นายแพทย์เฉวตสรร แนะ กลุ่มเสี่ยง สูงอายุ รีบฉีดวัคซีน หลังพบอัตราการเสียชีวิตจากโควิดยังสูง เตือนทุกคนให้ดูแลตัวเองแบบ Universal prevention คิดเสมอว่าตัวเองและผู้อื่นติดเชื้อ
วันที่ 18 ส.ค. 2564 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงข่าวถึงการรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต จากโควิด-19 จำนวน 312 ศพ ว่า ในจำนวนผู้เสียชีวิตดังกล่าว มีจำนวน 147 ราย ไม่เคยได้รับวัคซีน ส่วนที่ได้รับมาแล้ว 1 เข็ม ไม่ครบโดส มีจำนวน 33 ราย และตรวจสอบข้อมูล 132 ราย จึงขอให้บุคคลที่เป็นกลุ่มเสี่ยงและผู้สูงอายุให้รีบฉีดวัคซีน
นายแพทย์เฉวตสรร ยังกล่าวถึงการป้องกันโควิด-19 แบบ Universal prevention หรือการป้องกันแบบครอบจักรวาล โดยให้ป้องกันตนเองตลอดเวลาอย่างเข้มงวด ให้คิดเสมอว่าผู้อื่นและตัวเองติดโควิดแต่ไม่รู้ตัว ซึ่งการป้องกันอย่างเต็มที่จะช่วยให้ครอบครัวปลอดภัยจากโควิด-19 เช่นเดียวกัน แต่ไม่ต้องถึงขั้นรังเกียจหรือด้อยค่าซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งออกบ้านเฉพาะที่จำเป็น ใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง ยืนยันว่ามีส่วนสำคัญ เพราะระยะหลังหาที่มาและที่ไปของเชื้อยาก การดำเนินการดังกล่าวจึงเหมือนวัคซีนที่อยู่นอกขวด เพื่อให้รอดพ้นโควิดไปด้วยกัน
ส่วนการตรวจสุ่มแบบ Antigen test kit หรือ ATK ในโรงงานและองค์กร หากหากเจอ 10% จะต้องทำบับเบิลแอนด์ซีล เพื่อเฝ้าระวังต่อเนื่อง โดยหากโรงงานใดมีคนน้อยกว่า 100 หรือ 75 คน ให้สุ่มตรวจ 50 คน หากมีพนักงาน 150 คนขึ้นไป ให้สุ่มตรวจ 75 คน และหากมีพนักงาน 1,000 คน ให้สุ่มตรวจ 150 คน ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายแต่การควบคุมโรคยังได้ผลดี และต้องดูว่ามีกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป 7 กลุ่มโรคร้ายแรง และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ อยู่หรือไม่ โดยคนกลุ่มนี้ต้องได้รับการตรวจทุกราย และจะมีการสื่อสารที่ชัดเจนออกไปอีกครั้ง
...
ทั้งนี้ ในส่วนผู้ป่วยใส่เครื่องช่วยหายใจ หรือปอดอักเสบ มีผู้ได้รับวัคซีนหรือไม่ นายแพทย์เฉวตสรร ระบุว่า ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลว่ามีการฉีดวัคซีนหรือไม่ แต่การเสียชีวิตในวันนี้ สามารถเทียบเคียงได้ใกล้เคียงได้ ที่ส่วนใหญ่ไม่มีใครได้ฉีดวัคซีน จึงขอรณรงค์ให้คนกลุ่มเสี่ยงรีบมาฉีด