หนุ่มใหญ่ขับรถบรรทุก 18 ล้อ ไม่เห็นแท็กซี่วิ่งอยู่ข้างสนามบินดอนเมือง พุ่งชนอย่างแรงทำให้รถพังยับเยิน ขณะที่กำแพงประตู 5 ของสนามบินก็ได้รับความเสียหาย โชเฟอร์อ้างกระจกมัวและสายตาก็ฝ้าฟางจึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าว
เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 2 ก.ค.63 พ.ต.ท.หญิงสิริภา ศรีทรัพย์ สวสอบสวน สน.วิภาวดี รับแจ้งเหตุรถบรรทุก 18 ล้อ เสียหลักชนข้างทางบริเวณริมถนนวิภาวดี แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กทม. จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน ถนนวิภาวดีฝั่งขาเข้า บริเวณริมถนนหน้าประตู 5 ทางเข้าสนามบินดอนเมือง พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อสแกเนีย หมายเลขทะเบียน 94-2502 กรุงเทพมหานคร ด้านหลังบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ระบุชื่อบริษัท สหฟาร์ม จำกัด เสียหลักปีนขอบบาทวิถี สภาพรถด้านหน้าพังเสียหายยับเยิน กำแพงสนามบินได้รับความเสียหาย โดยมีนายสุรพล พืชผักหวาน อายุ 55 ปี เป็นผู้ขับขี่ ด้านหลังรถบรรทุกพบรถนั่งสาธารณะสีเหลือง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส หมายเลขทะเบียน ทส 9902 ได้รับความเสียหายบริเวณท้ายรถฝั่งซ้ายถูกชนอย่างแรง บริเวณหน้าประตู 5 พบรถนั่งสาธารณะสีเขียว-เหลือง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส หมายเลขทะเบียน 1 มค 6943 กรุงเทพมหานคร ถูกชนได้รับความเสียหายบริเวณฝั่งขวาล้อพับเข้าไปใต้ท้องรถ ป้อมจราจรและป้ายบอกทางกระเด็นพังเสียหาย
...
นายสุคนธ์ ภาวินันท์ อายุ 53 ปี คนขับรถแท็กซี่ สีเขียว-เหลือง กล่าวว่า ตนกำลังขับรถมาเพื่อหาผู้โดยสารบริเวณสนามบินดอนเมืองเมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถแท็กซี่อีกคันอยู่ด้านหน้าก่อนจะได้ยินเสียงแตรรถบรรทุกดังหนึ่งครั้ง ตนจึงหันไปมองกระจกมองหลังเห็นรถบรรทุกพุ่งมาอย่างเร็วก่อนจะชนท้ายรถตนจนกระเด็นไปชนรถแท็กซี่อีกคันที่อยู่ด้านหน้า โชคดีที่ตนได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ด้านนายสุรพล พืชผักหวาน อายุ 55 ปี คนขับรถบรรทุก 18 ล้อ กล่าวว่า ตนขับรถกลับมาจากลพบุรีหลังจากนำไก่ไปส่งมาและกำลังขับกลับบริษัทย่านรามอินทรา ตอนเกิดเหตุขับรถมาด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. ซึ่งก่อนชนตนมองไม่เห็นรถแท็กซี่ที่ขับอยู่ด้านหน้าเนื่องจากกระจกรถมัวและตาตนฝ้าฟางจึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา "ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย" ก่อนจะนำตัวคนขับรถบรรทุก 18 ล้อไปตรวจวัดหาปริมาณแอลกอฮอล์หากพบว่าเกินที่กฎหมายกำหนดก็จะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป.