ได้สิทธิ-บีโอไอจึงไม่ผิด กม.ใดๆ อธิบดีกรมการค้าภายในอำลา

ปลัดกระทรวงพาณิชย์มีคำสั่งให้ “ฉัตรชัย” ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และ “พูนพงษ์” รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า มาช่วยปฏิบัติราชการที่กรมการค้าภายใน ด้าน “วิชัย โภชนกิจ” น้ำตาคลออำลาตำแหน่งบอกปัญหาหน้ากากอนามัยเป็นงานหิน ส่วน “ประเดิมชัย” ส.ส.เพื่อไทย เผยย้ายอธิบดีกรมการค้าฯไม่ใช่การแก้ปัญหาเพราะคนส่วนใหญ่ซื้อแมสก์ไม่ได้แถมยังราคาแพงมหาโหด พร้อมชงให้ “เสรีพิศุทธ์” ตรวจสอบ เชื่อลักลอบส่งออกโดยมิชอบอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองเกี่ยวข้อง ด้านประธานสภาอุตฯเตือนอย่าตระหนกแห่กักตุนอาหารเพราะมีเพียงพอแน่นอน

จากสถานการณ์แพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาหน้ากากอนามัยขาดแคลน เอาผิดผู้ที่กักตุนขยายผลกรณีมีที่ปรึกษาหญิงของรัฐมนตรีบางคนมีส่วนเกี่ยวข้อง จับกุมผู้ขายหน้ากากอนามัยเกินราคา และมีคำสั่งห้ามส่งออกนอก ทั้งนี้กรมศุลกากรแฉข้อมูลห้วงเดือน ม.ค.-ก.พ.63 ส่งออกหน้ากากอนามัยกว่า 330 ตัน กระทบชิ่งไปถึงกระทรวงพาณิชย์ออกมาชี้แจงว่าเกิดขึ้นก่อนเป็นสินค้าควบคุม ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งลงวันที่ 15 มี.ค.63 เด้งฟ้าผ่า นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ไปปฏิบัติราชการสำนักนายกฯ จากปมหน้ากากอนามัย เจ้าตัวได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการจะมีผลในวันที่ 23 เม.ย.63

...

ความคืบหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มี.ค. นายวิชัยเดินทางมาประชุมร่วมกับข้าราชการกรมการค้าภายใน เพื่อมอบหมายงานและอำลาตำแหน่ง นายวิชัยกล่าวกับลูกน้องในห้องประชุมว่า มีบ้างที่ต้องรู้สึกน้อยใจแต่หลังจากลาออกไปแล้ว จะมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์มาสานต่องานเรื่องราคาสินค้า ลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และประเด็นเรื่องหน้ากากอนามัย คือนายฉัตรชัย ศักดิ์ศิลปชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ และนายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตามที่นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามคำสั่งให้มาช่วยปฏิบัติราชการที่กรมการค้าภายใน โดยไม่ขาดจากหน้าที่เดิม เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างพูดอำลาข้าราชการกับลูกน้องและผู้บริหารระดับสูง นายวิชัยน้ำตาคลอพูดด้วยเสียงสั่นเครือ

นายวิชัยกล่าวหลังประชุมว่า ปัญหาหน้ากาก อนามัยเป็นงานหินที่สุด ต่อให้ 100 วิชัยก็แก้ไม่ได้ เพราะเราติดกระดุมเม็ดแรก คือ ทุกคนต้องมีหน้ากากใส่ มีหน้ากากอนามัย 1.2 ล้านชิ้น คนไทย 65 ล้านคน ความคิดทุกคนต้องมีเป็นไปไม่ได้ หรือคิดเฉลี่ยการใช้หน้ากาก 1 ชิ้น จะมีคนใช้มากถึง 55 คนต่อวัน อัตราส่วนแบบนี้เป็นการเดินที่ผิดพลาดมาตั้งแต่ต้น ครั้งแรกบริหารแบบปันส่วน (จากโรงงานมา 5 แสนชิ้น ต่อวันที่เหลือโรงงานขาย) ยังไงก็ไม่พอ ต่อมามีปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ขาด ทุกคนรับไม่ได้ สุดท้ายเอามาทั้งหมด 1.2 ล้านชิ้น เอาตัวเลขมาบริหารจัดการสั่งจ่ายจากโรงงานไปปลายทาง ลำดับแรก 7 แสนชิ้นให้โรงพยาบาลรัฐและเอกชน บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย กระทรวงพาณิชย์บริหาร 5 แสนชิ้น ให้คนไทย 60 กว่าล้านคนเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับทุกคน เข็นภูเขาขึ้นครกยังง่ายกว่าให้ทุกคนมีหน้ากากใช้

“หลังจากบริหารจัดการเองทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. บริหารไปแล้ว 15 ล้านชิ้น ผ่านกระทรวงสาธารณสุข 8.5 ล้านชิ้น ผ่านกรมการค้าภายใน 7 ล้านชิ้น แต่ที่รู้สึกแย่ คือ การอนุญาตให้ส่งออก เพราะเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ โรงงานที่มาลงทุนผลิตเพื่อ ส่งออกได้ส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ไม่มีเงื่อนไขให้ขายในประเทศได้ อีกกรณีมีเงื่อนไขจ้างผลิต มีเครื่องหมายการค้าทำเป็นลอตขายในไทยไม่ได้ ถ้าไม่อนุญาตกระทรวงพาณิชย์จะผิดกฎหมาย กรณีสุดท้ายหน้ากากที่แพทย์ไทยไม่ใช้การอนุญาตให้ส่งออกที่ผ่านมาไม่เคยปิดบังภาพรวมขอส่งออก 53 ล้านชิ้น อนุญาตไป 12.7ล้านชิ้น ทำให้โปร่งใสตลอด แต่มีคนยกมาเป็นประเด็นก้าวล่วงให้ส่งออก 330 ตัน แจ้งดำเนินคดีแล้วเพราะทำให้กรมเสียชื่อเสียง เรื่องที่น่าห่วงตอนนี้คือ สร้างกระแสให้กักตุนสินค้าจะแรงกว่าหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ สุดท้ายภาระจะตกที่กรมการค้าภายใน” นายวิชัยกล่าว

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีย้ายนายวิชัยว่า กระทรวงพาณิชย์กำลังตั้งคณะกรรมการสอบสวนเป็นไปตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน แม้มีการลาออกการสอบสวนยังสามารถทำต่อได้ให้แล้วเสร็จภายใน 3 ปี ด้านนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กล่าวว่า นายวิชัยยังไม่มารายงานตัวแม้จะยื่นใบลาออกแล้วก็ต้องมารายงานตัวตามคำสั่งนายกฯ ตนยังไม่เห็นหนังสือลาออก ขอชี้แจงว่าเป็นการตรวจสอบกระบวนการปัญหาหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ และกรณีการกักตุนลักลอบส่งออกต่างประเทศไม่ใช่ตรวจสอบตัวบุคคล เพียงแต่นายวิชัยเป็นส่วนหนึ่งในขั้นตอนเรื่องของหน้ากากอนามัย

เย็นวันเดียวกัน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ เดินทางไปที่บ้านของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อหารือถึงสถานการณ์ขาดแคลนหน้ากากอนามัยและสั่งเด้งฟ้าผ่าอธิบดีกรมการค้าภายใน โดยมี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์มาร่วมหารือ 15 คน อาทิ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษา รมว.เกษตรฯ นายจุรินทร์ได้ชี้แจงลูกพรรคกรณีที่ปรึกษาหญิงตกเป็นข่าวกักตุนหน้ากากอนามัยว่า ได้ให้ที่ปรึกษาคนดังกล่าวสาบานต่อหน้าว่าไม่เกี่ยว ข้องใดๆ โดย ส.ส.ของพรรคบางคนเสนอให้ปลดออก

...

นายประเดิมชัย บุญช่วยเหลือ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) กล่าวว่า นายกฯย้ายอธิบดีกรมการค้าภายในไม่น่าจะเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ครบถ้วนเพียงการย้ายบุคลากรที่โดนครหาเท่านั้น แต่สังคมจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะไม่มีการลักลอบส่งออก หรือรัฐสามารถเร่งรัดกระบวนการผลิต กระจายหน้ากากอนามัยได้อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ถึงวันนี้คนส่วนใหญ่ยังไม่สามารถซื้อหาหน้ากากอนามัยและเจลล้างมือได้ ซื้อยากแล้วราคายังมหาโหดอีก ส่วนเรื่องการกักตุนและลักลอบส่งออกนั้นจะไม่ปล่อยให้ผู้เกี่ยวข้องลอยนวล เพราะหลักฐานขณะนี้เชื่อได้ว่า อาจมีการกักตุนและลักลอบส่งออกไปต่างประเทศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อาจมีเจ้าหน้าที่รัฐหรือนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องจะเสนอให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธาน กมธ.ป.ป.ช. ตรวจสอบ

