ตำรวจภาค 5 บุกขอพ่อแม่พยานปากเอกคดีบอส อยู่วิทยา นำศพผ่าชันสูตรรอบ 2 รองโฆษก ตร.แจงเหตุ เพื่อคลี่คลายทุกประเด็นสงสัยและตอบคำถามสังคมได้ “วิชา” เผย “บิ๊กตู่” สั่งอายัดศพพยาน สอบสาเหตุการตาย ชี้ถึงเวลายกเครื่องกระบวนการยุติธรรม ตั้งข้อสังเกตส่วนตัวพยานตายผิดธรรมชาติ 3 ส.ค. จะประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งแรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุนายกฯ ให้ความสำคัญในคดีนี้ ต้องไม่เป็นที่ค้างคาใจ ปชช. “ศรีสุวรรณ” ฉงน “ศตวรรษ” มาตรวจสอบหรือแก้ต่าง “บวรศักดิ์” เชื่อสังคมจับจ้อง ผลชันสูตรพยานต้องโปร่งใส
ยังคงเป็นเรื่องที่ประชาชนทั้งประเทศและตำรวจชั้นผู้น้อยสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์ถึงกระบวนการยุติธรรม หลังอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวรยุทธ หรือ บอส อยู่วิทยา จากเหตุขับรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสิรฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตบนถนนสุขุมวิท เมื่อเช้ามืดวันที่ 3 ก.ย.55 ตำรวจหลายหน่วยที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าท้องที่หรือ ตม.ต่างถอนหมายจับรวมทั้งประสานตำรวจสากล ถอนหมายแดง “อินเตอร์โพล” เป็นเหตุให้นายวรยุทธที่หลบหนีอยู่นอกประเทศพ้นผิด สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้ แต่ในขณะที่หลายฝ่ายจี้ให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเพราะเคลือบแคลงสงสัยในกระบวนการยุติธรรมจากต้นทางคือตำรวจและกลางทางคืออัยการ กลับพบว่า 1 ใน 2 พยานปากเอก ที่ให้การว่านายวรยุทธขับรถไม่เกิน 80 กม./ชม. จนทำให้อัยการสั่งไม่ฟ้อง คือนายจารุชาติ มาดทอง อายุ 40 ปี ชาว จ.เชียงราย เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถ จยย.ขี่ชนกัน ที่บริเวณแยกฟ้าธานี ถนนห้วยแก้ว อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 30 ก.ค.63 ศพจะฌาปนกิจในวันที่ 2 ส.ค.นี้ ยิ่งสร้างความงงงันระคนสงสัยให้กับสังคมมากยิ่งขึ้น
...
ตำรวจบุกขอนำศพพยานผ่ารอบ 2
ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ส.ค. พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ ไชยบาล รอง ผบก.ภ.จ.เชียงราย พ.ต.อ.ชาตรี กุลวัฒน์ ผกก.พาน เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 225 หมู่ 15 บ้านวังชมภู ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย สถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศลนายจารุชาติ มาดทอง พยานปากเอกในคดีนายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา เข้าพบนางตา วังมูล และนายสมาน วังมูล พ่อแม่นายจารุชาติ ขณะกำลังทำบุญศพลูกชายอยู่บนบ้าน เพื่อขอนำศพไปผ่าพิสูจน์ มีผู้ใหญ่บ้าน ญาติพี่น้องร่วมเจรจา นางตากล่าวว่า มีค่าใช้จ่ายทำศพหมดไป 2 แสนบาท แต่จะขอเรียกเพียง 1 แสนบาท ทำให้ พ.ต.อ.พงษ์สวัสดิ์ชี้แจงว่า ถ้าจะมาเหมาว่างานศพหมดเท่านี้ ก็จะเรียกเท่านี้คงไม่ใช่ เพราะตำรวจไม่ใช่เป็นคู่กรณี เพียงมาประสานเพื่อนำศพไปผ่าพิสูจน์ตามกระบวนการของกฎหมาย
