“ไอซ์ หีบเหล็ก” อ่วม ศาลอาญาธนบุรีสั่งลงทัณฑ์เป็นคดีที่ 4 ด้วยการจำคุกตลอดชีวิต คดีฆ่าสาวคนสนิท กุ๊กกิ๊ก-วรินทร์ธรณ์ ไชยเชษฐ บรรยายพฤติกรรมสุดโหด ทั้งใส่กุญแจมือที่ข้อมือและข้อเท้า ทำร้ายร่างกายด้วยการใช้ท่อนเหล็กทุบตีจนบาดเจ็บสาหัส แล้วบังคับให้เข้าไปนอนขดตัวอยู่ในหีบเหล็กขนาดเล็กจนเสียชีวิต แถมให้ชดใช้เงินให้โจทก์ร่วม 2 คน 1.7 และ 1.2 ล้านบาทด้วย ส่วนข้อแก้ต่างจำเลยว่ากระทำการเพราะบันดาลโทสะ ผู้ตายจะตีจากกลับไปหาสามีเก่า ไม่น่าเชื่อถือ
ศาลตัดสินคดี “ไอซ์ หีบเหล็ก” เป็นคดีที่ 4 เปิดเผยขึ้นที่ศาลอาญาธนบุรี เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 29 ม.ค. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.585/2563 พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ น.ส.ศึกษาพร ไชยเชษฐ กับพวกเป็นโจทก์ร่วมฟ้องนายอภิชัย หรือไอซ์ องค์วิศิษฐ์ เป็นจำเลย ฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ฐานร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพเพื่อปิดบังการตาย และฐานร่วมกันทำให้เสียหาย เคลื่อนย้ายศพ อัยการฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 4-6 ส.ค.62 จำเลยหน่วงเหนี่ยวกักขัง น.ส.วรินทร์ธรณ์ หรือกุ๊กกิ๊ก ไชยเชษฐ ไว้ในห้องของจำเลย แล้วฆ่าผู้ตายโดยทรมาน หรือกระทำทารุณโหดร้ายจนถึงแก่ความตาย ต่อมาจำเลยกับพวกร่วมกันขุดหลุมฝังศพผู้ตายเพื่อปิดบังการตาย หรือเหตุแห่งการตาย เป็นการทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพโดยไม่มีเหตุอันสมควร
จำเลยให้การรับสารภาพ ข้อหาร่วมกันลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เพื่อปิดบังการตาย และข้อหาร่วมกันทำให้เสียหาย เคลื่อนย้าย ทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพ ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ แต่รับว่า ทำร้ายร่างกายผู้ตายเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายโดยบันดาลโทสะ และรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้เพิ่มโทษและนับโทษต่อ ศาลอ่านคำพิพากษาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังเรือนจำพิเศษธนบุรี
...
ศาลพิพากษาว่า พิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์ โจทก์ร่วม และจำเลยแล้วเห็นว่า แม้โจทก์ไม่มีประจักษ์ พยานรู้เห็นเหตุการณ์ขณะจำเลยทำร้าย น.ส.วรินทร์ธรณ์ แล้วนำผู้ตายใส่กล่องเหล็กทึบจนเสียชีวิต แต่มีพยานรู้เห็นและเบิกความยืนยันพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุที่จำเลยทำร้ายผู้ตายโดยใช้ท่อนเหล็กทุบศีรษะและลำตัว ใส่กุญแจมือที่ข้อมือและข้อเท้าบังคับให้ น.ส.วรินทร์ธรณ์เข้าไปนอนในกล่องเหล็กทึบและพฤติการณ์หลังผู้ตายเสียชีวิต เจือสมกับการนำสืบของจำเลยที่รับว่า ทำร้ายผู้ตายและบังคับผู้ตายให้นอนในกล่องเหล็กทึบ ส่วนที่จำเลยอ้างว่า ทำร้าย น.ส.วรินทร์ธรณ์โดยบันดาลโทสะเพราะผู้ตายต้องการเลิกความสัมพันธ์ กลับไปหาสามีผู้ตายนั้น ถือไม่ได้ว่า จำเลยถูกผู้ตายข่มเหงร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงไม่ใช่การกระทำโดยบันดาลโทสะ ที่จำเลยอ้างว่า จับผู้ตายเหวี่ยงไปถูกชั้นวางของทำให้ดัมเบลที่วางอยู่บนชั้นตกใส่ ไม่น่ามีน้ำหนักกระแทกรุนแรงถึงเสียชีวิต ประกอบกับรายงานตรวจศพแพทย์สรุปสาเหตุการตายว่า มีเลือดออกในช่องอกขวาได้รับบาดเจ็บรุนแรง ข้ออ้างของจำเลยไม่น่าเชื่อถือ
พฤติการณ์ที่จำเลยรีบนำศพ น.ส.วรินทร์ธรณ์ ไปลักลอบฝังแสดงให้เห็นว่า จำเลยรู้ว่าตนกระทำผิดร้ายแรงและประสงค์ปกปิดความผิด พยานแวดล้อมมีน้ำหนักพอชี้ชัดว่า จำเลยใช้กำลังประทุษร้ายใช้ท่อนเหล็กทุบตีทำร้ายผู้ตายจนบาดเจ็บรุนแรง มีเลือดออกในช่องอก บังคับให้ลงไปนอนขดตัวในกล่องเหล็กทึบกว้าง 40 ซม. ยาว 70 ซม. และสูง 45 ซม.แล้วปิดฝาคล้องกุญแจไว้ น.ส.วรินทร์ธรณ์อยู่ในสภาพนอนขดตัวงอเข่าชิดอก ไม่สามารถขยับตัวหรือหายใจสะดวกทำให้ทุกข์ทรมาน แม้ผลการตรวจสภาพศพของแพทย์ไม่สามารถชี้ชัดว่า ผู้ตายขาดอากาศหายใจ เนื่องจากศพเปลี่ยนแปลงหลังเสียชีวิตเป็นเวลานาน ทำให้อวัยวะภายในเสื่อมสลาย การกระทำของจำเลยย่อมเล็งเห็นผลว่า น.ส.วรินทร์ธรณ์อาจถึงแก่ความตาย ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้ตาย และหน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย การที่จำเลยบังคับให้ผู้ตายลงไปนอนขดตัวภายในกล่องเหล็กทึบจนถึงแก่ความตาย ถือว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน หรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้องลงโทษจำคุกตลอดชีวิต ให้นับโทษจำคุกจำเลยต่อจากโทษจำคุกของจำเลยคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ย.201/2563 อ.1140/2563 และ ย.1831/2563 ของศาลนี้ ริบของกลาง และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 1,700,000 บาท แก่โจทก์ร่วมที่ 1 และ 1,200,000 บาทแก่โจทก์ร่วมที่สอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ศาลอาญาธนบุรีพิพากษาคดีไอซ์ หีบเหล็ก จำเลยคดียาเสพติดและฆาตกรรมหญิงสาวต่อเนื่องไปบางสำนวนแล้ว เมื่อวันที่ 19 ก.พ.63 คดีหมายเลขดำ ย.199/2563 ความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีน กัญชา และอาวุธปืน พิพากษาจำคุก 10 ปี 5 เดือน ปรับ 564,750 บาท เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 คดีหมายเลขดำ อ.586/2563 ความผิดฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองและข่มขืน พิพากษาจำคุก 11 ปี 4 เดือน และเมื่อวันที่ 25 ม.ค.64 ตัดสินคดีครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด คดีหมายเลขดำที่ ย.941/2563 พิพากษาจำคุก 25 ปี ปรับ 750,000 บาท