ภายในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จากทั่วโลก เพิ่มขึ้น 2.87 แสนราย มาอยู่ที่ 26,305,791 ราย รักษาหายแล้ว 17,513,165 ราย เสียชีวิต 868,746 ศพ จากการรายงานของศูนย์วิทยาศาสตร์และวิศวกรรมเชิงระบบ (CSSE) มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เมื่อเวลา 12.28 น. วันที่ 4 ก.ย.

  • สหรัฐฯ ยังคงอันดับ 1 ของโลก ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต ผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้น 4.4 หมื่นราย มาอยู่ที่ 6,150,655 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,094 ศพ มาอยู่ที่ 186,797 ศพ โดยรัฐนิวยอร์ก มีผู้เสียชีวิตมากสุด 32,976 ศพ ตามมาด้วยรัฐนิวเจอร์ซีย์ 15,971 ศพ

  • บราซิล ศูนย์กลางการแพร่ระบาดหนักในลาตินอเมริกา ยังคงมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 4.4 หมื่นราย มาอยู่ที่ 4,041,638 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 830 ศพ มาอยู่ที่ 124,614 ศพ และขณะนี้อาร์เจนตินา กำลังวิกฤติ ผู้ป่วยใหม่เพิ่มมากขึ้นถึง 1.2 หมื่นราย มาอยู่ที่ 451,198 ราย อันดับ 10 ของโลก เสียชีวิตเพิ่ม 243 ศพ มาอยู่ที่ 9,361 ศพ ส่วนเม็กซิโก มีผู้เสียชีวิตมากถึง 66,329 ศพ อันดับ 4 ของโลก จากจำนวนผู้ติดเชื้อ 616,894 ราย

  • การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ติดต่อกันนานหลายเดือน ได้ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ในหลายประเทศ เสียชีวิตในอัตราที่สูง อาทิ เม็กซิโก, บราซิล และสหรัฐฯ แม้จะมีอุปกรณ์การป้องกันอย่างเพียงพอก็ตาม โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์ในเม็กซิโก มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตสูงกว่าในสหรัฐฯ ถึง 4 เท่า และสูงกว่าในบราซิลถึง 8 เท่า โดยเมื่อต้นสัปดาห์นี้พบว่า บุคลากรทางการแพทย์ในเม็กซิโก จำนวน 102,494 ราย ติดเชื้อไวรัสโควิด และเสียชีวิตมากถึง 1,378 ราย



  • ทำแฟนคลับเป็นห่วง เมื่อโรเบิร์ต แพตทินสัน นักแสดงชาวอังกฤษ มีผลตรวจติดเชื้อโควิด ขณะรับบทพระเอกในภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่เรื่อง “แบทแมน” ขณะกำลังเริ่มถ่ายทำอยู่ในสหราชอาณาจักร ทำให้การถ่ายทำต้องถูกระงับลงในทันที ภายหลังก่อนหน้านั้นได้หยุดชะงักไปเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโควิด

  • อินเดีย จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต อันดับ 3 ของโลก ยังคงปูพรมตรวจหาผู้ติดเชื้อตามชุมชนต่างๆ ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยพบผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 8.4 หมื่นราย มาอยู่ที่ 3,936,747 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1,083 ศพ มาอยู่ที่ 68,472 ศพ ส่วนบังกลาเทศ ผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 2,158 ราย มาอยู่ที่ 319,686 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 32 ศพ มาอยู่ที่ 4,383 ศพ



  • สถานการณ์ในกลุ่มประเทศอาเซียน ศูนย์กลางการแพร่ระบาดยังอยู่ในฟิลิปปินส์ ผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 1,987 ราย มาอยู่ที่ 228,403 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 65 ศพ มาอยู่ที่ 3,688 ศพ และล่าสุดอินโดนีเซีย กลับมาพบผู้ป่วยใหม่เพิ่มมากขึ้นอีก 3,622 ราย สูงสุดในอาเซียน มาอยู่ที่ 184,268 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 134 ศพ มาอยู่ที่ 7,750 ศพ ตามมาด้วยสิงคโปร์ พบผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นอีก 48 ราย มาอยู่ที่ 56,908 ราย เสียชีวิตคงที่ 27 ศพ

