รองผู้การกองปราบฯเผยพบพยานสำคัญ 2 ปากให้การเท็จ ส่อช่วย “บรรยิน” พ้นคดีวางแผนแหกคุก แต่จะเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดหรือไม่ต้องพิจารณาอีกครั้ง โดยอาทิตย์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น ยันคดีนี้มีมูล ไม่เช่นนั้นกองปราบฯไม่ทำคดีแน่
จากคดีครึกโครมกองปราบฯล้มแผนการชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องขังคดีฆ่าอำพรางนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และอุ้มฆ่าเผานั่งยางนายวีรชัย ศกุนตะประเสริฐ พี่ชายผู้พิพากษาอาวุโสในศาลอาญากรุงเทพใต้ ด้วยการจับกุมนายสุธน หรือโจ ทองศิริ อายุ 42 ปี และนายณัฐพล หรือท๊อป นรการ อายุ 30 ปี 2 อดีตผู้ต้องขังในเรือนจำเดียวกันที่ได้ประกันตัว โดยรับว่า พ.ต.ท.บรรยินวางแผนให้ทนายประกันตัวออกไปจัดชุดพาหลบหนี ก่อนกันทั้งคู่เป็นพยานปากเอก พร้อมเรียกสอบ 3 พยานสำคัญคือ พ.ต.ท.นุกูล แสงศิริ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ นายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความ และนายวรภัทร์ ตั้งภากรณ์ หรือบอส ลูกชาย พ.ต.ท.บรรยิน โดยทั้งหมดปฏิเสธไม่รู้เรื่องถึงแผนการแหกคุกของ พ.ต.ท.บรรยิน ขณะที่กองปราบฯเตรียมเรียกสอบนายกรณ์ กันเที่ยง ทนายความมาสอบปากคำเพิ่มเติมใหม่อีกครั้ง ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 ก.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. กล่าวหลังร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ ผู้ต้องหาในคดีสำคัญจากเรือนจำหลังตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เชิญพยานสำคัญ 3 คน มาให้ปากคำในฐานนะพยานทางคดี
พ.ต.อ.เอนกกล่าวว่า ในวันนี้ได้เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าของคดี จากการสอบปากคำพยานทั้ง 3 ปากสำคัญ พบว่ามี 2 ใน 3 ที่ให้การเป็นพิรุธ พยายามปกปิดข้อเท็จจริงเข้าข่ายให้การเท็จ แต่จะเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดการวางแผนชิงตัว พ.ต.ท.บรรยินหรือไม่ ต้องรอพิจารณาข้อเท็จจริงประกอบอีกครั้ง เนื่องจากรายละเอียดต่างๆยังอยู่ในสำนวน อย่างไรก็ตาม คดีดังกล่าวขณะนี้สอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 20 ปาก ต้องเรียกสอบพยานเพิ่มเติมอีก 4-5 ปาก ยืนยันว่าจากพยานหลักฐานที่พบมีการวางแผนการชิงตัว พ.ต.ท.บรรยิน จริงตามที่เป็นข่าว แต่ยังต้องหาพยานหลักฐานมายืนยันให้แน่ชัด ถ้าหากคดีนี้ไม่มีมูล ตำรวจกองปราบฯไม่ทำคดีแน่นอน
...
รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุมของกองปราบฯได้มีการแบ่งงานให้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีเร่งรวบรวมสืบหาพยานหลักฐานบางอย่าง รวมถึงสอบปากคำพยานบุคคลต่างๆเพิ่มอีกหลายปาก เพื่อนำมาพิจารณาว่าจะแจ้งข้อหาให้การเท็จกับพยานบุคคลสำคัญบางราย 2-3 คน ที่เคยมาให้การกับพนักงานสอบสวนก่อนหน้านี้ หลังพบว่ามีการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ ส่อไปในทางช่วยเหลือ พ.ต.ท.บรรยิน คาดว่าในสัปดาห์หน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น