ส่วนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า เรื่องคนกักตุนหน้ากากอนามัย พรรคเพื่อไทยไม่อยากให้รัฐบาลหยุดกระบวนการตามหาหน้ากากที่หายไปเพียงแค่ย้ายอธิบดี ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรขอให้เปิดเผยเอกสารการส่งออกหน้ากากทั้งหมดต่อองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบ ข้ออ้างที่ว่าหน้ากากที่ส่งออกนอกนั้นเป็นหน้ากากที่คนไทยไม่ใช้เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น กระบวนการตรวจสอบถ้าทำผิดฐานกักตุนและจำหน่ายเกินราคา มีการใช้วิธีเซฟทีคัตเพื่อไม่ให้ถึงตัวรัฐมนตรี โดยการเอาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แทนที่จะตรวจสอบเส้นทางการเงิน มีกระบวนการเอาผิด “บอย เดอะแมสก์” และมีการโยงไปถึงรัฐมนตรีหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วหรือยัง การตรวจสอบของรัฐต้องเร่งดำเนินการ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีความสนิทสนมกับนายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพ ที่ถูกกล่าวอ้างว่ากักตุนหน้ากากอนามัยว่า สอบถาม ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร หัวหน้าพรรคภราดรภาพ ทราบว่านายพันธ์ยศเป็นอดีตเลขาธิการพรรค ยอมรับว่ารู้จัก ร.อ.รชฏ และหลายคนหลายพรรคเป็นปกติธรรมดา ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย ไม่ได้เจอ ร.อ.รชฏมาหลายเดือนแล้ว ไม่น่าเอามาเกี่ยวกันได้เลย ตนมีหน้าที่ช่วยให้มีหน้ากากใช้กรมราชทัณฑ์กำลังผลิตหน้ากากผ้ามาเป็นทางเลือกอยู่ เป็นไปไม่ได้ที่จะไปเกี่ยวพันกับการกักตุน มองว่าอาจเป็นเรื่องระหว่างนักการเมืองบางคนที่เขามีปัญหากันอยู่

...

ส่วน น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ อดีต ส.ส.กทม. และที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีตกเป็นข่าวพัวพันกักตุนหน้ากากอนามัยว่า ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือก้าวก่ายงานของข้าราชการหน้ากากอนามัยที่นำไปแจกชาวบ้าน ช่วงต้นเดือน ก.พ. เป็นหน้ากากรูปการ์ตูน หาซื้อได้ตามท้องตลาดราคาแผ่นละ 10-12 บาท ต่อมาราคาแพงมากเพื่อนของตนที่อยู่บริษัทสหวิทยา ทำโครงการซีเอสอาร์สนับสนุนเงินทุนไปหาซื้อจากย่านสำเพ็งผลิตจากเวียดนามเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เคยใช้อำนาจหน้าที่ใดๆ เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการกักตุนหน้ากากอนามัยตามที่ปล่อยข่าวและมีหลักฐานมีสลิปการโอนเงิน

ทางด้านนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ามีสินค้าอุปโภค-บริโภคเพียงพออย่างแน่นอน เนื่องจากไทยเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของโลก ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนกแห่กักตุนอาหารเพราะสถานการณ์โรคโควิด-19 ส่วน นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร ส.อ.ท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาเศรษฐกิจของโลกและเศรษฐกิจไทยชะลอตัว กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารมีกำลังการผลิตไม่ถึง 60% ผู้ประกอบการจึงมีกำลังการผลิตได้อีกมาก ขณะนี้อาหารในประเทศล้นความ ต้องการบริโภค กลุ่มภัตตาคาร กลุ่มทัวร์ นักท่องเที่ยวปรับลดลง เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปผลิตได้วันละ 10 ล้านซอง สามารถเพิ่มการผลิตได้ถึง 15 ล้านซองต่อวัน

...

ที่โกดังเก็บสินค้าท่าเรือเอ 3 ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สายวันเดียวกัน นายนิมิตร แสงอำไพ ผอ.สำนักงานศุลกากร ท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมตำรวจ สภ.แหลมฉบัง และข้าราชการจาก กระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายใน ร่วมกันเปิดตู้คอนเทนเนอร์ 4 ใบบรรจุหน้ากากอนามัยทั้งแบบธรรมดาและใช้ทางการแพทย์ รวมกว่า 5.6 ล้านชิ้น เป็นสินค้าผลิตที่บริษัทแห่งหนึ่งในไทยเตรียมส่งขึ้นเรือสินค้าส่งออกไปสหรัฐอเมริกา นายนิมิตรกล่าวว่า บริษัทมีประวัติการส่งออกหน้ากากอนามัยประจำอยู่แล้วก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิค-19 ได้รับสิทธิจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) อายุสัญญา 1 ปี ในการส่งออกหน้ากากอนามัยตรวจสอบแล้วไม่ผิดกฎหมาย

ช่วงบ่ายวันเดียวกัน พ.อ.สรชัช สุทธิสนธิ์ รอง ผอ.รมน.จ.อุบลราชธานี นายชาญยุทธ วันดี พาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี นำกำลังตำรวจจับกุมนางวีรญา ศิริลาภ อายุ 50 ปี เจ้าของร้านดวงกมล ในศูนย์การค้ายูปาร์ค ถนนชยางกูร อ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมหน้ากากอนามัย 164 ชิ้น ขายราคาชิ้นละ 14 บาท และจับกุมนางพัชราภรณ์ ชาญกล้า อายุ 39 ปี เป็นผู้ดูแลร้านแฮปปี้ซุปเปอร์ ในตลาดสดเทศบาล 5 อ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมหน้ากากอนามัย 41 ชิ้น ขายชิ้นละ 19 บาท นำส่ง สภ.เมืองอุบลราชธานี ดำเนินคดี สอบสวนทั้งคู่ให้การว่าขายเกินราคาที่ควบคุม 2.50 บาท เนื่องจากต้นทุนแพง