ผมเขียนถึงปัญหาเศรษฐกิจโลกและความทุกข์ยากต่างๆที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งจะมีผลกระทบมาถึงประเทศไทยของเรามาหลายวัน ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้ท่านผู้อ่านอกสั่นขวัญหาย หรือท้อแท้ใจแต่อย่างใดนะครับ

ในทางตรงข้ามกลับต้องการที่จะให้ท่านผู้อ่านรับรู้รับทราบถึงสถานการณ์ที่แท้จริงที่กำลังเกิดขึ้น เผื่อจะได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะรับมือกับปัญหาและอุปสรรคเหล่านั้นเสียมากกว่า

แต่มาคิดดูอีกที การพูดถึงเรื่องที่มีผลในทางลบบ่อยๆนั้น ก็อาจจะทำให้ผู้ที่ได้ยินได้ฟังหรือได้อ่านรู้สึกท้อถอยขึ้นมาได้เหมือนกัน

ดังนั้น จึงควรที่จะนำเรื่องดีๆหรือข่าวดีๆมาเขียนถึงสลับฉากเสียบ้าง จะได้รู้สึกใจชื้นและมีกำลังใจที่พร้อมจะเดินไปข้างหน้าอย่างมีความหวังไม่มากก็น้อยต่อไป

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี่เองครับ แพลตฟอร์มหรือเว็บไซต์ด้านการท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก www.agoda.com ได้เปิดเผยถึง “จุดหมายปลายทางยอดนิยม” ที่นักท่องเที่ยวประสงค์จะไปเยือน และได้ “จอง” บริการต่างๆ เช่น โรงแรมที่พัก หรือตั๋วเครื่องบิน ฯลฯ ล่วงหน้าไว้แล้ว ระหว่างเดือน พ.ค.ถึง ส.ค. ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของยุโรป เรียงตามลำดับความนิยมรวม 15 จุดหมายปลายทางด้วยกัน

ปรากฏว่า Bangkok หรือ กรุงเทพมหานคร ของเรากลับมาครองอันดับ 1 อีกครั้ง หลังจากประเทศไทยประกาศเปิดประเทศ และยกเว้นการลงทะเบียน Thailand Pass ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นมา

โดยมีเกาะ เชจู ของเกาหลีใต้เป็นอันดับ 2 ตามมาด้วย กัวลาลัมเปอร์ (อันดับ 3), โตเกียว (อันดับ 4), โซล (อันดับ 5), สิงคโปร์ (อันดับ 6), บาหลี (อันดับ 7), พัทยา (อันดับ 8), มะนิลา (อันดับ 9), ปีนัง (อันดับ 10), ฮ่องกง (อันดับ 11), ปูซาน (อันดับ 12), โอซากา (อันดับ 13), ยะโฮร์บาห์รู (อันดับ 14) และ ไถจง (อันดับ 15)

...

ได้เห็นอันดับต่างๆที่ว่านี้แล้ว ในฐานะคนไทยและเป็นพลเมืองของ กรุงเทพมหานคร อยู่ด้วย จึงอดที่จะปลื้มใจเสียมิได้ที่มหานครของเรายังเป็นที่ 1 ในการ “อยากไป” และ “อยากเที่ยว” ของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

แม้จะเป็นการจองผ่านเว็บไซต์นี้เพียงเว็บไซต์เดียวก็ตามที...แต่เนื่องจากเป็นเว็บที่ให้บริการด้านท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีลูกค้าใช้บริการมากที่สุดเว็บหนึ่ง เมื่อผลออกมาเช่นนี้ผมก็พลอยมีความสุขไปด้วย

ขณะเดียวกัน แม้รายชื่อที่แถลงออกมาจะมีแต่ประเทศในเอเชียเท่านั้น ไม่มีประเทศอื่นๆเลย ทำให้สงสัยว่าประเทศหรือเมืองที่มีชื่อเสียงด้านท่องเที่ยว เช่น ลอนดอน, ปารีส, นิวยอร์ก ฯลฯ หายไปไหน...นักท่องเที่ยวไม่จองไปเที่ยวบ้างเชียวหรือ?

ก็ไม่เป็นไรครับ ถึงหากจะเป็นการสำรวจความประสงค์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เลือกมาเอเชียเท่านั้นในฤดูร้อนปีนี้ ไม่ควรสรุปเป็นจุดหมายปลายทางของโลกทั้งหมด

แต่อย่างน้อยเราก็ได้แชมป์เอเชียอยู่ดี...เหนือกว่าเมืองดังทุกเมืองในเอเชีย แค่นี้ก็น่าภูมิใจแล้วครับ

สำนักงานใหญ่ของบริษัทออนไลน์ระดับโลกบริษัทนี้อยู่ที่สิงคโปร์ครับ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ.2005 หรือ 17 ปีที่แล้ว...โดยให้บริการผ่านเว็บไซต์ www.agoda.com ดังกล่าว และผ่านแอปพลิเคชันซึ่งตั้งค่าภาษาไว้ถึง 38 ภาษา ครอบคลุมภาษาหลักๆของโลกครบถ้วน

เมื่อปีกลายอโกด้าแถลงข่าวว่า บริษัทมีเครือข่ายที่เป็นโรงแรม อพาร์ตเมนต์ บ้านพัก ห้องพักแบ่งเช่าในบ้าน ฯลฯ กว่า 2 ล้าน 5 แสนหน่วยทั่วโลก

แต่ก็เคยมีข่าวว่ารัฐบาลบางประเทศรวมทั้งรัฐบาลไทยเราด้วยขอให้ปลดชื่อโรงแรม หรือบ้านพักที่ไม่ถูกต้องทางกฎหมายออกจากรายชื่อด้วย เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาในการให้บริการ

นอกจากสำนักงานใหญ่ที่สิงคโปร์แล้ว อโกด้ายังมีสำนักงานสาขาไปปักหลักตามเมืองใหญ่ๆ เช่น เทลอาวีฟ, โซล และ กรุงเทพฯ เป็นต้น

มีรายงานว่า อโกด้ามีพนักงานทำงานในประเทศต่างๆไม่น้อยกว่า 4,000 คน แต่ก็ต้องปลดออกไปถึง 1,500 คน ในช่วงโควิด-19 ระบาด ซึ่งเป็นผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวตกต่ำอย่างหนักทั่วโลก และอโกด้าย่อมหนีไม่พ้นที่จะต้องประสบปัญหาดังกล่าวไปด้วย

หวังว่าการแถลงข่าวครั้งนี้นอกจากจะเป็นข่าวดีสำหรับประเทศไทยว่ากรุงเทพฯของเราเป็นเมืองยอดนิยมอันดับ 1 และพัทยาก็เป็นอันดับ 8 ดังกล่าวแล้ว ยังถือเป็นข่าวดีของบริษัทท่องเที่ยวต่างๆด้วย

อย่างน้อยก็อโกด้า 1 บริษัทละครับ ที่พร้อมแล้วที่จะกลับมาให้บริการคนชอบเที่ยวและชอบเดินทางทั่วโลกต่อไป.

“ซูม”