530
(ฉบับที่ 18) ลงวันที่ 13 ต.ค. 2553
ทั้งไม่ได้รับสิทธิลดอัตราอากรในอัตราอากรขาเข้าร้อยละ 30ตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การลดอัตราอากรและยกเว้นอากรศุลกากรตามมาตรา 12 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530 การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ให้คิดอัตราอากรขาเข้าร้อยละ 80 ชอบแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน ส่วนประเด็นอื่นศาลไม่รับวินิจฉัย.