อดีตพระกาโตะซุ่มแจ้งความดำเนินคดี “สีกาตอง” ข้อหารีดเอาทรัพย์สิน คณะพนักงานสอบสวน บช.ก. เรียกสอบกราวรูดทั้ง “อุ๊บ วิริยะ-หมอปลา-สีกาตอง” และผู้เกี่ยวข้องทยอยเข้าให้ปากคำ “อุ๊บ วิริยะ” ควงทนายเข้าพบ ปัดไม่รู้ไม่เห็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาก่อน และไม่ได้เป็นผู้อยู่เบื้องหลังสนับสนุนสีกาตองเรียกเอาทรัพย์สิน ส่วน “หมอปลา” เข้าให้ปากคำเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยันไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่เท่าที่รู้อดีตพระกาโตะเสนอให้สีกาตองเอง
กรณีข่าวฉาวความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งของอดีตพระกาโตะ นายพงศกร หรือแรมโบ้ จันทร์แก้ว กับ น.ส.พริมวรินทร์ พิธาวรเสฐ หรือสีกาตอง ทำให้อดีตพระนักเทศน์ชื่อดังยอมลาสิกขา ต่อมา พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.แต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน บช.ก.ดำเนินการคดีดังกล่าว พบว่าอดีตพระกาโตะเบิกเงินวัดไป 6 แสนบาท ถูกเรียกตัวมาดำเนินคดีข้อหายักยอกเงินวัดเพ็ญญาติ ต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช แต่ยืนยันว่านำเงินดังกล่าวโอนคืนไปแล้ว แต่ระหว่างเข้าพบพนักงานสอบสวน อดีตพระกาโตะตัดสินใจแจ้งข้อหาดำเนินคดีสีกาตอง ข้อหาข่มขู่รีดเอาทรัพย์อย่างเงียบๆ คณะพนักงานสอบสวนซุ่มรวบรวมพยานหลักฐานเป็นที่มาของการเรียกผู้เกี่ยวข้องเข้าให้ปากคำ
...
ความคืบหน้าจากกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. นายวิริยะ พงษ์อาจหาญ หรืออุ๊บ-วิริยะ พร้อมด้วย น.ส.ชลวิภา วิริยะกุล หรือทนายเฟิร์น เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตามหมายเรียก เพื่อให้ปากคำในฐานะพยานคดีนายพงศกร หรือแรมโบ้ จันทร์แก้ว หรืออดีตพระกาโตะ อายุ 23 ปี แจ้งความร้องทุกข์เอาผิดสีกาตอง ฐานความผิดข่มขู่รีดเอาทรัพย์ กรณีถูกข่มขู่เรียกเงินเพื่อปกปิดเรื่องฉาวที่เกิดขึ้น
อุ๊บ-วิริยะกล่าวว่า วันนี้ได้รับการติดต่อจากตำรวจเพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยาน คดีอดีตพระกาโตะกับสีกาตอง เนื่องจากก่อนหน้านี้สีกาตองเคยติดต่อตน ขอให้ไปออกรายการโหนกระแสด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้จัดการของสีกาตอง และไม่เคยทราบเรื่องอื้อฉาวดังกล่าวมาก่อน มาทราบเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนให้คำปรึกษาและตักเตือนสีกาตองว่า ไม่สนับสนุนการกระทำที่ปรากฏในเรื่องอื้อฉาวและให้ขอโทษสังคม ยืนยันว่าตนไม่ใช่ผู้อยู่เบื้องหลัง
“วันนี้ขอชี้แจงถึงความจริงที่เกิดขึ้นและยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่า ไม่เคยให้การสนับสนุนสีกาตอง เพียงให้คำปรึกษาเรื่องต่างๆเท่านั้น พร้อมให้ตำรวจตรวจสอบเส้นทางการเงิน นอกจากนี้ ยังถูกผู้คนพาดพิงและต่อว่า แต่ผมแยกแยะได้ว่าอะไรผิดอะไรถูก มีความคิดจะดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้นแต่ต้องขอปรึกษาทนายความก่อน อย่างไรก็ตามคงไม่ตัดขาดสีกาตอง เพราะเคยตั้งใจจะนำมาร่วมงานกัน แต่มาเกิดเรื่องก่อน ทั้งนี้ยังได้ข่าวอีกว่า หลังเกิดเรื่องสีกาตองมีอาการเครียดจนไม่สบาย ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ จ.นครปฐม” อุ๊บ-วิริยะกล่าว