ผู้การเชียงใหม่ร่วมเจรจาพ่อแม่
ไล่เลี่ยกัน พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันตสิน ผบก. ภ.จ.เชียงใหม่ พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้เดินทางโดยเครื่องเฮลิคอปเตอร์จาก จ.เชียงใหม่ มาที่งานศพนายจารุชาติ เพื่อร่วมเจรจากับพ่อแม่นายจารุชาติราวครึ่งชั่วโมง จากนั้น พล.ต.ต.พิเชษฐ์ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ต้องนำศพไปผ่าพิสูจน์ ส่วนหนึ่งพ่อแม่ยังสงสัยเหตุการตายอยู่ และจะได้ตอบคำถามสังคมได้ สุดท้ายพ่อแม่ยอมมอบศพเพื่อผ่าพิสูจน์ในกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากประกอบพิธีทำบุญที่บ้านและเคลื่อนศพไปทำพิธีบังสุกุลที่สุสานแล้ว มอบศพนำขึ้นรถตู้ของ รพ.พาน เพื่อส่งไปที่นิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมกันนี้ พล.ต.ต.พิเชษฐได้มอบเงินช่วยเหลือค่าทำศพ 50,000 บาท ให้พ่อแม่นายจารุชาติด้วย
ศพถึงเชียงใหม่แพทย์ผ่าพิสูจน์ทันที
รายงานล่าสุด เย็นวันเดียวกัน รถตู้ รพ.พาน จ.เชียงราย ที่ไปรับศพนายจารุชาติ พยานปากเอกที่ถูกสั่งอายัดศพ เดินทางมาถึงหน่วยรักษาศพ ด้านหน้าภาควิชานิติเวช รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ได้นำเข้าไปในห้องเก็บรักษาศพ มีอาจารย์แพทย์นิติเวช และ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ร่วมสังเกตการณ์ในการชันสูตร โดย นพ.พงษ์รักษ์ ศรีบัณฑิตมงคล ศาสตราจารย์ประจำภาควิชานิติเวช คณะแพทยศาสตร์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ กล่าวว่า วันนี้ทีมแพทย์จะชันสูตรศพอีกครั้ง ตามประเด็นที่ประชาชนและตำรวจได้ตั้งข้อสงสัยเอาไว้ การตรวจพิสูจน์ครั้งแรกก็เป็นการตรวจที่ครบถ้วนทุกอย่าง ตามหลักกฎหมาย
กองปราบฯร่วมวงสางคดี
ขณะที่ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. กล่าวว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป.นำกำลังลงพื้นที่สนับสนุนตำรวจท้องที่เพื่อช่วยสืบหาข้อเท็จจริง ในลักษณะการทำงานแบบคู่ขนานควบคู่กันไป และทำงานด้วยความละเอียดรอบคอบทุกขั้นตอน เช่น การตรวจสอบที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิดตามริมเส้นทางที่ติดตั้งอยู่จุดต่างๆ ทั้งก่อนเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ รวมถึงเรียกสอบปากคำพยานบุคคล ที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์และบุคคลใกล้ชิดทั้งหมด สำหรับสาเหตุตอนนี้กองปราบฯ ยังบอกไม่ได้ว่าเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุหรือจัดฉากฆาตกรรม และยังไม่ตั้งประเด็นไปในทิศทางใด ต้องใช้เวลาในการตรวจพิสูจน์ทราบทั้งแนวทางสืบสวนสอบสวนและหลักนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนศพที่ถูกอายัดจะให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้พิจารณาและตัดสินใจว่าจะมีการนำศพผ่าชันสูตรที่ไหน ระหว่างที่เชียงใหม่ หรือจะนำมาที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ จะต้องมีการหารือกันอย่างละเอียดอีกครั้ง
...
“ท้ายนี้ไม่ว่าสาเหตุคดีดังกล่าวจะออกมาในรูปแบบใด เจ้าหน้าที่จำเป็นจะต้องพิสูจน์ข้อสงสัยต่างๆ ถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงให้แน่ชัด เพื่อที่จะได้สามารถตอบคำถามจากสังคมและเพื่อความเป็นธรรมแก่ทุกๆฝ่าย” ผบก.ป.กล่าว
แจงเหตุอายัดเพื่อตอบสังคมให้ได้
ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ว่า ช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ ได้ขอความร่วมมือกับญาติและครอบครัว นายจารุชาติ ผู้เสียชีวิต จากคดีอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ค. ในการนำศพกลับมาชันสูตรพลิกศพโดยละเอียดอีกครั้ง ที่นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เป็นการชันสูตรพลิกศพครั้งที่ 2 เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและสามารถตอบคำถามสังคมได้
เร่งขยายผลหาความเชื่อมโยงคู่กรณี
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่อว่า พนักงานสอบสวนจะนำผลการชันสูตรพลิกศพทั้ง 2 ครั้ง เข้าประกอบสำนวนการสอบสวน ก่อนหน้านี้ หลังเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้บันทึกตรวจสถานที่เกิดเหตุ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุประกอบคดี ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจที่เกิดเหตุเก็บวัตถุพยานต่างๆและแพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น แล้วได้ส่งศพผู้เสียชีวิตไปชันสูตรที่นิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ พร้อมให้เร่งสืบสวนขยายผลหาความเชื่อมโยงกับคู่กรณีและข้อมูลการใช้โทรศัพท์ ตลอดจนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ตามขั้นตอนกฎหมาย
...
ผบ.ตร.สั่งคลี่คลายทุกปมสงสัย
รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า การเสียชีวิตของนายจารุชาติ เป็นการเสียชีวิตที่ผิดธรรมชาติ สังคมยังมีความเคลือบแคลงสงสัยในประเด็นการเสียชีวิต รวมถึงความเชื่อมโยงในการเป็นพยานในคดีของนายวรยุทธในเรื่องนี้ คณะพนักงานสอบสวน ได้ทำสำนวนการสอบสวน แบ่งออกเป็น 2 คดี คือ 1.สำนวนคดีจราจร และ 2.สำนวนชันสูตรพลิกศพ ยังต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์นิติเวช ประกอบกับผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุจากกองพิสูจน์หลักฐาน และข้อมูลทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ในประเด็นข้อสงสัยต่างๆ ผบ.ตร.กำชับให้ดำเนินการด้วยความรวดเร็วและความรอบคอบ เร่งคลี่คลาย ประเด็นข้อสงสัยในทุกประเด็นจนสิ้นกระแสความ สามารถตอบคำถามสังคมและประชาชนได้อย่างเป็นเหตุและผล อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงทางคดีเป็นสำคัญ เร่งสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมให้กับประชาชน
วิชาเผยบิ๊กตู่สั่งอายัดศพ
วันเดียวกัน นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิต เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการด่วนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอายัดศพนายจารุชาติ มาดทอง พยานคนสำคัญคดีที่เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตที่ จ.เชียงใหม่ ที่จะฌาปนกิจศพในวันที่ 2 ส.ค. เพราะเห็นว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นต้องตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม นอกจากนี้ จะขอให้นายกฯใช้อำนาจสั่งคุ้มครองพยานคนอื่นในคดีนี้ด้วย รวมถึงหลักฐานต่างๆในคดีทั้งกระบวนการ และวันที่ 3 ส.ค. คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯจะประชุมนัดแรก ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อกำหนดกรอบการทำงานเร่งรัดให้ได้ข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด
...
ชี้ถึงเวลายกเครื่องกระบวนการยุติธรรม
นายวิชากล่าวด้วยว่า การทำงานตามกรอบ 30 วันของคณะกรรมการชุดนี้ ต้องดูให้รอบคอบ หากคณะกรรมการชุดนี้ตรวจสอบคดีเฉยๆคิดว่า 30 วันคงเพียงพอทำให้สังคมเชื่อถือและเชื่อมั่นในระบบกระบวนการยุติธรรมไทย แต่ถ้าจำเป็นต้องให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ อาจต้องใช้เวลาต่อ ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนายกฯ คณะกรรมการชุดนี้ต้องรายงานเสนอนายกฯทุก 10 วัน ส่วนความคาดหวังของสังคมนั้น เมื่อมาอยู่ในจุดที่ต้องรับผิดชอบก็เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมเสื่อมทรุดไปกว่าเดิม อาจมีเรื่องของผลประโยชน์เงินและอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในทุกชาติ ถึงเวลาที่ต้องยกเครื่องและการทำงานใหม่ สังคมต้องเข้าใจในจุดนี้ เนื่องจากเราปล่อยปละละเลยเรื่องนี้มานานพอสมควรถึงเวลาเอาจริงเอาจังกับระบบกระบวนการยุติธรรมไทย ถึงขนาดนายกฯสั่งการรวบรวมความคิดจากผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆรวมถึงเอาคดีความมาเป็นแม่แบบ หรือต้องถอดบทเรียน หากปล่อยทิ้งไปเมื่อคณะกรรมการชุดนี้ไปนั่งสอบเฉยๆจะทำให้เสียเวลา ทั้งนี้จะขออะไรที่นายกฯสามารถทำได้เพื่อประชาชน คณะกรรมการชุดนี้ก็จำเป็นต้องทำ
ตั้งปมส่วนตัวพยานตายผิดธรรมชาติ
เมื่อถามถึงกรณีที่พยานปากสำคัญ 1 ใน 2 พยานที่เสียชีวิตกะทันหัน นายวิชากล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูให้รอบคอบและลึกลงไปในรายละเอียดโดยเฉพาะต้องตรวจสอบที่มาที่ไปอย่างละเอียด สรุปเบื้องต้น ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกระบวนการหากเสียชีวิตโดยผิดปกติหรือผิดธรรมชาติ แต่ตนตั้งข้อสังเกตผู้เสียชีวิตตายแบบผิดธรรมชาติ ต้องใช้การไต่สวนชันสูตรพลิกศพว่าเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวหรือไม่ อย่างไร เพราะอยู่ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาอยู่แล้ว เว้นแต่จะไม่ทำเท่านั้น
ยัน นายกฯ ไม่ให้คดีนี้คาใจ ปชช.
ด้าน น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกฯให้ความสำคัญกับคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน สั่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอายัดศพนายจารุชาติ มาดทอง ไว้ก่อน เพื่อนำกลับมาชันสูตรพลิกศพสืบหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดรอบคอบ ไม่เป็นข้อกังขาคาใจของประชาชน ยืนยันว่าไม่ใช่การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม นายกฯคาดหวังให้คณะกรรมการตรวจสอบความจริงของหน่วยงานต่างๆได้ทำงานอย่างเต็มกำลัง พร้อมให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนำเสนอความจริงต่อนายกฯ และสาธารณชน ก่อนจะพิจารณาว่าควรดำเนินการอย่างไรต่อไป ยืนยันว่ารัฐบาลจะอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในคดีดังกล่าว หากพบมีการกระทำความผิด คนผิดต้องได้รับการลงโทษ คดีนี้จะไม่เป็นที่ค้างคาใจของประชาชน นอกจากนี้ยังต้องไปดูโครงสร้างของกระบวนการยุติธรรมด้วย ว่ามีช่องโหว่หรือไม่ ควรได้รับการปรับปรุงแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติให้สังคมเกิดข้อกังขากับกระบวนการยุติธรรมของไทย
“ศรี” ฉงน “บิ๊กติ๊ก” ตรวจสอบหรือแก้ต่าง
ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินคดี นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส ออกมาตั้งโต๊ะแถลงแก้ต่างเกี่ยวกับการใช้สารโคเคนรักษาฟัน แต่ทันตแพทย์ที่รักษานายวรยุทธยืนยันไม่ได้ให้ยาที่เกี่ยวข้องกับสารเสพติด เพียงแค่ให้ยาปฏิชีวนะเท่านั้น หลังจากนี้ เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง สารที่พบเกิดจากการเสพโคเคนร่วมกับแอลกอฮอล์ หรือเกิดจากปฏิกิริยาของยาปฏิชีวนะ ถ้ามีหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าสารทั้ง 2 ตัวเป็นสารเสพติด คณะทำงานต้องพิจารณาเสนอให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป คำแถลงดังกล่าวดูเหมือนจะทำหน้าที่เกินกว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ การออกมาแถลงเช่นนั้น ประหนึ่งว่าจะพยายามแก้ต่างให้ตำรวจที่คณะของตนต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นนี้ จึงน่าเป็นที่เคลือบแคลงว่าผลสรุปของการคณะกรรมการฯ อาจทำให้ประชาชนคิดไปได้ว่าเป็นดั่งมวยล้มต้มคนดูก็เป็นไปได้
“บวรศักดิ์” ชี้สังคมจับตาผ่าศพพยาน
ด้านนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย และกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ให้สัมภาษณ์กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งอายัดศพนายจารุชาติ มาดทอง ว่า ถือเป็นเรื่องดี ควรจะเป็นอย่างนั้น การชันสูตรมีสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ที่มีหน้าที่โดยตรง สามารถทำหน้าที่ได้ หรือตำรวจเขาก็มีวิชาชีพของเขา เมื่อนายกฯสั่งแล้วต้องให้เวลาเขา เชื่อว่าสังคมตามอยู่ คนที่เกี่ยวข้องต้องรู้สำนึกอยู่แล้วจะทำแบบไม่โปร่งใสไม่ได้ การที่นายกฯรับฟังข้อเสนอของคณะกรรมการฯ และให้การสนับสนุนเต็มที่ ทำให้คณะกรรมการฯทำงานง่ายขึ้น คิดว่าเวลาที่ให้มา 30 วันน่าจะเพียงพอ
อวย “วิชา” เชื่อมือและความบริสุทธิ์ใจ
นายบวรศักดิ์กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องข้อเสนอแนะเรื่องการปฏิรูปนั้น ที่ผ่านมาก็มีข้อเสนอแนะที่ทำกันไว้อยู่บ้างแล้ว เช่น แผนการปฏิรูปตำรวจของคณะ กรรมการปฏิรูปตำรวจ หรือคณะกรรมการที่ยกร่างกฎหมาย ที่มีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธาน ทำเสร็จไปแล้ว มันไม่ได้เริ่มจากศูนย์ แต่ต้องถามนายวิชา มหาคุณ ในฐานะประธานว่าจะมีแนวทางอย่างไร ทั้งนี้ การประชุมคณะกรรมการฯ วันที่ 3 ส.ค. คงพูดคุยกันเรื่องการทำงานว่าจะทำกันอย่างไร แบ่งหน้าที่รับผิดชอบกันอย่างไร ขึ้นอยู่กับนายวิชาในฐานะประธาน อย่างไรก็ตาม นายวิชาเป็นอดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เป็นอดีตกรรมการ ป.ป.ช. เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่ตนเคารพนับถือ รู้จักกันมานาน เชื่อในฝีมือและความบริสุทธิ์ใจ ส่วนที่สังคมคาดหวังกับคณะกรรมการฯชุดนี้สูง เราทำให้เขาผิดหวังไม่ได้
“สมชาย” เผย กมธ.เกาะติดพยานดับ
ส่วนนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ขอเรียกร้องฝ่ายที่เกี่ยวข้องแต่งตั้งบุคคลเข้าไปทำหน้าที่คนกลาง เป็นสักขีพยานการผ่าพิสูจน์ร่างนายจารุชาติ มาดทอง เพราะเชื่อว่า การเสียชีวิตดังกล่าวไม่ใช่แค่การเกิดอุบัติเหตุทางถนน ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสรุป การประชุม กมธ. วันที่ 3 ส.ค. จะหารือติดตามการตรวจสอบคดี และการชันสูตรพลิกศพนายจารุชาติ และตรวจสอบรายละเอียดที่เกิดขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าเป็นการเสียชีวิตที่มีเงื่อนงำ และเสียชีวิตอย่างผิดธรรมชาติ ที่อาจมีประเด็นของการฆ่าตัดตอนพยานเกิดขึ้นได้ หากตรวจสอบตรงไปตรงมาอาจพบเรื่องให้การเท็จได้ จะเกี่ยวข้องต่อการวิ่งเต้นคดี การตัดตอนพยานหรือไม่ ต้องมีฝ่ายที่ติดตามการทำงาน เมื่อถามว่า กรณีตรวจสอบคดีนายวรยุทธ ที่มีนายสมัคร เชาวภานันท์ อดีต ส.ว. เป็นทนาย จะถูกตั้งคำถามเรื่องความสัมพันธ์หรือไม่ นายสมชายกล่าวว่า แม้นายสมัครจะเป็น ส.ว.ช่วงเดียวกัน แต่การทำงานตนตรงไปตรงมา ยอมรับว่ารู้จักกับนายสมัคร รวมถึงนายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีต ส.ว.เชียงใหม่ และนายธานี อ่อนละเอียด ส.ว. รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระบวนการยุติธรรมผู้ทำคดี แต่การทำงานครั้งนี้ไม่สามารถนำความรู้จักเพื่อเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้