ศึกเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ฟาดฟันกัน จนวินาทีสุดท้ายของการให้หาเสียง โดย “ทรัมป์” เริ่มโวย อาจมีการโกงเลือกตั้ง หลังคนแห่ใช้สิทธิล่วงหน้าเฉียด 100 ล้านคน หนำซ้ำจ่อเสียฐานเสียงที่มั่นสำคัญของรีพับลิกันในรัฐเท็กซัส ขณะที่โพลชี้คะแนนนิยม “โจ ไบเดน” ยืนห่าง “ทรัมป์” ถึง 9 เปอร์เซ็นต์ ไม่เปลี่ยนแปลงมาตลอดสัปดาห์ ส่งผลให้หาก “ไบเดน” คว้าชัยได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 46 จะถือเป็นผู้นำที่อายุมากสุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จากพรรคเดโมแครต ยุติการรณรงค์หาเสียงอย่างเป็นทางการตามกำหนด ก่อนวันเลือกตั้งจริง 3 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ หรือวันที่ 4 พ.ย. ตามเวลาประเทศไทย หลังตะลุย หาเสียงโค้งสุดท้ายในรัฐตัวแปรที่ประชากรไม่สนับสนุน พรรคใดพรรคหนึ่งอย่างชัดเจนหรือที่เรียกว่า “สวิง สเตต” โดยนายไบเดนใช้เวลากับผู้สนับสนุนผิวสีในรัฐเพนซิลเวเนีย ที่เดโมแครตเคยสูญเสียฐานเสียงให้นายทรัมป์เมื่อการเลือกตั้ง 4 ปีก่อน กล่าวย้ำว่าสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ถือเป็นโศกนาฏกรรม พร้อมหวังว่าจะมีการเลือกตั้งที่ตรงไปตรงมาและสงบเรียบร้อย

ขณะที่นายทรัมป์เดินสายเต็มวันทั้งในรัฐตัวแปร นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และวิสคอนซิน โดยกล่าวหาว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไม่เป็นธรรม อาจเกิดการโกงขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยไม่มีหลักฐานมาสนับสนุนเช่นเดิม พร้อมขู่ว่าจะดำเนินการทางกฎหมายให้หยุดการนับคะแนนหลังวันเลือกตั้ง หลังสัปดาห์ก่อนศาลฎีกาสหรัฐฯ อนุญาตให้นับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ในรัฐสวิง สเตต ได้ 3 วัน หลังจากปิดหีบเลือกตั้งในวันที่ 3 พ.ย.นี้

...

ขณะที่บรรยากาศการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ยังเป็นไปอย่างคึกคัก โดยสื่อมวลชนสหรัฐฯต่างรายงานว่า ยอดผู้ลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า พุ่งไปถึง 99 ล้านคน ในจำนวนนี้ 35.7 ล้านคนเดินทางไปลงคะแนนตามคูหาด้วยตนเอง ขณะที่กว่า 63 ล้านคน ลงคะแนนผ่านทางไปรษณีย์และจากข้อมูลการลงคะแนนใน 20 รัฐ พบว่า ผู้มีสิทธิ เลือกตั้งที่ลงทะเบียนไว้ว่าเป็นสมาชิกพรรครีพับลิกัน มาใช้สิทธิล่วงหน้ารวม 720,000 คน ส่วนผู้ลงะเบียนไว้ว่าเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต มาใช้สิทธิล่วงหน้ากว่า 7.7 ล้านคน

จากข้อมูลยังพบด้วยว่า มีบัตรลงคะแนนล่วงหน้า ทางไปรษณีย์กว่า 29 ล้านใบ ที่ยังไม่ถูกนำเข้าสู่ระบบ ซึ่งกรณีนี้ไม่มีความชัดเจนว่าจะมีบัตรที่ไม่ถูกนับคะแนนจำนวนเท่าไร แต่หลายรัฐกำหนดหลักเกณฑ์ไว้ว่าบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์จะถูกนับคะแนน ตราบใดที่มีตราประทับไว้ว่ารับเรื่องในวันที่ 3 พ.ย.ทั้งนี้ จากจำนวนผู้มาใช้สิทธิล่วงหน้าเกือบ 100 ล้านคนนั้น ทำให้มีการประเมินด้วยว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้ อาจมีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุดในรอบ 100 ปี ขณะที่การเลือกตั้งปี 2559 มีผู้มาใช้สิทธิจริงเพียง 138.7 ล้านคน จากผู้มีสิทธิ เลือกตั้งทั้งหมด 250 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 55.5 เปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ พรรครัฐบาลรีพับลิกัน ยังส่งตัวแทนยื่นฟ้องต่อศาลชั้นต้นของรัฐบาลกลาง ขอให้บัตรเลือกตั้ง 127,000 ใบ ในพื้นที่ฐานเสียงพรรคเดโมแครต ในรัฐเท็กซัส เป็นโมฆะ เนื่องจากใช้วิธีหย่อนบัตรเลือกตั้งแบบไดรฟ์-ทรู เพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม ซึ่งรีพับลิกันมองว่าผิดระเบียบแบบแผนการเลือกตั้ง ต่อมาตัวแทนรีพับลิกันได้เตรียมการขออุทธรณ์คำตัดสินแล้ว หลังศาลชั้นต้นของรัฐบาลกลางไม่รับฟ้อง

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ยังมองด้วยว่า พฤติกรรม ครั้งนี้อาจมาจากการที่พรรครีพับลิกันเริ่มไม่มั่นใจผลชี้ขาดในรัฐเท็กซัส หลังโพลบางสำนักระบุว่า รัฐเท็กซัสอาจเกิดความเอนเอียงกลายเป็นรัฐสวิง สเตต จากที่เป็นฐานที่มั่นสำคัญของรีพับลิกันมาตลอด ด้วยคะแนนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 38 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง และเกณฑ์กำหนดให้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งเกิน 270 เสียงคือผู้ชนะ ทั้งยังมีกรณีที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก หลังจากโพลระดับประเทศของการเลือกตั้งครั้งนี้ มีหลายสำนักที่คำนวณค่าความคลาดเคลื่อนไม่ได้ เนื่องจากคะแนนนิยมของนายไบเดน นำนายทรัมป์ อยู่ที่ 9 เปอร์เซ็นต์แบบไม่เปลี่ยนแปลง

...

ทั้งนี้ หากนายไบเดนชนะการเลือกตั้ง จะเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ และเป็นผู้นำที่มีอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ ส่วนนายทรัมป์จะกลายเป็นประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่ง เพียงสมัยเดียว ต่อจากนายจอร์จ บุช ประธานาธิบดีคนที่ 41 จากพรรครีพับลิกัน ในช่วงปี 2532-2536 นายจิมมี คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีคนที่ 39 จากพรรคเดโมแครต ในช่วงปี 2520-2524 และนายเจรัลด์ ฟอร์ด ประธานาธิบดีคนที่ 38 จากพรรครีพับลิกัน ในช่วงปี 2517-2520 ซึ่งสืบทอดตำแหน่งจากกรณีประธานาธิบดีริชาร์ด นิกซ์สัน ลาออก