สปสช. 3 ย้ำช่องทางลงทะเบียน แนะผู้ติดเชื้อไม่มีอาการ ไม่มีความเสี่ยง รักษาแบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” ยืนยัน ไม่เสียค่าใช้จ่าย
วันที่ 4 มี.ค. 2565 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงประเด็นปรับระบบ 1330 ลดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตกค้าง ว่า ด้วยจำนวนที่มีการโทรเข้ามามากถึง 70,000 สาย จะทำให้ส่วนหนึ่งพบว่าสายไม่ว่าง แต่ทั้งนี้ยังมี 3 ช่องทางคือ
- สายด่วน 1330 กด 14 เพื่อลงทะเบียนเข้าระบบ Home Isolation
- ลงทะเบียนด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ (คลิกที่นี่)
- แอดไลน์ สปสช. @nhso
- เลือกเมนูบริการเกี่ยวกับโควิด-19
- เลือกลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการดูแลที่บ้าน (Home Isolation)
ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 1 มี.ค. 2565 เป็นต้นมา มีจิตอาสาเข้ามาช่วยตอบเพิ่มมากขึ้น ที่ผ่านมาเคยมีอัตราการโทรศัพท์เข้ามาแล้วไม่มีผู้รับสายสูงถึงครึ่งหนึ่งของสายที่เข้ามา แต่ปัจจุบันลดลงเหลือไม่ถึง 1 ใน 4 ของสายที่ค้าง ในจำนวนสายที่ค้างก็จะมีเจ้าหน้าที่ทยอยติดต่อกลับไป
นอกจากนี้ ยังมีการเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอก “เจอ แจก จบ” เพื่อดูแลผู้ป่วยกลุ่มติดเชื้อไม่มีอาการ และไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง ไม่ต้องลงทะเบียน แต่สามารถติดต่อหน่วยบริการตามสิทธิ์การรักษาได้เลย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย รัฐบาลยังดูแลให้ แต่หากติดเชื้อโดยเป็นกลุ่มเสี่ยงก็ให้ลงทะเบียนเข้าระบบ Home Isolation เจ้าหน้าที่จะจับคู่หน่วยบริการมาดูแล
...
ทางด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า ในส่วนของผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ลงทะเบียนเข้าสู่ระบบการรักษาที่บ้านกับสายด่วน 1330 รวมถึงช่องทางไลน์และเว็บไซต์ สปสช. หากยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากหน่วยบริการภายใน 6 ชั่วโมง ขอให้ดูแลตัวเองเบื้องต้นไปตามอาการ หากมีไข้หรือไอ กินยาลดไข้ ยาแก้ไอ และผู้ติดเชื้อโควิด-19 สามารถไปโรงพยาบาลตามสิทธิรักษาหรือใกล้บ้าน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัด 14 จังหวัดรอบ กทม. ได้แก่ นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี, นครนายก, สิงห์บุรี, อ่างทอง, นครปฐม, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สุพรรณบุรี, สมุทรปราการ, ชลบุรี, ฉะเชิงเทรา, โรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิตและสังกัดกรมควบคุมโรค เพิ่มศักยภาพให้การดูแลแบบผู้ป่วยนอก เจอ แจก จบ ให้เพิ่มขึ้น โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้
ทั้งนี้แนะนำให้ โทรศัพท์นัดหมายก่อน เพื่อเข้าระบบการรักษาแบบผู้ป่วยนอก และกลับมากักตัวที่บ้านอีก 7-10 วัน ตามที่แพทย์แนะนำ โดยแต่ละกองทุนสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็น สปสช. สำนักงานประกันสังคม และกรมบัญชีกลาง จะตามจ่ายให้กับผู้ป่วยตามสิทธิ์การรักษาที่มี
ในส่วนของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ หรือประชาชนที่ตรวจ ATK 2 ครั้งแล้วขึ้น 2 ขีด หากเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 คือ ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป, ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว 7 โรค คือ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคไตวายเรื้อรัง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคอ้วน, โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน และหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ให้ติดต่อสายด่วน 1330 กด 14 เพื่อประเมินอาการเบื้องต้นและเข้ารักษาตามระบบต่อไป แต่หากไม่ใช่กลุ่ม 608 และไม่มีอาการ-อาการเล็กน้อย รักษาตามอาการและกักตัวอยู่ที่บ้านได้ ไม่จำเป็นต้องแจ้งภาครัฐหรือ โทร.1330 ทุกราย เนื่องจากรักษาตามอาการได้ตามแนวทางใหม่ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เช่นกัน.