"จุรินทร์" ปั้น ส่งออกมันสำปะหลัง 4 เดือนทะลุ 3.96 ล้านตัน มูลค่ากว่า 44,000 ล้าน เพิ่ม 50% ส่งผลเกษตรกรยิ้มสดใส มีรายได้เพิ่มขึ้น
เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.64 นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จากรายงานกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์เกี่ยวกับราคาสินค้าเกษตรและการผลักดันส่งออกล่าสุดจากนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ มีความคืบหน้าที่ดีว่าการส่งออกมันสำปะหลัง 4 เดือนปี 2564 พุ่ง 3.96 ล้านตัน เพิ่ม 50% มูลค่า 1,424 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 44,000 ล้านบาท เท่ากับเพิ่ม 49% ส่งผลดีดันราคาในประเทศขยับตาม โดยราคารับซื้อมันสำปะหลังเฉลี่ยกิโลกรัมละ 2.40 บาท ทั้งนี้เป็นเพราะนโยบายนายจุรินทร์ต่อการทำงานเชิงรุกและกำกับติดตามตลอดเวลาเน้นมาตรการคุมเข้มคุณภาพ มาตรฐาน ทั้งการนำเข้าและการส่งออก ทำให้ผู้ซื้อเชื่อมั่น
นางมัลลิกา กล่าวว่า การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในช่วง 4 เดือนของปี 2564 คือช่วงเดือนมกราคม-เมษายน เพิ่มขึ้นเป็นการขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและราคา ส่งผลให้ราคาหัวมันสำปะหลังสดในประเทศ ฤดูกาลผลิตปี 2563/64 มีเสถียรภาพ โดยปัจจุบันราคาเฉลี่ย 2.40 บาท/กิโลกรัม อันนี้เป็นผลดีต่อเกษตรกรเพราะเพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่เพิ่มสูงขึ้นเพราะผู้ซื้อมีความมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานดีกว่าคู่แข่ง ทั้งเวียดนาม กัมพูชา และสปป.ลาว จึงมีการซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์สั่งการทำงานเชิงรุกให้กรมการค้าต่างประเทศได้จัดส่งชุดตรวจสอบเคลื่อนที่ ลงพื้นที่ตามแนวชายแดนที่เป็นจุดนำเข้ามันเส้น เช่น สระแก้ว สุรินทร์ จันทบุรี และอุบลราชธานี เพื่อกำกับดูแลการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน และยังได้ส่งชุดตรวจสอบ ออกตรวจสอบโกดังที่เก็บมันเส้นเพื่อส่งออก เช่น อยุธยา ฉะเชิงเทรา และชลบุรี เพื่อกำกับดูแลคุณภาพให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
...
"การเข้มงวด ทั้งการกำกับดูแลการนำเข้ามันสำปะหลังที่ไม่มีคุณภาพ การกำกับดูแลการส่งออกให้เป็นไปตามมาตรฐาน เป็นไปตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่ได้กำชับให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลอย่างเข้มงวด ทำให้ส่งผลดีต่อการส่งออก เพราะผู้ซื้อมีความเชื่อมั่น และยังส่งผลดี ทำให้ราคาในประเทศสูงขึ้น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น" นางมัลลิกา กล่าว.