"มนัญญา" ไฟเขียวให้ 3 หน่วยงานทำการลับ จนนำมาสู่การจับกุมอดีตกรรมการไซฟอนสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.63 นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หารือร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เป็นการลับเพื่อให้มีการเร่งดำเนินคดีกับอดีตกรรมการสหกรณ์สโมสรรถไฟ จำกัด (สอ.สรฟ.) ที่มีการทุจริตทำให้สหกรณ์เกิดความเสียหายกว่า 2,285 ล้านบาท เนื่องจากการดำเนินการของเจ้าพนักงานสอบสวนตามขั้นตอนปกติเป็นไปอย่างล่าช้า จะยิ่งส่งผลเสียหายมากยิ่งขึ้น หากให้ดีเอสไอดำเนินการจะสามารถทำงานได้รวดเร็วว่าขั้นตอนปกติ จึงนำมาสู่การจับกุมอดีตกรรมการ สอ.สรฟ.ที่ดำเนินการทุจริตได้ในวันนี้

"เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้มีการหารือกันเป็นการลับของ 3 หน่วยงานเพื่อดำเนินการได้ในเรื่องนี้ ซึ่งได้ขอให้ดีเอสไอเร่งดำเนินการ เรื่องนี้ให้ทำตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด ไม่ต้องเกรงใจใคร ไม่ต้องไว้หน้าใคร ให้ดำเนินการกับทุกคนที่ทุจริต และหลังหารืออยากให้มีการจับกุมได้ภายใน 15 วัน หรือไม่เกิน 1 เดือน เพราะเกรงจะมีการไหวตัวก่อน ซึ่งรายละเอียดการทุจริตให้ประสานกับกรมทั้งสองได้ตลอดเวลา เพราะข้อมูลมีครบทั้งหมด หลังจากนั้นทางดีเอสไอได้ส่งรายงานความคืบหน้าการดำเนินการมาเป็นระยะ จนนำมาสู่วันนี้ ซึ่งเชื่อว่าด้วยจะทำให้ได้เรื่องนี้ได้ข้อยุติโดยเร็ว" น.ส.มนัญญา กล่าว

...

นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ได้มีการประสานงานและดำเนินการเป็นการลับในเรื่องนี้ โดย รมช.เกษตรฯได้กำชับว่าหากดีเอสไอขอข้อมูลอะไรให้เร่งดำเนินการทันที ซึ่งข้อมูลที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ส่งก็คือชุดเดิมที่ร้องไว้กับพนักงานสอบสวนที่ สน.นพวงศ์ และสน.ปทุมวัน มาก่อนหน้านี้ ทำให้ดีเอสไอไม่ต้องเสียเวลาในการสอบสวนข้อมูลเพิ่มเติม และด้วยอำนาจสอบสวนตามกฎหมายของดีเอสไอ กรมจึงเห็นว่าการให้ดีเอสไอมาช่วยทำคดีจะเป็นผลดีต่อสมาชิกในขบวนการสหกรณ์แห่งนี้

สำหรับกรณีการทุจริตของอดีตกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ (สอ.สรฟ.) ได้มีการตรวจพบว่า มีการอนุมัติเงินกู้พิเศษไม่เป็นไปตามระเบียบให้แก่สมาชิก 6 รายในช่วงปี 2556-59 รวม 199 สัญญา ยอดเงินกู้คงเหลือ 2,285 ล้านบาท หลังพบเหตุ 21 พ.ย.59 อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ในขณะนั้นในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์ได้มีคำสั่งให้มีการตรวจสอบเรื่อง และกรมได้มีการตรวจพบว่ามีการทุจริตจริง จนเป็นเหตุให้สอ.สรฟ.เสียหาย จากนั้นกรมได้มีการดำเนินการตามกฎหมายของ พ.ร.บ.สหกรณ์ มาต่อเนื่อง ไม่มีการเว้นวรรค หรือละเว้นการดำเนินการหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จนนำมาสู่การร้องทุกข์กล่าวโทษ และล่าสุดประสานกับดีเอสไอเข้าจับกุม.