กองปราบฯแถลงจับ 6 ผู้ต้องหาแก๊งโรแมนซ์สแกม “แสร้งรักออนไลน์ สุดท้าย เป็นโจร” เผยเป็นเครือข่ายใหญ่ หัวโจกเป็นชาวไนจีเรียร่วมกับเมียคนไทยและพวก ทักสาวไทยผู้เสียหายทางอินสตาแกรม อ้างเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกันวัยเกษียณ พูดคุยจนเหยื่อตายใจนึกว่าจะมาล่มหัวจมท้ายที่เมืองไทยก่อนต้มเอาเงินไป 1 ล้านบาทเศษ แฉเส้นทางการเงินพบปีเดียวมีเงินหมุนเวียน 200 ล้านบาท คาดมีผู้เสียหายหลายราย ส่วนหัวโจกชาวไนจีเรียพบเปิดร้านอาหาร และรับแลกเงินตรา เชื่อเอาไว้บังหน้าฟอกเงิน

ป.ค้น 7 จุดทั่วประเทศทลายแก๊งโรแมนซ์สแกมเครือข่ายใหญ่ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการบุกทลายเครือข่ายโรแมนซ์สแกม สื่อรักออนไลน์ สุดท้ายเป็นโจร เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 7 จุด ในพื้นที่ กทม. นครสวรรค์ ภูเก็ต และปทุมธานี จับกุมผู้ต้องหา 6 คน คือน.ส.ปุณยวีร์ ชูสินจิรพัฒน์ อายุ 46 ปี นายอีเซเนเช่ อูโซซูกะวู เจโรเม่ อายุ 44 ปี ชาวไนจีเรีย น.ส.ศศิธร นวลแก้ว อายุ 22 ปี นายสุดใจ กำนนท์ อายุ 34 ปี นายทศพล ศิริปรุ อายุ 33 ปี และนายนิรันดร เทียนถาวร อายุ 29 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันทุจริตหรือหลอกลวงโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ประการที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จับกุมได้พร้อมของกลาง รถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต ป้ายแดง 1 คัน เงินสด 906,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง บัญชีธนาคาร 18 เล่ม เครื่องประดับ 45 รายการ นาฬิกาข้อมือ 11 เรือน บัตรกดเงินอิเล็กทรอนิกส์ 11 ใบ

...

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. กล่าวว่า เมื่อปลายปี 63 มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบช.ก.ว่า ถูกแก๊งโรแมนซ์สแกมหลอกเงินไปกว่า 1 ล้านบาท สั่งการให้ชุดจับกุมตรวจสอบทราบว่าแก๊งดังกล่าวทำกันเป็นขบวนการ มีผู้ร่วมกระทำผิดหลายรายทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เริ่มแรกจะเปิดบัญชีแอ็กเคาต์อินสตาแกรม ใช้ชื่อ Mr.Lanny Gray ติดต่อไปหาผู้เสียหายพูดคุยในเชิงชู้สาว อ้างตัวเป็นนักธุรกิจชาวอเมริกา วัยเกษียณ ทำงานอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อเริ่มสนิทสนมกันเปลี่ยนไปพูดคุยผ่านแอปพลิเคชันไลน์ เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือรวมถึงส่งข้อความลักษณะให้ความหวังจะเดินทางมาใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้เสียหายที่ประเทศไทย จากนั้นเมื่อผู้เสียหายเกิดความเชื่อใจ จะอ้างว่าได้ส่งของมีค่าหลายอย่างใส่กระเป๋าเดินทางและกล่องพัสดุมาให้ ขอให้ผู้เสียหายช่วยรับของดังกล่าวไว้

