อ.ส.ค.ไม่หวั่นยอดขายตก พลิกวิกฤติโควิดฯ รุกออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง ประกาศยึดเจ้าตลาดนมยุค "New Normal" พร้อมชูจุดขาย วัตถุดิบ-ระบบการผลิต มาตรฐานสากล
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.63 นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า ในวิกฤตที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 อ.ส.ค.ได้มีการปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตใหม่ New Normal อย่างต่อเนื่อง หลังจากศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงาน โดยหันมาทำงานที่บ้าน จากเดิมต้องไปทำงานที่สำนักงาน หรือไม่ต้องเดินทางถึงห้างสรรพสินค้า ก็สามารถสั่งซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคมาที่บ้านได้ มีการสัมผัสน้อยลง และเกิดสังคมไร้เงินสด จึงมีแนวโน้มในการหันมาจับจ่ายใช้สอยผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซ และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มการซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้นตามลำดับ ดังนั้นเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ใหม่ ที่นับวันจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด อ.ส.ค.ได้เร่งศึกษากิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านระบบการตลาดออนไลน์ ในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 2 ช่องทาง เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคยุคปัจจุบันให้ครอบคลุมเป้าหมายมากขึ้น อาทิ การขายผ่านช่องทางเดลิเวอรี่ และช่องทางออนไลน์ใหม่ เป็นต้น
นอกจากนี้ในอนาคตยังได้เตรียมศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เช่น ผสมผลไม้หรือสมุนไพรไทยที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น เนื่องจากมีแนวโน้มที่พฤติกรรมของผู้บริโภคยุควิถีชีวิตใหม่ จะใส่ใจสุขภาพและความสะอาดมากขึ้น รวมทั้งเกิดการเสียสละแบ่งปันให้สังคม ทั้งบริจาคหน้ากาก และการแบ่งอาหารสู่ตู้ปันสุข
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า จากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วนั้น ประกอบกับสถานการณ์วิกฤตไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงยืดเยื้อส่งผลให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คลดลงจากที่วางเป้าหมายไว้เดือนละประมาณ 1,000 ล้านบาท ซึ่งอาจส่งผลต่อยอดขายภายในปี 2563 ที่วางไว้ 11,000 ล้านบาทไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ดังนั้น อ.ส.ค.ในฐานะรัฐวิสาหกิจของรัฐบาล จึงได้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังผ่านคณะกรรมการบริหาร อ.ส.ค.เพื่อขอทบทวนแผนวิสาหกิจ 5 ปี (พ.ศ.2560-2564) ประจำปี 2563ในส่วนของเป้าหมายรายได้และกำไรขององค์กร ส่วนปริมาณเท่าไหร่นั้นอยู่ระหว่างส่งข้อมูลให้คณะกรรมการบริหารประเมินสถานการณ์ ทั้งนี้นอกจากขอทบทวนในส่วนของรายได้และกำไรแล้ว ยังได้เสนอขอทบทวนเพื่อปรับลดขนาดโครงการและกิจกรรมประจำปีบางอย่าง เช่น โครงการสมาร์ทฟาร์มเมอร์ เนื่องจากมีข้อจำกัดในการเดินทางไปพบปะและทำกิจกรรมร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ ทั้งนี้หากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ ก็จะรับนำกลับมาดำเนินการเป็นปกติเหมือนเดิม เนื่องจากเป็นโครางการที่มีประโยชน์ต่อเกษตรกร
...
อย่างไรก็ตาม อ.ส.ค.ยังคงเชื่อมั่นในจุดแข็งหลายด้าน อาทิ วัตถุดิบ ระบบการผลิตที่ได้มาตรฐานสากล อีกทั้งยังเป็นหน่วยงานที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ เป็นจุดกําเนิดอาชีพพระราชทานที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน มีภาพลักษณ์เป็นองค์กรที่ส่งเสริมความเป็นอยู่ของเกษตรกร บุคลากรมีคุณภาพ และประสบการณ์สูงร่วมกว่า 56 ปี ทำให้สินค้าได้รับการยอมรับ และความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน จะทำให้ผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์ค ยังคงได้เปรียบในตลาดและยังคงรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดนมพร้อมดื่มไว้ได้อย่างยังยืน
"สำหรับสถานการณ์อื่นๆ อาทิ การรับซื้อน้ำนมดิบของเกษตรกรนั้น อ.ส.ค.ได้ทำ MOU รับซื้ออยู่ที่ 650 ตัว/วัน แต่ปัจจุบันรับซื้ออยู่ที่ 770 ตัน/วัน มากกว่าโควต้าถึง 120 ตัน/วัน แม้จะส่งผลต่อการมีภาระสต๊อกที่เพิ่มขึ้น ยอดขายตก แต่ อ.ส.ค.ไม่มีนโยบายที่จะลดการซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรลงอย่างแน่นอน เพราะเราต้องการช่วยเกษตรกรไม่ให้เดือดร้อนจนต้องนำน้ำนมดิบไปเททิ้งเหมือนในอดีต โดยราคารับซื้ออยู่ที่ประมาณ 19.30 บาท/กก. บวกลบตามคุณภาพ" นายสุชาติ กล่าว