ด้าน น.ส.ชลวิภา หรือทนายเฟิร์น เผยว่า การเข้าพบพนักงานสอบสวนวันนี้ เนื่องจากอดีตพระกาโตะแจ้งความสีกาตองเรื่องการรีดเอาทรัพย์ อดีตพระกาโตะน่าจะแจ้งข้อมูลว่า สีกาตองปรึกษากับนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา และนายวิริยะ เป็นที่มาของการเข้าพบพนักงานสอบสวนวันนี้ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว ส่วนจะดำเนินคดีความระหว่างสีกาตองกับอดีตพระกาโตะอย่างไร ไม่ยุ่งเกี่ยว เพราะนายวิริยะไม่ใช่ผู้สนับสนุนหรือผู้อยู่เบื้องหลังรายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคดีอดีตพระกาโตะตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีกับสีกาตองนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 พ.ค. หลังจากอดีตพระกาโตะเข้าพบคณะพนักงานสอบสวนตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อรับทราบข้อหายักยอกทรัพย์ กรณีเบิกถอนเงินวัดไปจ่ายปกปิดเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น หลังเสร็จสิ้นการให้ปากคำแล้วอดีตพระกาโตะยื่นแสดงความจำนงต้องการแจ้งความเอาผิดสีกาตอง ฐานความผิดรีดเอาทรัพย์กรณีถูกข่มขู่เรียกเงิน นำมาสู่การรับเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวอย่างละเอียด เพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย
มีรายงานข่าวอีกว่า ในส่วนคดีอดีตพระกาโตะ แจ้งเอาผิดสีกาตองกรณีข่มขู่เรียกเงินนั้น นอกจากการออกหมายเรียกนายวิริยะ พงษ์อาจหาญ หรืออุ๊บ-วิริยะ เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำในฐานะพยานครั้งนี้แล้ว คณะพนักงานสอบสวน บช.ก. ประกอบด้วย บก.ปปป.และ บก.ป. ยังออกหมายเรียกนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา มาพบอีกราย นอกจากนี้ ยังเตรียมออกหมายเรียกพยานบุคคลมาพบเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมอีกหลายราย อาทิ พระดอน สีกาตอง และพี่ชายของสีกาตอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการออกหมายเรียก
ต่อมาเวลา 12.20 น. นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา เดินทางเข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมเปิดเผยว่า วันนี้ตำรวจเรียกตนเข้าให้ปากคำถึงคดีที่เกิดขึ้น เนื่องจากสีกาตองเคยติดต่อกับตน เนื่องจากต้องการให้เปิดโปงพฤติกรรมของอดีตพระกาโตะ แต่สีกาตองกลับส่งหลักฐานให้อดีตพระย้อย ยืนยันว่าตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเงิน จึงเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อชี้แจงและแสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังจากเกิดเรื่องตนแทบไม่ได้พูดคุยกับสีกาตองเลย ไม่รู้สึกกังวลอะไร
“ส่วนเรื่องเงินเท่าที่ทราบ อดีตพระกาโตะเป็นผู้เสนอให้สีกาตองเอง ส่วนกรณีมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงผมนั้น จากนี้ยังจะทำงานของตัวเองต่อไป หากไม่ทำต่อแล้วใครจะทำ ผมอาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 2 ที่ให้พุทธศาสนิกชนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนกลไก หากมีการขับเคลื่อนกลไกต่างๆคงไม่มีประชาชนร้องเรียนมาที่ผม เรื่องที่เกิดขึ้นไม่บั่นทอน แค่รู้สึกรำคาญที่ต้องไปศาลหรือสถานีตำรวจ” หมอปลากล่าว
...