เจ้าหน้าที่เร่งสแกนหาสัญญาณชีพ ผู้ที่คาดว่ายังติดอยู่ใต้ซากอาคารไฟไหม้ถล่ม เพื่อวางแผนการค้นหา ขณะที่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตทวีวัฒนา ระบุรู้ตัวเจ้าของบ้านแล้ว แต่เปิดให้ลูกจ้างอยู่อาศัย
วันที่ 3 เมษายน จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ บ้านเลขที่ 138/12 ซอยอัญมณี 17 เขตทวีวัฒนา กทม. โดยได้รับความเสียหายทั้งหมด เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์อาคารถล่มลงมา ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กำลังเข้าระงับเหตุ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ ติดใต้อาคารจำนวนหนึ่ง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องสแกนหาสัญญาณชีพ ผู้ติดค้างอยู่ภายใน และใช้วิทยุสื่อสารกับผู้ที่ยังติดอยู่ภายในซากอาคาร โดยขอให้ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เงียบเสียงพร้อมกัน เพื่อฟังสัญญาณ เบื้องต้น มีเสียงสัญญาณชีพ และระหว่างนั้นมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาจากใต้ซากอาคาร จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ออกมาประชุมแผนงานการช่วยค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารกันอีกครั้ง
นอกจากนี้ อาสาสมัครกู้ภัยกลุ่ม Thai Volunteer SAR Dog นำสุนัขกู้ภัย K-9 จำนวน 3 ตัว เข้าช่วยเหลือภารกิจดมกลิ่น เพื่อหาสัญญาณชีพของ นายสุทัศน์ หรือโอ เปลี่ยนกลัด เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย ซึ่งติดอยู่บริเวณโซน B ของบ้านด้วย โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการค้นหา
ด้านนายพรเลิศ เพ็ญพาส ผู้อำนวยการสำนักงานเขตทวีวัฒนา กล่าว ภายหลังเดินทางลงตรวจสอบพื้นที่ ว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมาเป็นภารกิจเร่งกู้ภัยและช่วยเหลือผู้สูญหาย ที่เป็นเจ้าหน้าที่และผู้ดูแลบ้าน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบการขอใบอนุญาตก่อสร้าง กับการออกเลขบ้าน แต่วันนี้ยังตรวจสอบไม่ได้ว่าออกเลขบ้าน และใบอนุญาตมาปีไหน แต่คาดว่าบ้านหลังดังกล่าวมีอายุประมาณ 10 ปี ขึ้นไป การหาเอกสาร อาจยากนิดหน่อย
...
เบื้องต้นทราบตัวเจ้าของบ้านแล้ว แต่ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งลักษณะบ้านเปิดเป็นบริษัททำเกี่ยวกับสระน้ำ และให้ลูกจ้างพักอาศัยอยู่ สำหรับข้อมูลการต่อเติมบ้านยังไม่ทราบ แต่หากมีการต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต ทางเขตสามารถเรียกตัวเจ้าของบ้านมาพูดคุยได้ ซึ่งขณะนี้ อ.ธเนศ วีระศิริ นายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ก็เข้าไปตรวจสอบโครงสร้างอาคารแล้ว
ส่วนสาเหตุมีหลายประการที่ทำให้อาคารถล่ม เช่น การก่อสร้างไม่ได้มาตรฐาน การขยายตัวของเหล็ก น้ำหนักของน้ำที่ฉีดเข้าไป ซึ่งต้องรอให้ทางวิศวกร และกองพิสูจน์หลักฐาน ตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ส่วนช่วงที่เกิดเหตุนั้นเป็นเหตุเพลิงไหม้ปกติ หน่วยกู้ภัยก็ช่วยกันฉีดน้ำทำการดับ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ซึ่งหลังจากเพลิงดับแล้ว หน่วยบรรเทาสาธารณภัยก็ได้เข้าไปสำรวจหาผู้ติดอยู่ภายในตัวอาคาร พบมีคนหมดสติในห้องน้ำชั้นล่าง หน่วยกู้ภัยที่เหลือก็ตามเข้าไป แล้วก็เกิดเหตุอาคารถล่มขึ้น โดยที่ไม่มีใครคาดคิด.