ปลาหมอตายเพราะปาก นักข่าวสาวโวย “ด.ต. สน.ภาษีเจริญ” พูดจาคุกคามทางเพศ ขณะเข้าไป ขอลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานเปิดใช้เบอร์โทรศัพท์ที่โรงพัก หลัง ผกก.สน.ภาษีเจริญ รู้เรื่องสั่งย้ายไปอยู่ห้องวิทยุไม่ต้องพบปะประชาชน ด้าน น.1 เต้นสั่งการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดำเนินการด้านวินัย และถ้าพบความผิดทางอาญาให้ดำเนินการด้วย
กรณีสื่อออนไลน์กระจายข่าวว่า มีผู้สื่อข่าวหญิงรายหนึ่งเข้าไปแจ้งความที่ สน.ภาษีเจริญ พร้อมเพื่อนสาว ถูก ด.ต.เกรียงกมล รักกิจ ตำแหน่งผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สน.ภาษีเจริญ พูดจาลักษณะเชิงคุกคามทางเพศ ใช้คำว่า “ใส่กางเกงในมาหรือป่าว” และขอให้เลี้ยงน้ำแลกอำนวยความสะดวกการติดต่อราชการ ความคืบหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 19 ก.ย. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า ขณะนี้ บช.น.รับเรื่องดังกล่าวแล้ว พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. สั่งการให้ พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ภาษีเจริญ ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกกล่าวหาเพื่อหาข้อเท็จจริง หากพบว่ากระทำความผิดจริงจะถูกดำเนินการลงโทษตามวินัย รวมถึงตรวจสอบว่าเข้าข่ายความผิดทางอาญาอื่นด้วยหรือไม่ หากพบว่าเข้าข่ายต้องดำเนินการทั้ง 2 ประเด็นควบคู่กัน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กฤตพิทยบูรณ์ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีผู้สื่อข่าวหญิงสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งไปแจ้งความ สน.ภาษีเจริญ แล้วถูกร้อยเวรพูดจาคุกคามทางเพศ “ใส่กางเกงในมาไหม” ก่อนจะเรียกขึ้นไปชั้น 3 ซึ่งเป็นห้องส่วนตัวว่า ตรวจสอบข้อเท็จจริงกับ พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ภาษีเจริญ พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย. ก่อนตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นทราบว่ามีมูลตามกรณีที่เป็นข่าว และมีการพูดคุกคามจริง
...
“ผู้บังคับบัญชาตำรวจนายดังกล่าวไม่ได้นิ่งนอนใจ ออกคำสั่งย้าย ด.ต.เกรียงกมล รักกิจ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ป.สน.ภาษีเจริญ ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ไม่พบปะประชาชน ออกคำสั่งสถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญที่ 155/2564 ลงวันที่ 15 ก.ย.แล้ว อีกทั้งตำรวจนายดังกล่าวมีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยพนักงานสอบสวนยศดาบตำรวจ ไม่ใช่ร้อยตำรวจโท ต้นสังกัดดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป การปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจต้องตรงไปตรงมาและบริสุทธิ์ยุติธรรม รวมถึงต้องไม่มีท่าทีหรือคุกคามทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง รวมถึงต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุภาพเรียบร้อยเพื่อส่งเสริมและเป็นภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ประชาชนเชื่อถือและเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่” พ.ต.อ.หญิง ศิริกุล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปมที่ทำให้ ด.ต.เกรียงกมล ถูกออกคำสั่งให้ไปปฏิบัติหน้าที่อื่นไม่ได้พบปะกับประชาชน เนื่องจากวันเกิดเหตุผู้สื่อข่าวสาวและเพื่อนผู้หญิงอีก 1 คนเดินทางไปขอลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับการขอเปิดใช้เบอร์โทรศัพท์กับค่ายมือถือแห่งหนึ่ง ทว่าฝ่ายผู้เสียหายนุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้นแบบแฟชั่นลักษณะขาดเป็นริ้วๆไปติดต่อราชการ ด.ต.เกรียงกมลสอบถามไปว่า “ได้นุ่งกางเกงชั้นในมากันไหม” พอผู้เสียหายตอบว่า นุ่งมา เจ้าตัวดันพูดต่ออีกว่า “เพื่อนพี่ที่นุ่งกางเกงแบบนี้มักไม่ใส่กางเกงใน” ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกถูกคุกคามทางเพศ หนำซ้ำยังพยายามชักชวนผู้เสียหายขึ้นไปบนชั้น 3 ของโรงพัก ผู้เสียหายมั่นใจว่าไม่ใช่พื้นที่ให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนอย่างแน่นอน ซ้ำร้ายก่อนเดินทางกลับ ด.ต.เกรียงกมลยังขออนุเคราะห์ค่าน้ำค่ากาแฟให้เพื่อนตำรวจบนโรงพัก อ้างว่าตำรวจมีจำนวนมาก ผู้เสียหายยินยอมยื่นเงินให้ 100 บาท ด.ต.เกรียงกมลหยิบยัดใส่กระเป๋าเสื้อทันที เมื่อ พ.ต.อ.สุรเวช การวัฒนาศิริกุล ผกก.สน.ภาษีเจริญ ทราบเรื่องมีหนังสือสั่งการให้ ด.ต.เกรียงกมลย้ายหน้าที่ไปเป็นสิบเวรประจำห้องวิทยุทันที