กองปราบฯจับเงียบคนใกล้ชิดสมเด็จพระวันรัต ยักยอกทรัพย์มากกว่า 80 ล้านบาท อยู่ระหว่างเร่งติดตามเงินและขยายผลผู้เกี่ยวข้อง เผยคนร้ายใช้ช่องที่พระสายธรรมยุตไม่จับต้องเงินก่อเหตุยักยอก ส่วนใหญ่เป็นเงินบูรณะวัดบวรนิเวศฯและวัดสาขา ด้าน ผอ.พศ.ระบุทราบเรื่องแล้ว เป็นเรื่องภายในวัด พศ.ไม่เกี่ยวข้อง
เกิดเหตุฉาวโฉ่ภายในวัดบวรนิเวศวิหารหลังสมเด็จพระวันรัต (จุนท์ พฺรหฺมคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ผู้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต กรรมการมหาเถรสมาคม ประธานคณะสนองงานในสมเด็จพระสังฆราช และเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหารราชวรวิหาร มรณภาพ เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า คณะกรรมการวัดฯตรวจสอบพบคนสนิทสมเด็จพระวันรัตยักยอกเงินของวัดบวรนิเวศวิหารและวัดสาขา แล้วนำไปใช้ส่วนตัวเป็นเงินจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 2 เม.ย. นายสิปป์บวร แก้วงาม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เป็นเรื่องภายในวัดบวรนิเวศวิหาร พศ.ไม่เกี่ยวข้อง วัดบวรนิเวศฯมีรักษาการเจ้าอาวาส มีคณะกรรมการวัดที่จะดำเนินการเองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินของสมเด็จพระวันรัต หรือของพระสงฆ์ เมื่อมรณภาพ ทรัพย์สินทั้งหมดจะตกเป็นของวัดผู้ใดจะมายักยอกไม่ได้
ขณะเดียวกัน มีรายงานจากวัดบวรนิเวศวิหารว่า บรรยากาศในวัดเป็นไปอย่างเงียบสงบ ส่วนบริเวณอาคารอาภากร อาคารที่พำนักสมเด็จพระวันรัตถูกปิดเงียบ สอบถามพระในวัด ส่วนใหญ่ทราบว่ามีเหตุเกิดขึ้นจริง มีคำสั่งจากพระธรรมวชิรญาณ(จิรพล) รักษาการเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร และพระธรรมวิสุทธาจารย์ (แสวง) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศฯ ในฐานะประธานคณะกรรมการวัดฯ ให้ดำเนินการอย่างเงียบๆ ไม่ให้เสื่อมเสียถึงสมเด็จพระวันรัตและชื่อเสียงวัดบวรนิเวศฯ ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นพิธีสวดพระอภิธรรมศพสมเด็จพระวันรัต ครบ 7 วัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้เข้าจับกุมผู้ที่ยักยอกทรัพย์สินสมเด็จพระวันรัตแล้ว 1 คน เป็นอดีตผู้ทำงานรับใช้ใกล้ชิดมานาน 20 ปี ตามหมายจับศาลอาญา รัชดา อยู่ระหว่างเร่งติดตามเงินที่เหลือกลับคืนมา รวมทั้งขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง
...
มีรายงานด้วยว่า ทรัพย์สินที่ถูกยักยอกไปจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีประมาณ 80 ล้านบาท เป็นเงินในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศวิหาร และ วัดสาขา แต่อาจจะมีมากกว่านั้น เนื่องจากสมเด็จพระวันรัตทำหลายหน้าที่ ทั้งเจ้าอาวาสวัดบวรฯ เจ้าคณะใหญ่คณะธรรมยุต เป็นต้น ทั้งนี้ สมเด็จพระวันรัตมอบความไว้วางใจให้กับผู้ใกล้ชิดคนดังกล่าวมาก หลังเข้ามาบวชเป็นพระนวกะ เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน สมเด็จพระวันรัตให้ติดตามรับใช้อย่างใกล้ชิด และรับผิดชอบกิจนิมนต์ และให้เป็นธุระเกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเงิน ซึ่งพระสายธรรมยุต มีธรรมเนียมคือไม่จับต้องเงินด้วยตนเอง จะให้ลูกศิษย์หรือผู้ใกล้ชิด หรือไวยาวัจกรดำเนินการแทน จนเป็นช่องให้เกิดการ ยักยอกทรัพย์ของสมเด็จพระวันรัต หลังการมรณภาพมีรายงานอีกด้วยว่า ผู้ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีรายนี้ เคยปรากฏชื่อร่วมเดินทางไปปฏิบัติภารกิจด้านศาสนาที่ต่างประเทศพร้อมสมเด็จพระวันรัต หลายครั้ง ระบุว่าเป็นไวยาวัจกรด้วย