อุบัติเหตุสยองรับอรุณ กระบะส่งของซิ่งมาด้วยความเร็วสูงบนถนนพระราม 3 แหกโค้งเสียหลักชนคันหินแบ่งช่องทางรถบีอาร์ทีพลิกคว่ำเพลิงลุกไหม้เกิดระเบิดหลายครั้ง คนขับและผู้โดยสารเป็นชายถูกไฟไหม้เกรียมเสียชีวิตคาที่อยู่ข้างรถ 2 ศพ วอนเจ้าหน้าที่พิจารณาเอาคันหินแบ่งช่องทางรถบีอาร์ทีออก เพราะทำให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงบ่อยครั้ง

อุบัติเหตุสยองทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 2 ก.ค. ร.ต.ท. สราวุฒิ สุขสวัสดิ์ รอง สว. (สอบสวน) สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุรถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำเกิดไฟลุกไหม้มีผู้เสียชีวิตหน้าบริษัท สมาร์ท บอม จำกัด เลขที่ 774 ถนนพระราม 3 ฝั่งขาออก แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม. ไปตรวจสอบพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุอยู่ช่องทางขวาสุด เป็นช่องทางสำหรับรถโดยสารบีอาร์ที พบรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฒง 8992 กรุงเทพมหานคร ตีโครงหลังคาเหล็กสูงพลิกตะแคงขวาเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีเสียงระเบิดดังเป็นระยะ ข้างรถพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 2 ราย ทราบชื่อคนขับนายอุทัย สาทิพย์จันทร์ อายุ 30 ปี และนายธีรศักดิ์ สุขทวี อายุ 25 ปี สภาพศพดำเป็นตอตะโกอยู่ข้างรถ เจ้าหน้าที่เร่งฉีดน้ำดับไฟนาน 15 นาทีจึงสงบ ตรวจสอบบริเวณกระบะหลังพบถังสารเคมีไม่ทราบชนิด 1 ถัง ส่วนถังน้ำมันหลุดหายไป

สอบสวนนางวิไลวรรณ จันทร์คง อายุ 43 ปี พนักงานกวาดถนนสำนักงานเขตยานนาวา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังกวาดถนนอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ พบรถกระบะคันดังกล่าวขับมาช่องทางขวาสุดด้วยความ เร็วสูง เสียหลักทับคันหินปูนที่ใช้กั้นช่องทางรถบีอาร์ทีจนรถพลิกคว่ำและเกิดระเบิดดังขึ้น 2 ครั้งแล้วไฟลุกไหม้อย่างรุนแรง คาดว่าในรถบรรทุกถังสารเคมีมาด้วย ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วและรุนแรง

...

“อุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก อยากฝากถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ให้ช่วยเอาคันหินปูนเจ้าปัญหานี้ออกไปที รถที่ไม่ชินเส้นทางชนคันหินแล้วเกิดอุบัติเหตุไม่เว้นแต่ละวัน เบาบ้างหนักบ้าง เคยมีรถ จยย.เสียหลักชนคันหินหรือแท่งปูนแล้วไฟไหม้ตายมาแล้ว แท่งปูนเจ้าปัญหานี้กิน 3 ท้องที่คือ สน.บางโพงพาง สน.ทุ่งมหาเมฆ และ สน.วัดพระยาไกร แค่ตีเส้นแบ่งช่องทางก็พอแล้ว รถทั่วไปจะได้ใช้ช่องทางร่วมได้ ทุกวันนี้ก็มีรถวิ่งเข้าช่องรถบีอาร์ทีจนเป็นเรื่องปกติแล้วชาวบ้านรู้ดี ลองไปดูแท่งปูนตลอดเส้นทางได้เลย มีรอยรถทับรถชนตลอดเส้นทาง” นางวิไลวรรณกล่าว

ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุพบว่า ช่วงก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร เป็นช่วงทางโค้งขวา เห็นภาพรถกระบะคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูงแล้วหลุดโค้ง ทำให้รถเสียหลักปีนแท่งปูนคันหินแบ่งช่องทางรถบีอาร์ทีจนพลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นทันทีโดยไม่มีคู่กรณี ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ศพดังกล่าว

ร.ต.ท.สราวุฒิ สุขสวัสดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถทราบว่า เป็นผู้หญิง ขายรถต่อให้เต็นท์รถไปแล้วแต่ยังไม่มีการโอนชื่อ สอบถามแฟนนายอุทัยคนขับรถที่เสียชีวิต รู้เพียงว่านายอุทัยมีอาชีพขับรถส่งของ ก่อนเกิดเหตุขับรถมาจากย่านคลองเตยกำลังจะไปท่าเรือสาธุประดิษฐ์ แต่มาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน เบื้องต้นมอบศพให้ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูส่งตรวจพิสูจน์ที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯต่อไป

ต่อมาเวลา 16.30 น.ที่บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงกรณีอุบัติเหตุรถกระบะชนแนวคันหินกั้นเส้นทางเดินรถบีอาร์ทีบริเวณถนนพระราม 3 ไฟไหม้ทั้งคัน มีผู้เสียชีวิต 2 ศพว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วขอดูรายละเอียดอีกที จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีส่วนในการตัดสินใจทบทวนการเดินรถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษหรือบีอาร์ที ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการน้อย คุ้มทุนหรือไม่ รวมถึงช่องทางกั้นมีความปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนจนทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จะมอบหมายให้นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม.ดูรายละเอียดอีกครั้ง