ผบก.ป.กล่าวต่อว่า จากนั้นจะให้ผู้ร่วมขบวนการคนไทย โทรศัพท์หาผู้เสียหาย อ้างเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทส่งสินค้าระหว่างประเทศ แจ้งว่ากระเป๋าเดินทางและกล่องพัสดุดังกล่าวมาถึงประเทศไทยแล้ว แต่มีขั้นตอนการส่งสินค้า และมีค่าธรรมเนียมต่างๆ ที่ต้องชำระเงินเอง ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปให้ตามที่ถูกเรียกร้อง รวมเป็นเงินทั้งสิ้นเกือบ 1 ล้านบาท หลังจากจ่ายเงินไปแล้ว กลับไม่ได้รับของแต่อย่างใด เมื่อสอบถามกลุ่มผู้ต้องหาอ้างว่ายังอยู่ระหว่างดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม หลังจากได้เงินจากเหยื่อรอบแรกไปแล้ว กลุ่มคนร้ายยังวางแผนหลอกเงินเหยื่อเพิ่มอีก ให้ผู้ร่วมขบวนการโทรศัพท์ติดต่อมาอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในประเทศมาเลเซียบอกว่า Mr.Lanny Gray ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ขอเรียกเก็บเงินเพื่อสำรองค่ารักษาพยาบาลจากผู้เสียหายอีกเกือบ 500,000 บาท ผู้เสียหายเอะใจสงสัยพยายามติดต่อกลับเพื่อสอบถาม แต่เมื่อเห็นว่าไม่สามารถติดต่อได้ ตัดสินใจไม่โอนเงินไปให้เพราะเชื่อว่าน่าจะถูกหลอก นำเรื่องเข้าแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง พร้อมกับยื่นคำร้องต่อ พล.ต.ต.จิรภพให้ช่วยติดตามจับกุม

ด้าน พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3 บก.ป. กล่าวว่า ชุดจับกุมใช้เวลาสืบสวนกว่า 5 เดือน จนพบหลักฐานว่ากลุ่มคนร้ายมีด้วยกันทั้งหมด 7 คน มีนายอูโซซูกะวู กับ น.ส.ปุณยวีร์ สองสามีภรรยา เป็นหัวหน้า ทำกันเป็นขบวนการ แบ่งหน้าที่วางแผนเป็นขั้นตอน ในช่วง 2-3 ปี หลังมีผู้หลงเชื่อตกเป็นเหยื่อถูกหลอกหลายราย จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินเครือข่ายดังกล่าว พบมีการโอนเงินจากบัญชีอื่น เข้ามายังบัญชีกลุ่มคนร้ายที่เปิดในชื่อของบุคคลอื่นประมาณ 50 บัญชี เมื่อได้เงินมาแล้วก็จะไปถอนจากตู้เอทีเอ็มออกมาเป็นเงินสด แล้วนำฝากเข้าบัญชีส่วนตัว เพื่อให้ยากต่อการตรวจสอบ สำหรับบัญชีธนาคารของ น.ส.ปุณยวีร์เฉพาะเพียงแค่ปี 63-64 มีเงินหมุนเวียนในบัญชีถึง 200 ล้านบาท

นอกจากนี้ จากการตรวจค้นร้านอาหารและร้านรับแลกเงินของนายอูโซซูกะวู ที่คาดว่าเป็นการเปิดธุรกิจบังหน้า พบเอกสารการแลกเงินตราต่างประเทศจำนวนมาก ทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นวิธีการฟอกเงินอย่างหนึ่ง ได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานเพื่อขยายผลสืบสวนต่อไป จากการตรวจสอบประวัติ นายอูโซซูกะวู ยังพบด้วยว่า เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันเมื่อปี 2561 ใน จ.เชียงใหม่ ครั้งนั้นกลุ่มคนร้ายได้อ้างว่าเป็นทหารแอฟริกันปลดประจำการ ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการสอบสวน และเชื่อว่ายังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการโรแมนซ์สแกมแก๊งนี้ จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 6 คนยังคงให้การปฏิเสธ ก่อนแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ นำตัวส่ง สน.วังทองหลาง ดำเนินคดี พร้อมกับขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนีที่เหลืออีก 1 รายต่อไป