รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุม เตรียมนับถอยหลังเปิดให้บริการรถไฟฟ้าชานเมือง สายสีแดง อย่างเป็นทางการ พร้อมกำชับหน่วยงานในสังกัด "คมนาคม" ติดตามข่าวสารที่เผยแพร่ในโซเชียล เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ ปชช.อย่างทันท่วงที
เมื่อวันที่ 22 พ.ย.64 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการและการบริหารโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) และสถานีกลางบางซื่อ ครั้งที่ 7/2564 เพื่อติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินงานการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ผ่านการประชุมทางไกล (Video Conference) โดยมี นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบกและประธานกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงบประมาณ หัวหน้าหน่วยงาน และผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
โดย นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมจะเริ่มเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าชานเมือง (สายสีแดง) ในวันที่ 29 พ.ย.64 ปัจจุบันรถไฟฟ้าสายสีแดงมียอดผู้โดยสารโดยเฉลี่ยวันละ 8,817 คน ซึ่งมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) และ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ปรับปรุงเส้นทางรถโดยสารประจำทาง เพื่อรองรับการเดินทางของโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) รวมถึงรถไฟทางไกลและรถไฟชานเมืองแล้ว ซึ่งตารางการเดินรถจะสอดคล้องกับตารางรถไฟ เพื่อความสะดวกในการเชื่อมต่อการเดินทาง
...
นอกจากนี้ยังมีข้อสั่งการในประเด็นการให้บริการเดินรถเข้าสู่สถานีหัวลำโพง ให้ รฟท.ทบทวนข้อมูลแผนการเดินรถให้รอบด้าน โดยพิจารณาให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งมิติการบริหารจราจร และมิติการให้บริการประชาชน โดยพิจารณาการปรับรูปแบบและจำนวนรถไฟให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของประชาชน รวมถึงความเป็นไปได้ในการปรับให้ขบวนรถไฟวิ่งนอกชั่วโมงเร่งด่วน เป็นต้น และได้มอบหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเวทีสาธารณะชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นของทุกภาคส่วน และจัดทำข้อมูลให้ชัดเจนในประเด็นนี้ เพื่อหาข้อยุติและแก้ปัญหาให้ได้ทุกมิติ รวมถึงมาตรการเยียวยาต่างๆ รวมถึงการให้ข้อมูลด้านการพัฒนาหัวลำโพงให้เห็นภาพรวมทุกประเด็น ทั้งการอนุรักษ์อาคารและการพัฒนาเชิงพาณิชย์ รวมถึงการบริหารสถานีกลางบางซื่อ โดยให้พิจารณาข้อมูลการศึกษาต่างๆที่เกี่ยวข้อง และเน้นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
ส่วนการเตรียมความพร้อมในการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ในด้านการอำนวยความสะดวกประชาชนในช่วงแรกในพื้นที่สถานีกลางบางซื่อ และสถานีรถไฟฟ้าสายสีแดง ให้ดำเนินการจัดหารถ Mobile Kiosk ที่มีความทันสมัยเพื่อให้บริการประชาชน
ที่ประชุมได้รับทราบผลการกำหนดอัตราค่าโดยสาร ความพร้อมเข้าสู่ระบบตั๋วร่วมบัตรโดยสารในการเดินทางร่วม โดยกำหนดอัตราค่าโดยสารรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) โดยใน 3 ปีแรก (2565-2568) ที่เปิดให้บริการจะมีค่าแรกเข้า 12 บาท และอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง 1.5 บาท อัตราค่าโดยสารสูงสุดในการเดินทางหนึ่งเที่ยว ไม่เกิน 42 บาทตลอดสายรวมทั้งสองช่วง เมื่อถึงปีที่เอกชนดำเนินการให้เสนอใช้อัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ รฟท. จะได้ประชาสัมพันธ์ตารางอัตราค่าโดยสาร (Fare Table) ให้ประชาชนทราบล่วงหน้าต่อไป สำหรับผู้ใช้บัตรโดยสาร 30 วัน (ตั๋วเดือน) สำหรับบุคคลทั่วไป จะมีราคาเฉลี่ยต่อเที่ยว 25-35 บาท พร้อมจัดโปรโมชั่นส่วนลดการเดินทางสำหรับเด็ก นักเรียน โดยเด็กส่วนสูงไม่เกิน 90 เซนติเมตร ได้รับยกเว้นค่าโดยสาร เด็กซึ่งมีอายุไม่เกิน 14 ปี และมีความสูงไม่เกิน 91-120 เซนติเมตร ได้รับส่วนลดร้อยละ 50 จากอัตราค่าโดยสารปกติ พร้อมทั้งมีบัตรโดยสารสำหรับนักเรียน/นักศึกษา (Student Card) อายุไม่เกิน 23 ปี จะได้รับส่วนลดร้อยละ 10 จากอัตราค่าโดยสารปกติผู้สูงอายุ อายุ 60 ปีขึ้นไป และพระภิกษุได้รับส่วนลดร้อยละ 50 จากอัตราค่าโดยสารปกติ รวมทั้งผู้พิการจะได้รับยกเว้นค่าโดยสาร
และยังได้รับทราบแผนการใช้บัตรโดยสารในการเดินทางร่วม โดย บมจ.ธนาคารกรุงไทย ได้หารือร่วมระหว่าง รฟท. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ขสมก. และบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อให้เกิดตั๋วร่วมระหว่างหน่วยงานตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม เพื่อส่งเสริมการเดินทางร่วมระหว่างระบบขนส่งมวลชนรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ รฟท.เตรียมความพร้อมการเข้าสู่ระบบตั๋วร่วม และเปิดใช้งานกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ได้ภายในเดือน ก.พ.65
นอกจากนี้ นายศักดิ์สยาม ยังได้กำชับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ติดตามข่าวสารที่เผยแพร่ในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชนอย่างทันท่วงที