กทม.สายพันธุ์อินเดียเกินครึ่ง ศบค. รับติดเชื้อมากเครื่องช่วยหายใจไม่พอ

โฆษก ศบค. แถลง กทม. พบติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาเกินครึ่ง และมีแนวโน้มสูงขึ้น ยอมรับเครื่องช่วยหายใจไม่เพียงพอ ชี้ ติดเชื้อหลายพันอัตรา เสียชีวิตก็เพิ่มด้วย

วันที่ 6 ก.ค. 2564 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. เปิดเผยว่าการติดเชื้อโควิด-19 ในปัจจุบัน ตอนนี้สายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) มีเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สุ่มตัวอย่างจำนวน 936 ตัวอย่าง พบว่า มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตาถึง 52% จึงทำให้ผู้ป่วยต้องนอนโรงพยาบาลมากขึ้น รองลงมาคือสายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ)

นอกจากนี้ ยังพบว่าภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดการติดเชื้อกระจายไปทั่ว เริ่มต้นจาก กทม. แพร่กระจายออกไปจากมาตรการควบคุมแรงงาน ในขณะเดียวกันนั้นแรงงานบางส่วนก็กลับภูมิลำเนาเพื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลพื้นที่ ทำให้มีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลตามากขึ้น รวมทั้งประเทศ 1,838 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 2 ก.ค. 2564 เวลา 18.00 น.) ขณะที่สายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) ที่ก่อนหน้านี้กระจุกตัวอยู่ที่จังหวัดชายแดนใต้ ก่อนจะกระจายไปยังจังหวัดอื่นๆ ก็อยู่ในการเฝ้าระวังของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

นายแพทย์ทวีศิลป์ ระบุต่อไปถึงภาพรวมของทั้งประเทศว่า สายพันธุ์อัลฟายังมากที่สุด 65.1% รองลงมาคือสายพันธุ์เดลตา 32.2% และสายพันธุ์เบตา 2.6% อย่างไรก็ตามพบว่าสายพันธุ์เดลตานั้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งต้องเผยข้อมูลให้ประชาชนทราบเพื่อที่จะป้องกัน ช่วยกันระมัดระวังอนามัยส่วนบุคคลให้เข้มขึ้นมากๆ เพราะไวรัสก็ปรับตัวเองในการแพร่พันธุ์ได้เร็วขึ้น

สำหรับสถานการณ์ผู้ป่วยกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังมีผู้ป่วยไต่ระดับเพิ่มขึ้น แต่ความสามารถทางการแพทย์ก็พยายามที่จะช่วยทุกคน สิ่งหนึ่งมที่จะช่วยผู้ป่วยอาการหนักคือการใส่เครื่องช่วยหายใจโดยเร็วเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับออกซิเจนในร่างกายสู้กับเชื้อโรคนี้ โดยเส้นกราฟ ETT (Endotracheal Tube) หรือการใส่ท่อช่วยหายใจมากขึ้น เพราะเป็นแนวทางในการช่วยชีวิต

“ความต้องการเตียง เครื่องช่วยหายใจ ที่เรามีเก็บสะสมกันไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ ได้เอามาใช้ในตอนนี้ แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอกับการติดเชื้อที่มีมากขึ้นๆ ต้องการใส่ท่อช่วยหายใจมีรายงานทุกวันว่าเพิ่มขึ้น ณ ตอนนี้มีสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาก็ต้องติดตาม เพราะตัวเลขการเสียชีวิตมีอยู่ให้เห็นทุกวัน และจะเพิ่มขึ้นตามอัตราส่วนของการติดเชื้อที่มีจำนวนหลักหลายพัน ต้องมีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นแน่นอน”