  • มาเลเซีย พบผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 14 ราย มาอยู่ที่ 9,374 ราย เสียชีวิตคงที่ 128 ศพ และเพื่อความไม่ประมาท ทางรัฐบาลมาเลเซีย ประกาศห้ามพลเรือนจาก 9 ประเทศ เดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงในการเป็นพาหะแพร่เชื้อไวรัสโควิด ได้แก่ สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี รัสเซีย บราซิล ซาอุดีอาระเบีย และบังกลาเทศ มีผลบังคับใช้วันที่ 7 ก.ย. และก่อนหน้านี้เมื่อต้นสัปดาห์ได้ประกาศห้ามพลเมืองจาก 3 ประเทศเข้าประเทศ ทั้งอินเดีย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย

  • เมียนมา ต้องเผชิญวิกฤติการแพร่ระบาดอย่างหนัก จากจุดเริ่มในรัฐยะไข่ และลุกลามไปเมืองใกล้เคียง พบผู้ป่วยใหม่เพิ่ม 116 ราย มาอยู่ที่ 1,111 ราย แซงหน้าเวียดนามไปแล้ว เสียชีวิตยังคงที่ 6 ศพ ส่วนเวียดนาม ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ยังคงที่ 1,046 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ศพ มาอยู่ที่ 35 ศพ



  • ไทยอันดับ 121 ของโลก พบผู้ป่วยรายใหม่ 4 ราย โดยเป็นครั้งแรกในรอบ 100 วัน พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 1 ราย และอีก 3 รายเดินทางมาจากต่างประเทศเข้า State Quarantine รวมผู้ป่วยสะสม 3,431 ราย แยกเป็นผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 2,445 ราย และผู้ป่วยใน State Quarantine จำนวน 493 ราย หายป่วยแล้ว 3,277 ราย เสียชีวิตสะสม 58 ราย

  • ทำให้คนไทยต้องเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เมื่อพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 1 ราย ภายหลังประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศ หรือเป็นศูนย์มานาน 100 วัน โดยเป็นผู้ต้องขังชายไทย อายุ 37 ปี ก่อนรับโทษเคยเป็นดีเจ ทำงานในร้านอาหารหลายแห่ง เข้าสู่ระบบกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ตรวจหาเชื้อครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 ก.ย. พบเชื้อ และเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 29 ส.ค. มีเสมหะ เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลราชทัณฑ์

  • ผู้ป่วยอีก 3 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยคนแรก เป็นชายไทย อายุ 31 ปี เดินทางมาจากสหรัฐฯ มาถึงไทยวันที่ 25 ส.ค. เข้าพัก Alternative State Quarantine ในกรุงเทพฯ ตรวจครั้งที่ 1 พบเชื้อ เมื่อวันที่ 1 ก.ย.

  • ผู้ป่วยอีกราย ชายไทย อายุ 54 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางจากสิงคโปร์ มาถึงไทยเมื่อวันที่ 30 ส.ค. เข้าพัก State Quarantine ในกรุงเทพฯ ตรวจครั้งที่ 1 พบเชื้อ เมื่อวันที่ 2 ก.ย. โดยไม่มีอาการใดๆ

  • รายสุดท้าย ชายไทย อายุ 53 ปี อาชีพล่ามสำนักงานแรงงาน เดินทางมาจากซาอุดีอาระเบีย มาถึงไทยวันที่ 2 ก.ย. ตรวจครั้งที่ 1 พบเชื้อ เมื่อวันที่ 3 ก.ย. มีประวัติป่วยโควิด เมื่อช่วงเดือน ก.ค.ถึงเดือน ส.ค. เข้ารับการรักษาในซาอุดีอาระเบีย และผลตรวจก่อนกลับไทยไม่พบเชื้อ

  • สถิติผู้ป่วยที่เดินทางจากสหรัฐฯ มาไทย ขณะนี้มีจำนวน 49 ราย จากจำนวนผู้เดินทางเข้ามาไทย 7,093 ราย ส่วนผู้ป่วยเดินทางจากซาอุดีอาระเบียมาไทย มีจำนวน 44 ราย จากจำนวนผู้เดินทางเข้ามาไทย 493 ราย และผู้ป่วยจากสิงคโปร์ เดินทางเข้ามาไทย มีจำนวน 13 ราย จากจำนวนผู้เดินทางเข้ามาไทยทั้งสิ้น 2,127 ราย

  • จำนวนผู้ป่วยตามพื้นที่รักษาในแต่ละภูมิภาค ทั้งผู้ติดเชื้อภายในประเทศ และผู้ป่วยใน State Quarantine โดยกรุงเทพฯ และนนทบุรี มีจำนวน 1,850 ราย ภาคใต้ 744 ราย ภาคกลาง 630 ราย ภาคอีสาน 112 ราย และภาคเหนือ 95 ราย.

...