"จุรินทร์" ลงพื้นที่ช่วยประชาชน และติดตามโครงการ "โมบายพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน" เขตลาดพร้าว

เมื่อวันที่ 23 พ.ค.64 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ร่วมกับ ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่ช่วยประชาชน และติดตามโครงการ "โมบายพาณิชย์ ลดราคา ช่วยประชาชน" ที่หมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ

นายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการพาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot ที่ 10 ซึ่งดำเนินการมาแล้ว 9 Lot โดย Lot นี้ กระทรวงพาณิชย์จัดในรูปแบบรถ Mobile พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน ที่จะตระเวนไปจำหน่ายสินค้าราคาถูกทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด เพื่อที่จะให้สามารถนำสินค้าและให้บริการสินค้าต่างๆ ในราคาถูกไปจำหน่ายให้พี่น้องประชาชนถึงชุมชนต่างๆ ให้พี่น้องประชาชนที่จำเป็นต้องกักตัวอยู่ในชุมชนสามารถได้รับบริการที่ทั่วถึง โดยได้จัดรถ Mobile ทั้งหมด 730 คัน วิ่งกระจายไปทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่วนนึงจะไปจอดที่สำนักงานเขตทั้ง 50 เขต ทั่วกรุงเทพมหานคร จอดประมาณครึ่งวัน แล้วจะตระเวนไปตามจุดและชุมชนต่างๆ จะเข้าไปในชุมชนประมาณ 400-500 ชุมชน

...

สินค้าราคาถูกประกอบด้วย 2 ส่วน คือ 1.สินค้าที่จำเป็นต่อการบริโภค 6 ชนิด และ 2.สินค้าอุปโภคบริโภค 6 หมวด สำหรับสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพในชีวิตประจำวัน 6 ชนิด ประกอบด้วย 1.ข้าวสารถุงเป็นข้าวหอมมะลิ กิโลกรัมละ 30 บาท 2.ไข่ไก่ เบอร์สาม 3-4 แผงละ 30 ฟอง ราคา 83 บาท ตกฟองละ 2.77 บาท 3.น้ำมันพืชขนาด 1 ลิตร ขวดละ 43 บาท 4.น้ำตาลถุงละ 1 กิโลกรัม 20 บาท 5.บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซองละ 5 บาท และ 6.ปลากระป๋อง กระป๋องละ 12 บาท

และสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคอีก 6 หมวด หมวดที่หนึ่งอาหารสำเร็จรูปมี 11 รายการ ลดสูงสุด 33% หมวดที่สองซอสปรุงรส 16 รายการ ลดสูงสุด 28% หมวดที่สามของใช้ประจำวัน 16 รายการ ลดสูงสุด 50% หมวดที่สี่สินค้าสำหรับชำระร่างกาย 4 รายการ ลดสูงสุด 60% หมวดที่ห้าสินค้าสำหรับการซักล้าง 23 รายการ ลดสูงสุด 54% และหมวดที่หกยา 3 รายการ ลดสูงสุด 23% โดยภาพรวมสินค้าเพื่ออุปโภคบริโภค 6 หมวดนี้ ลดราคาเฉลี่ยสูงสุด 60%

ทั้งนี้ กำหนดออกให้บริการพี่น้องประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ประมาณ 400-500 ชุมชน ถึงวันที่ 8 มิถุนายน เป็นเวลา 30 วัน คาดว่าจะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้ไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท.