กระทรวงทรัพยากรฯเผยผลสอบทุจริตหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณบุคลากรกว่า 108 ล้านบาท ไปเพาะชำ 55 ล้านกล้าไม้ของนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เมื่อครั้งเป็น“ผอ.สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้” ปี 2553 มีมูลทำให้ราชการได้รับความเสียหายกว่า 23 ล้านบาท สั่งกรมป่าไม้ตั้งกรรมการสอบฐานละเมิด พบข้าราชการเกี่ยวข้องกับการเบิกจ่ายงบประมาณโดยมิชอบกว่า 200 คน ต้องคืนเงินให้กับราชการเฉลี่ยคนละ1แสนบาท

หลังมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาตั้งแต่ปี 2561 กรณีนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โอนเปลี่ยน แปลงงบประมาณบุคลากรกว่า 108 ล้านบาท ไปเพาะชำ 55 ล้านกล้าไม้ เมื่อครั้งนายธัญญาดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ว่า นางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการ ทส.ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต กรณีโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณบุคลากรกว่า 108 ล้านบาท ไปเพาะชำ 55 ล้านกล้าไม้ เมื่อครั้งนายธัญญา ดำรงตำแหน่ง ผอ.สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้ ช่วงเดือน ส.ค.ปีงบประมาณ 2553 ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมป่าไม้ให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนฐานละเมิด หลังจากการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของ ทส.พบว่า มีมูลตามที่ถูกกล่าวหา

ทั้งนี้ จากการสอบสวนข้อเท็จจริงปรากฏว่า การจัดทำโครงการดังกล่าวได้ประมาณการเพาะชำกล้าไม้ตามอัตราราคางานต่อหน่วยตามแผนงานปกติ โดยรวมค่าบำรุงรักษากล้าไม้ดังกล่าวไว้ด้วย แต่การดำเนินการเพาะชำกล้าไม้ตามโครงการดังกล่าวมีระยะเวลาไม่ถึง 2 เดือน ไม่ควรผนวกค่าบำรุงรักษากล้าไม้ทั่วไปในราคา 0.40 บาท ต่อกล้าและค่าบำรุงรักษากล้าไม้ขนาดใหญ่ ราคา 1.723 บาทต่อกล้า ไว้ในโครงการดังกล่าว ไม่สอดคล้องกับกิจกรรมบำรุงรักษากล้าไม้ที่ดำเนินการตามปกติซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 เดือน ที่กำหนดไว้ตามเอกสารการจัดการเพาะชำกล้าไม้คุณภาพ ต่อมาได้มีการเบิกจ่ายงบประมาณเสร็จสิ้นตามแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินประจำปีงบ ประมาณ พ.ศ.2553 (เพิ่มเติม) ครบถ้วน เป็นเหตุให้ราชการได้รับความเสียหายรวมเป็นเงินจำนวน 23,323,272.90 บาท จึงแจ้งผลการสืบสวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเฉพาะในประเด็นความเสียหายแก่ราชการมาเพื่อให้กรมป่าไม้ในฐานะเจ้าของ งบประมาณพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

...

ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ ถึงเรื่องนี้และได้รับคำตอบว่า ได้รับหนังสือแจ้งจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของ ทส.แล้ว และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบฐานละเมิดเพื่อเรียกค่าเสียหายคืนให้กับราชการ มีนายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นประธาน และมีข้าราชการกรมป่าไม้เป็นกรรมการ เบื้องต้น พบว่ามีข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต กรณีโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณบุคลากรกว่า 109 ล้านบาท ไปเพาะชำ 55 ล้านกล้าไม้ กว่า 200 คน เพราะมีการเบิกจ่ายงบประมาณโดยมิชอบต้องคืนเงิน เฉลี่ยแล้วตกคนละประมาณ 1 แสนบาท มากน้อยตามการเบิกจ่าย โดยให้เร่งดำเนินการสบสวนโดยเร็วที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่มีเรื่องร้องเรียน นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขณะดำรงตำแหน่ง “ผอ.สำนักส่งเสริมการปลูกป่า กรมป่าไม้” ช่วงเดือน ส.ค.ปีงบประมาณ 2553 ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต กรณีโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณบุคลากรกว่า 108 ล้านบาท ไปเพาะชำ 55 ล้านกล้าไม้ไปเป็นงบเพาะชำกล้าไม้ เกิดขึ้นหลังจากนายสมัคร ดอนนาปี อดีต ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานฯ ทำหนังสือร้องเรียนไปที่นายวิจารณ์ สิมาฉายา ปลัด ทส.เมื่อประมาณเดือน มิ.ย.2561 ต่อมาเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.นายวิจารณ์ ได้ทำหนังสือถึง น.ส.สุทธิลักษณ์ ระวีวรรณ รักษาการอธิบดีกรมป่าไม้ ขณะนั้น ให้ตรวจสอบเรื่องร้องเรียนนายธัญญาก่อนจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกรมป่าไม้และส่งผลสอบสวนให้กับ ทส.ก่อนที่ ทส.จะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีนางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ ผู้ตรวจราชการ ทส.ในฐานะประธาน ก่อนที่ผลการสอบสวนเบื้องต้นจะออกมาและพบว่ามีมูลเฉพาะในประเด็นความเสียหายแก่ราชการจนนำไปสู่คณะกรรมการเรียกค่าเสียหายแก่ราชการกว่า 23 ล้านบาท