"มนัญญา" เตรียมตั้งวอร์รูมแก้หนี้สหกรณ์ 1.8 หมื่นล้าน เร่งช่วยเหลือคืนเงินสมาชิกให้เร็วที่สุด เน้นย้ำสหกรณ์ช่วยกันป้องกันการทุจริต ยกระดับตรวจสอบเข้มข้น


เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.65 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการ "แนวทางการปฏิบัติงานรองนายทะเบียนสหกรณ์" พร้อมทั้งมอบนโยบายในการกำกับดูแลสหกรณ์ทั่วประเทศ และบรรยายพิเศษ หัวข้อ "นโยบายด้านการส่งเสริม กำกับ ดูแลสหกรณ์" เพื่อป้องกันการเกิดข้อบกพร่องและการทุจริตในระบบสหกรณ์ โดยมี นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ คณะผู้บริหาร สหกรณ์จังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1, 2 ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ต้อนรับ ณ โรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ มหานาค กรุงเทพฯ



นางสาวมนัญญา กล่าวว่า ได้เตรียมตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการทุจริตในสหกรณ์ ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งจะรวบรวมหนี้ที่มีการทุจริตในระบบสหกรณ์ทั้งสหกรณ์การเกษตรและสหกรณ์ออมทรัพย์ เบื้องต้น 18,000 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมาจากการสั่งการให้ทุกจังหวัดรวบรวมเข้ามา ตัวเลขทุจริตเหล่านี้ จะนำมาใช้ในการแก้ไขตามกรณีแต่ละสหกรณ์ ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

"เป็นที่ทราบกันดีว่า ที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ต่างๆ ส่งผลกระทบต่อขบวนการสหกรณ์ ซึ่งจากนี้จะขับเคลื่อนการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในระบบสหกรณ์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้กำชับติดตามความคืบหน้าและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ รวมถึง ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานต่างๆ ตามที่นายกฯ ได้มอบหมาย ล่าสุดความเสียหายประมาณ 18,000 ล้านบาท โดยจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และจะมีการตั้งวอร์รูม เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นศูนย์รวบรวมข้อมูลของทุกสหกรณ์จังหวัด มีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ทำงานร่วมกันในการตรวจสอบ โดยมีตนเป็นประธานเพื่อให้ทรัพย์สินที่ยึดคืนมา คืนกลับให้สมาชิกสหกรณ์ให้เร็วที่สุด ซึ่งจะมีการเปิดอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ นอกจากนั้นขอเน้นย้ำให้ทุกสหกรณ์ใช้แอปพลิเคชันของสหกรณ์เพื่อเปิดให้สมาชิกสามารถเข้ามาตรวจสอบสถานะทางการเงินให้เป็นปัจจุบัน" รมช.มนัญญา กล่าว

...



ด้าน นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาการทุจริตในระบบสหกรณ์ออมทรัพย์ ว่า กรมฯ รับนโยบายจากนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ ที่ขณะนี้ได้ให้ความสำคัญต่อการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นพิเศษ เนื่องจากสหกรณ์ออมทรัพย์ในประเทศไทยปัจจุบันมีกว่า 1,400 แห่ง ทุนดำเนินงานกว่า 2.74 ล้านล้านบาท โดย รมช.เกษตรฯ ได้สั่งการให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปติดตามดูแลระบบการเงินของสหกรณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งหาแนวทางป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดทุจริตซ้ำเหมือนกับที่ผ่านมา กรมฯ จึงได้สั่งการให้ทุกจังหวัดกำชับคณะกรรมการสหกรณ์วางระบบการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ให้เป็นไปตามระเบียบของนายทะเบียนสหกรณ์และข้อบังคับของแต่ละสหกรณ์อย่างเคร่งครัดนั้น เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาชิก

"กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มอบหมายให้สหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัดเข้าไปแนะนำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ในพื้นที่ที่รับผิดชอบจัดทำแอปพลิเคชันของแต่ละสหกรณ์เพื่อให้สมาชิก สามารถตรวจสอบยอดเงินในบัญชีของตัวเองได้ตลอดเวลา และกำหนดให้เป็นตัวชี้วัดการปฏิบัติงานของสหกรณ์จังหวัดทุกจังหวัด ปัจจุบันสหกรณ์ออมทรัพย์มีทั้งหมด 1,400 กว่าแห่งทั่วประเทศ โดยกรมฯ ได้ตั้งเป้าหมายว่าสิ้นปี 2565 จะมีสหกรณ์ออมทรัพย์ประมาณ 500 แห่ง ที่สามารถจัดทำแอปฯ ดังกล่าวได้ และควรสนับสนุนให้สมาชิกใช้บริการไม่น้อยกว่าร้อยละ 90" อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว



สำหรับโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการแนวทางการปฏิบัติงานของรองนายทะเบียนสหกรณ์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 14 มิ.ย.65 เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภารกิจของรองนายทะเบียนสหกรณ์ที่ได้รับมอบหมายจาก นายทะเบียนสหกรณ์ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายสหกรณ์อนุบัญญัติ แนวทางปฏิบัติตามกฎหมายสหกรณ์ แนวทางปฏิบัติงานในการกำกับ ดูแล และส่งเสริมสหกรณ์ ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้กรณีปัญหา และแนวทางการแก้ไขปัญหา.