กระทรวงวัฒนธรรมจัดพิธีบวงสรวงรับทับหลังปราสาท “หนองหงส์-เขาโล้น” คืนแผ่นดินไทย กรมศิลปากรเตรียมจัดแสดงให้ชมที่พิพิธภัณฑ์พระนคร นาน 3 เดือน ก่อนพิจารณาเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑ์ใกล้ปราสาท เปิดรับฟังความเห็นผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดูแลรักษาโบราณวัตถุให้ดีที่สุด
ตามที่ประเทศไทยติดตามทวงคืนโบราณวัตถุ 2 รายการ ได้แก่ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ซึ่งถูกลักลอบนำออกนอกแผ่นดินไทยไปจัดแสดงพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย (Asian Art Museum) นครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเมื่อมีการตรวจสอบจนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของสหรัฐฯ และพิจารณาสิ้นสุดคดีแล้ว ปรากฏว่าโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ เป็นกรรมสิทธิ์ของไทย ต่อมาสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิได้ส่งมอบให้กับกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ในฐานะผู้แทนรัฐบาลไทย พร้อมจัดส่งโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการ กลับถึงไทย ด้วยสายการบินโคเรียนแอร์ไลน์ เมื่อวันที่ 28 พ.ค.
ต่อมาเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 13.00 น. ได้มีการนำทับหลังปราสาทหนองหงส์และทับหลังปราสาทเขาโล้น เคลื่อนออกจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปยังพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร เพื่อเข้าสู่พิธีบวงสรวงต้อนรับทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ และทับหลังจากปราสาทเขาโล้น กลับสู่ประเทศไทย จากนั้น เวลา 17.15 น. นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม พร้อมด้วยนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร ร่วมเปิดหีบบรรจุทับหลัง 2 รายการ โดยมีภัณฑารักษ์ และนักวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ ตรวจสภาพทับหลัง พร้อมบันทึกข้อมูลในเบื้องต้น ก่อนที่จะมีพิธีบวงสรวงต้อนรับทับหลัง 2 รายการ โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ ประธานพระครูพราหมณ์ เป็นประธานบวงสรวง และมีการแสดงระบำโบราณคดี ชุดลพบุรี
...
นายอิทธิพลกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการติดตามทวงคืนโบราณวัตถุของประเทศไทยที่พบในประเทศต่างๆกลับสู่ประเทศไทย มีการแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศ และมีการดำเนินงานแบบบูรณาการระดับชาติ ตั้งแต่ปี 2560 ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความสำเร็จที่ไทยได้รับคืนทับหลังทั้ง 2 รายการ รวมทั้งให้ วธ.จัดทำวีดิทัศน์ผลการดำเนินงานติดตามทับหลังและโบราณวัตถุอื่นๆในช่วงปี 2557-2563 เพื่อประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินงานและสร้างความตระหนักรู้เพื่อให้คนไทยเห็นความสำคัญในการอนุรักษ์มรดกทางศิลปวัฒนธรรมของไทย โดยการทวงคืนโบราณ-วัตถุ ปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว คืนสู่แผ่นดินไทยเป็นความร่วมมืออย่างดียิ่งระหว่างรัฐบาลไทยและสหรัฐ-อเมริกา ต้องขอบคุณสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ แห่งสหรัฐฯ นักวิชาการ นักโบราณคดี องค์กรต่างๆของทั้งสองประเทศที่ประสานงานกันมาอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่ความสำเร็จในวันนี้
รมว.วัฒนธรรมกล่าวอีกว่า หลังจากมีการบวงสรวงโบราณวัตถุ 2 รายการนี้แล้ว กรมศิลปากรจะนำมาจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมภายในพระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร โดยมีเนื้อหาถึงประวัติความเป็นมา ความเชื่อมโยงประวัติศาสตร์ของโบราณวัตถุ 2 รายการนี้ กำหนดจัดแสดงระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งการเก็บรักษาต้องคำนึงถึงอุณหภูมิ และสภาพพื้นที่ที่เหมาะสม และในระหว่างนี้ได้วางแนวทางในการพิจารณาการดำเนิน การอนุรักษ์ต่อโบราณวัตถุ 2 รายการ ต่อจากนี้คือ เก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ที่อยู่ใกล้กับตัวปราสาทแห่งนั้นๆ โดยที่ปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสุรินทร์ ส่วนปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี และระหว่างที่โบราณวัตถุ 2 รายการจัดแสดงจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการดูแล รักษาโบราณวัตถุให้ดีที่สุดต่อไป อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึงประชาชนคนไทยให้ช่วยกันร่วมอนุรักษ์ดูแลโบราณวัตถุ มรดกของชาติ ให้เกิดการหวงแหนและภูมิใจในความเป็นไทยด้วย