นายประพาส เหลืองศิรินภา ผอ.สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) กทม. กล่าวกรณีศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้กรุงเทพมหานคร ชดใช้ค่าเสียหายกรณีจัดทำลิฟต์คนพิการที่สถานีไฟฟ้าบีทีเอสไม่แล้วเสร็จตามกำหนดว่า กทม.ยินดีปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดทุกประการ โดย สจส.จะได้ประสานสำนักงบประมาณ กทม. เพื่อพิจารณาจัดสรรงบประมาณเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดต่อไป
สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างลิฟต์คนพิการที่สถานีไฟฟ้าบีทีเอส ในส่วนสัมปทานระยะที่ 1 เมื่อปี 2558 จำนวน 52 ตัว ได้จัดให้มีลิฟต์ให้บริการครบทุกสถานี แต่ยังไม่ครบทั้งสองฝั่งสถานี เพราะมีปัญหาหลายประการ เช่น การกีดขวางของระบบสาธารณูปโภค แต่ กทม.ได้ทยอยเปิดให้บริการลิฟต์ ระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.60 และเปิดให้บริการครบทั้ง 52 ตัว เมื่อวันที่ 12 ม.ค.61 นอกจากนั้นยังได้ขอจัดสรรงบประมาณปี 2561 เพื่อก่อสร้างลิฟต์เพิ่มเติมให้ครบทั้งสองฝั่งสถานีในส่วนสัมปทานอีก 19 ตัว ในระยะที่ 2 แต่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างต้องดำเนินการถึง 3 ครั้งใช้เวลา 2 ปีครึ่ง และเริ่มก่อสร้างลิฟต์ระยะที่ 2 เมื่อวันที่ 23 ก.ค.63 ระยะเวลาดำเนินการ 450 วัน ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 15 ต.ค.64 และคาดจะเปิดให้บริการลิฟต์ในระยะที่ 2 ภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม การติดตั้งลิฟต์ในส่วนสัมปทานมีปัญหาอุปสรรคไม่สามารถติดตั้งได้ 4 ตัว ได้แก่ สถานีศาลาแดง 2 ตัว เพราะมีระบบเมนไฟฟ้าขนาดใหญ่กีดขวางตำแหน่งการก่อสร้างลิฟต์ 2.สถานีชิดลม 1 ตัว เพราะทางฝั่งคับแคบ 3.สถานีเพลินจิต 1 ตัว เพราะกายภาพคับแคบ ขณะที่ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ก่อสร้างลิฟต์และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้พิการและให้บริการประชาชนครบถ้วนแล้ว.