สะเทือนใจเหตุฉาวคาห้อง เรียนโรงเรียนดังย่านสะพาน ปิ่นเกล้า นร.หญิงวัย 13 ปี ถูก เพื่อนชาย 5 คน ลากตัวไปรุม ทำอนาจารหลังห้องเรียนถึง 3 ครั้ง ต่อหน้าเพื่อนนักเรียนกว่า 30 คน สุดท้ายอยู่ในสภาพอุจาดตา ท่อนล่างเปลือยเปล่า โร่ร้องเรียนครูฝ่ายปกครอง กลับเอาเด็กชายทั้ง 5 คน พร้อมพ่อแม่มาไกล่เกลี่ยขอขมา หักคะแนนความประพฤติ และทำทัณฑ์ บีบเซ็นบันทึกข้อตกลงไม่ให้ ดำเนินคดีแพ่งและอาญา อ้างกลัวโรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง ถึงวันนี้เหยื่อยังไม่กล้าไปโรงเรียนอีกเลย ตำรวจ พร้อมสอบสวน ยันข้อตกลงที่เซ็นไปไม่คุ้มครองทาง กฎหมาย แต่เป็นหลักฐานสำคัญว่ามีเหตุฉาวเกิดขึ้นจริง

นักเรียนชายชั้น ม.2 รุมอนาจารเพื่อนหญิงในห้องเรียนรายนี้ เปิดเผยขึ้นที่ สน.บางยี่ขัน เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 3 พ.ย. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อและสตรี พานางแมว แม่ น.ส.มิ้ง พี่สาวของ ด.ญ.มิลค์ อายุ 13 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนมัธยมมีชื่อแห่งหนึ่งย่านสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เข้าแจ้งความ พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ สุขสำราญ รอง ผบก.น.7 รรท.ผกก.สน.บางยี่ขัน และ พ.ต.ท.พัฒนพงษ์ วิฤทธิ์เตชะ รอง ผกก. (สอบสวน) สน.บางยี่ขัน ให้ดำเนินคดีเพื่อนนักเรียนชายร่วมห้อง 5 คน ก่อเหตุร่วมกันทำอนาจาร เหตุเกิด เมื่อวันที่ 22 ต.ค.

ด.ญ.มิลค์เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 22 ต.ค. ขณะเข้าห้องรอเรียนวิชาคอมพิวเตอร์ ตนนั่งโต๊ะหน้าห้อง ขณะอาจารย์เดินไปทำธุระนอกห้อง นายเอ (นามสมติ) อายุ 17 ปีเพื่อนร่วมห้องที่เรียนซ้ำชั้นมาหลายปีหัวโจกในห้อง พร้อมเพื่อนชายอีก 4 คน อายุระหว่าง 13-14 ปี มาช่วยกันรุมจับแขนจับขาและปิดปากไม่ให้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนพาไปหลังห้องพยายามล่วงละเมิดทางเพศถึง 3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายเพื่อนในห้องมามุงดู เห็นตนในภาพเปลือยท่อนล่าง กลุ่มนายเอถึงแยกย้ายกันไปเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น

...

“ต่อมาหนูพร้อมเพื่อนสนิทไปแจ้งเรื่องกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง ก่อนที่อาจารย์จะเรียกนักเรียนชายทั้ง 5 คนมาสอบถาม พร้อมเรียกผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่าย มารับทราบเรื่อง นักเรียนชายทั้ง 5 คนให้การรับสารภาพ ทางโรงเรียนพยายามเกลี้ยกล่อมให้ฝ่ายตนตกลงไม่ดำเนินคดีกับนักเรียนชายทั้ง 5 คน เนื่องจากเกรงว่าโรงเรียนจะเสื่อมเสียชื่อเสียง ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่กล้าไปเรียนอีกเลย” ด.ญ.มิลค์เผยทั้งน้ำตา

นางแมว มารดา ด.ญ.มิลค์กล่าวว่า วันที่ 28 ต.ค.โรงเรียนนัดผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจา ตนไม่รู้ว่าโรงเรียนเตรียมบันทึกข้อตกลงไว้ ข้อความระบุว่า นักเรียนชายทั้ง 5 คนให้การรับสารภาพ ฝ่ายนักเรียนชายพร้อมผู้ปกครองทั้ง 5 ครอบครัวจะนำพวงมาลัยดอกไม้มากราบขอขมา แลกกับการไม่ดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา ส่วนโรงเรียนจะหักคะแนนความประพฤตินักเรียนชายคนละ 35 คะแนน พร้อมทำทัณฑ์บนหากกระทำความผิดเพิ่มเติมโรงเรียนจะย้ายสถานศึกษา น.ส.มิ้ง พี่สาวน้องมิลค์ถูกกดดันจนเซ็นรับทราบเรื่องดังกล่าว บันทึกข้อความมีผู้อำนวยการโรงเรียนเซ็นเป็นพยาน ตนสงสารลูกมากทุกคนทำเหมือนลูกสาวไม่ใช่คน แค่ดอกไม้ขอขมาแล้วจบ กลัวว่าจะเสียชื่อเสียงโรงเรียน ตัดสินใจไปขอให้มูลนิธิปวีณาฯช่วยพาเข้าแจ้งความ

นางปวีณากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมบ้านเราปัจจุบัน จำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ใช่ปกปิดปัญหาจะไม่จบ โรงเรียนต้องรายงานไปยังกระทรวงศึกษาธิการให้ลงมาแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดซ้ำ วันนี้ตนประสานไปยังผู้แทนกระทรวงศึกษา ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. ให้ ด.ญ.มิลค์และผู้ปกครองเข้าพบ รับทราบเรื่องและตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อแก้ปัญหาและป้องกันเหตุการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในโรงเรียนต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ สุขสำราญ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเรื่องของเยาวชน ต้องประสานนักจิตวิทยา สหวิชาชีพ ร่วมสอบสวนเด็กทั้งหมด ส่งผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย และเชิญตัวผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายมาสอบสวน ส่วนเอกสารที่โรงเรียนให้พี่สาวผู้เสียหายเซ็น เป็นหลักฐานสำคัญในการรับสารภาพว่า มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง