ผกก.สน.หลักสอง เผยต้องเรียกหนุ่มปอร์เช่ คู่กรณีเสี่ยตี๋ที่ยก พวกเปิดศึกยิงกันมาสอบปากคำก่อนถึงจะตอบได้ว่าปมยิง ครั้งนี้มาจากธุรกิจอะไร พร้อมทั้งตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยและหัวกระสุนในบ้านเสี่ยตี๋ ขณะเดียวกันคู่กรณีโต้ผ่านสื่อวุ่น ต่างฝ่ายต่างโวยถูกยิงก่อน ขณะที่น้องเตย อดีตนักแสดงสาวพร้อมแฟนหนุ่มทำธุรกิจเช่ารถ นำหลักฐานเจ้าของรถปอร์เช่ ที่ถูกยิงพรุนพบตำรวจ ระบุคู่กรณีเสี่ยตี๋มาขอเช่าวันละ 2 หมื่นบาท ก่อนเกิดเหตุไม่กี่วัน

จากเหตุขัดแย้งเรื่องธุรกิจขายหน้ากากอนามัยถึงขั้นเปิดศึกใช้ปืนยิงกันระหว่างนายธนกฤต สถิจชวา อายุ 44 ปี กับนายอธิป หรือวิน ขวัญบุญ อายุ 25 ปี สาเหตุเบื้องต้นมาจากเรื่องที่นายธนกฤตรวบรวมผู้เสียหายจากการซื้อขายหน้ากากอนามัยไปฟ้องร้องนายอธิป เป็นเหตุให้นายอธิป ขับรถปอร์เช่ สีเหลือง ป้ายแดง ล-7195 กรุงเทพมหานคร พร้อมพรรคพวกที่มาด้วยกันใช้รถอัลพาร์ดและรถคัมรีอีก 2 คัน เพื่อเจรจากับนายธนกฤต ที่บ้าน ในซอยพุทธมณฑล สาย 2 ซอย 11 แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. แต่เกิดเหตุยิงกันจนฝั่งนายอธิป กับพวกต้องทิ้งรถปอร์เช่ ที่เช่ามาหลบหนี เบื้องต้นพบว่ามีนายอภิรักษ์ คลังแสง กลุ่มที่มากับนายอธิปถูกยิงที่แขนบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 1 ส.ค. ตามที่เสนอข่าวไปนั้น

ความคืบหน้าเรื่องนี้ เมื่อช่วงสายวันที่ 2 ส.ค. พ.ต.อ.สมยศ อุดมรักษาทรัพย์ ผกก.สน.หลักสอง เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำนายธนกฤต สถิจชวา ไปแล้ว ให้การอ้างว่าสาเหตุเป็นเรื่องของธุรกิจ แต่จะขัดแย้งอย่างที่กล่าวอ้างหรือไม่ ต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม พร้อมประสานนายอธิป ขวัญบุญ คนขับรถปอร์เช่มาสอบปากคำในวันที่ 3 ส.ค. แต่ยังไม่ได้นัดเรื่องเวลา เนื่องจากนายอธิปต้องการปรึกษาทนายความก่อน ส่วนเหตุการณ์นี้ได้รับรายงานมีผู้บาดเจ็บ 2 คน คือนายอภิรักษ์ คลั่งแสง อายุ 27 ปี ถูกยิงที่แขน อีกคนคือนายอธิปถูกกระจกบาดตามร่างกายเท่านั้น

...

ด้าน พ.ต.อ.นครินทร์ สุคนธวิท รอง ผบก.น.9 เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด ช่วงบ่ายวันนี้ได้สั่งการให้ตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านของผู้ขับรถปอร์เช่อย่างละเอียด เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อหาใคร สำหรับกรณีที่มีนำปืนออกมาใช้ ต้องดูว่ามีเหตุอันสมควรหรือไม่ เป็นการป้องกันตัวหรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะมีการทำงานอย่างตรงไปตรงมา

ต่อมาเวลา 17.00 น. นายอธิป หรือวิน ขวัญบุญ อายุ 25 ปี คนขับรถปอร์เช่ เผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ทำธุรกิจเกี่ยวกับการซื้อขายเครื่องมือแพทย์ เหตุที่เกิดขึ้นนั้น เสี่ยตี๋โทรศัพท์ให้ไปหาที่บ้านเพื่อพูดคุยประเด็นค้างคาใจในฐานะที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์เหมือนกัน ตนและพวกขับรถไป 3 คัน มีรถปอร์เช่ที่ตนเช่ามา รถเก๋งโตโยต้า คัมรี และรถตู้อัลพาร์ด เมื่อถึงหน้าบ้านเสี่ยตี๋ที่ซอยทางเข้าค่อนข้างแคบ ได้ถอยหลังรถเข้าไปจอดใกล้บ้าน แล้วโทรศัพท์ไปบอกเสี่ยตี๋ว่าถึงแล้ว แต่ยังไม่ทันวางสาย มีเสียงปืนยิงดังขึ้นเป็นระยะๆ รีบหมอบทันที

นายอธิปเผยอีกว่า ขณะเดียวกันนายอภิรักษ์ หรือเม่น คลังแสง อายุ 27 ปี เพื่อนที่นั่งอยู่บนรถตู้อัลพาร์ดวิ่งลงมาช่วย แต่ถูกยิงร่วงลงไปกับพื้น เพื่อนในรถที่มาด้วยกันอีก 2 คันต้องรีบนำขึ้นรถไปส่งโรงพยาบาล ส่วนตนอยู่บนรถปอร์เช่ ถูกยิงกระหน่ำต้องหลบหนีไปแอบที่สนามฟุตบอล ห่างบ้านเสี่ยตี๋เล็กน้อยก่อนจะขึ้นแท็กซี่หนีออกมา ยืนยันว่า วันเกิดเหตุไม่ได้ยิงใส่บ้านเสี่ยตี๋ อีกทั้งไม่ได้มีปัญหาในเรื่องหน้ากากอนามัยหรือเรื่องค้าขายเครื่องมือทางการแพทย์โดยตรงอย่างแน่นอน แต่เข้าใจผิดกันบางอย่างในวงการค้าขายสินค้าแบบเดียวกัน ที่ยังไม่กล้าออกมาแจ้งความเพราะกลัวอิทธิพลมืด เชื่อว่าเสี่ยตี๋น่าจะรู้จักนายตำรวจใหญ่หลายคน

ขณะที่นายธนกฤต หรือเสี่ยตี๋ สถิจชวา อายุ 44 ปี เปิดเผยว่า ทำธุรกิจค้าขายเสื้อผ้าให้หน่วยงานราชการเป็นหลัก แต่ช่วงโควิด-19 มีหน้าที่จัดหาหน้ากากอนามัยกับชุด PPE ไปบริจาคให้หน่วยราชการและโรงพยาบาล จนได้ยินชื่อเสียงนายวินคู่กรณี แต่ไม่เคยเจอกันเป็นการส่วนตัว กระทั่งเดือน เม.ย.-พ.ค.63 มีผู้เสียหายหลายรายได้รับความเสียหายจากการซื้อสินค้าของนายวิน ได้ไปปรึกษาทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ เพื่อรวมตัวผู้เสียหายไปแจ้งความ เชื่อว่านายวินรู้จึงไม่พอใจ กระทั่งคืนเกิดเหตุ นายวินและพวกบุกมาที่บ้าน นำรถ 3 คัน ถอยหลังเข้ามาในซอย แล้วโทรศัพท์มาถามเลขที่บ้าน พร้อมมีเสียงปืนจากฝั่งนายวิน ดังขึ้นก่อน 1 นัด ได้ถามกลับไปว่า ต้องใช้ปืนเลยหรือ กลับมีเสียงปืนดังอีก 2-3 นัดแทนคำตอบจนต้องใช้ปืนส่วนตัวยิงสวนออกไป

เสี่ยตี๋คู่กรณีหนุ่มปอร์เช่กล่าวต่อว่า ระหว่างยิงสวนไปนั้นได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจด้วย มีหลักฐานยืนยันทั้งการโทร.และมีพยานยืนยันพฤติการณ์ก่อนเกิดเหตุ และยังทราบว่าฝ่ายนายอธิป มีทหารอากาศยศร้อยโทนายหนึ่งเจ็บด้วยเล็กน้อย แต่ไม่เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเนื่องจากกลัวตกเป็นข่าว จากนี้เกรงว่าครอบครัวและชาวบ้านข้างเคียงจะไม่ปลอดภัย ประสานขอตำรวจเข้ามาดูแลในซอยบ้าน ส่วนการดำเนินคดีหลังจากนี้ให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยจะปรึกษาทนายเข้าแจ้งความเพิ่มเติมกับนายวิน กรณีนำภาพตนกับภรรยาไปโพสต์หมิ่นประมาท และจะพาผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการซื้อขายหน้ากากอนามัยและถุงมือแพทย์จากนายวิน มูลค่าความเสียหายรวมกันหลักล้านบาท เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ด้วย

มีรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงดึกวันที่ 1 ส.ค. น้องเนย-ชลธิชา ชัยชิต อดีตดารานักแสดง และรองอันดับ 1 มิสทีน 2013 พร้อมนายจิรวัฒน์ เลิศกษิต แฟนหนุ่ม ประกอบธุรกิจให้เช่ารถยนต์ เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อแสดงตัวเป็นเจ้าของรถปอร์เช่คันเกิดเหตุ พร้อมเอกสารการเช่ารถของนายอธิปคู่กรณีเสี่ยตี๋ น้องเนย-ชลธิชาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนและแฟนหนุ่ม ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับนายอธิป ก่อนหน้านี้ในช่วงโควิด-19 ตนและแฟนหนุ่ม อยากทำธุรกิจขายหน้ากากอนามัย ทราบว่านายอธิป ทำธุรกิจทางด้านนี้ นำหน้ากากอนามัยมูลค่า 5 แสนบาท ไปฝากขาย แต่นายอธิปไม่ขายให้จึงไปเอาคืนมาขายเอง ส่วนเรื่องเช่ารถปอร์เช่คันเกิดเหตุ ได้รับการติดต่อจากนายหน้าว่านายอธิปมาขอเช่ารถ ตอนแรกตนและแฟนหนุ่มไม่อยากให้เช่า คิดว่าถ้าเช่าผ่านนายหน้า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ยอมให้เช่ารถในราคา 20,000 บาทต่อวัน ทำสัญญาเช่าเมื่อวันที่ 29 ก.ค. ก่อนนำรถไปส่งที่บ้านนายอธิป ที่หมู่บ้านกลางเมืองสาธร-ตากสิน ย่านฝั่งธนบุรี กระทั่งพบรถตนเองอยู่ในภาพข่าว นำหลักฐานเข้าแสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ยังไม่สามารถนำกลับไปได้ เพราะอยู่ในกระบวนการตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมาย

...

สำหรับรถเปอร์เช่คันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ยังยึดไว้ชั่วคราวเพื่อตรวจสอบ โดยจอดไว้บริเวณเสาธงหน้าโรงพัก ใช้ผ้าใบคลุมปกปิดไว้ หลังเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเก็บหลักฐานไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ส.ค.